“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
Self Care คือ อะไร ? ดูแลตัวเองยังไงให้ครบแบบองค์รวม ?! ชวนดูแลสุขภาพทั้งกายและใจกัน !
การดูแลตัวเองให้มีสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพกาย สุขภาพใจ ถือว่าเป็นหน้าที่ของตัวเราเองซึ่งไม่อาจละเลยได้ แต่หลายๆ คนก็หลงลืมที่จะดูแลสุขภาพตัวเองไปบ้าง ด้วยเพราะอาจจะทำงานหนัก หรือมีภาระหน้าที่ที่ต้องทำมากมาย แต่อย่างไรก็ตาม การใช้ชีวิตในปัจจุบันนั้น เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย ทั้งปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การเกิดโรคระบาด ทำให้เกิดการเจ็บป่วยหรือการมีสุขภาพที่ไม่ดี อีกทั้งยังทำให้ความเครียด ความวิตกกังวลใจ ความกลัว และอาจพัฒนาไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตอื่นๆ ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่จะต้องกลับมาดูแลตัวเองอย่างจริงจัง ด้วยการมี Self Care คือ การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ครอบคลุมทุกด้านทั้งกาย ใจ และจิตวิญญาณ และในบทความนี้ เพื่อสุขภาพอยากชวนผู้อ่านมารู้จักกับวิธีดูแลตัวเองให้สุขภาพดีอย่างรอบด้านกันให้มากขึ้น จะสามารถทำได้อย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ
Self Care คือ อะไร ? มารู้จักการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ให้กายและใจเราแข็งแรงกัน !
บางคนอาจเคยได้ยินคำว่า Self Care มาสักพัก และรู้คร่าวๆ ว่าหมายถึงการดูแลตัวเองให้มีสุขภาพแข็งแรง แต่ไม่ได้รู้แน่ชัดว่า Self Care คือการดูแลตัวเองแบบองค์รวมและครอบคลุมทุกด้าน ทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ ความสัมพันธ์ และจิตวิญญาณ โดยการทำกิจกรรมที่ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีให้กับชีวิต และดูแลตัวเองให้ไม่เครียด มีจิตใจสดชื่นผ่องใส และมีการเติบโตภายในตัวเอง เนื่องด้วยปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนแปลงไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อม การเกิดโรคระบาด หรือวิถีชีวิตที่สร้างความกดดันและก่อให้เกิดความเครียดกับผู้คน ดังนั้น จึงจะต้องมีการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อให้มีสุขภาพที่ดีในทุกๆ มิติ
การดูแลตัวเองแบบนี้ จะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น มีชีวิตชีวา รู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่าและมีความหมาย เต็มไปด้วยศักยภาพ และสามารถทำประโยชน์ให้ทั้งกับตนเองและผู้อื่น และดำรงชีวิตได้อย่างผาสุกนั่นเองค่ะ
Self Care แบ่งออกเป็นกี่ด้าน ?
มาดูกันว่า วิธีดูแลตัวเองให้สุขภาพดี และมี Self Care กับตัวเองนั้น จะต้องดูแลตัวเองในด้านใดบ้าง ให้ครอบคลุม และมีสุขภาพที่ดีแบบองค์รวมได้
1. Physical Self Care
Physical Self Care คือการดูแลสุขภาพกาย เป็นการดูแลร่างกายของตัวเองให้แข็งแรง ไม่เจ็บป่วย และมีพลังสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน การดำเนินชีวิต เป็นการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน เช่น กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ และอื่นๆ ดังนี้
- ใช้แรงหรือออกกำลังอย่างเหมาะสมกับวัย ได้ใช้ทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็กและใหญ่
- ขยับร่างกายให้มากขึ้น ไม่นั่งทำอะไรนานๆ หากนั่งทำงานทั้งวันให้ลุกเดินหรือยืดเส้นยืดสายทุก 1 ชั่วโมง
- กินอาหารเพื่อสุขภาพให้มากขึ้น เน้นผัก ผลไม้ คาร์โบรไฮเดรตเชิงซ้อน โปรตีนจากปลา ธัญพืช ลดการบริโภคเนื้อแดง
- ลดหวาน มัน เค็ม ลดการปรุงอาหารเพิ่มหรือกินอาหารรสจัดเกินไป
- กินในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกาย กินแต่พออิ่ม
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ในวัยผู้ใหญ่ควรนอนหลับ 7 – 9 ชั่วโมง
- เมื่อเจ็บป่วยควรดูแลร่างกายตัวเอง หยุดพักจากการทำงาน และรักษาตัวเองให้แข็งแรง
2. Social Self Care
การดูแลตัวเองด้านสังคม หรือ Social Self Care คือการดูแลตัวเองด้านความสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัว โดยการใช้เวลาร่วมกัน เช่น ออกไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง ออกไปทำกิจกรรมกลุ่ม เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบตัว และลดความขัดแย้ง สานสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทำได้โดยวิธีดังนี้
- ใช้เวลากับคนรักหรือคนในครอบครัวให้มากขึ้น
- นัดเจอเพื่อนบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนเก่าหรือเพื่อนใหม่ เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์และไม่ขาดการติดต่อกัน
- ไม่ลืมที่จะดูแลคนใกล้ชิด ใส่ใจห่วงใยกัน เช่น ส่งข้อความหรือโทรหาบ้าง
- เข้ากลุ่มชมรมเพื่อทำกิจกรรมที่ชอบ เช่น กลุ่มเล่นกีฬา ชมรมถ่ายรูป ชมรมทำงานประดิษฐ์หรืองานฝีมือ คลาสสอนศิลปะ เป็นต้น
- พูดคุยสอบถามสารทุกข์สุขดิบกับคนใกล้ตัวอย่างสม่ำเสมอ เช่น คนในครอบครัว คนรัก เพื่อนสนิท เป็นต้น
- ให้ความช่วยเหลือคนใกล้ตัว หรือคนในชุมชน หรือในสังคมเท่าที่โอกาสและกำลังกายกำลังทรัพย์จะเอื้ออำนวย
3. Emotional Self Care
การดูแลตัวเองในเชิงอารมณ์ หมายถึง มีทักษะการจัดการอารมณ์ที่ดี เพื่อที่จะสามารถควบคุมและจัดการกับอารมณ์เชิงลบที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ ความวิตกกังวล ความเศร้า และมีความมั่นคงทางอารมณ์ ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้
- ฝึกการรับรู้อารมณ์ของตัวเอง เช่น ตอนนี้รู้สึกอย่างไร เพราะเหตุใดถึงรู้สึกแบบนี้
- ฝึกให้มีทักษะการจัดการกับอารมณ์ เช่น สามารถควบคุมอารมณ์ได้ จัดการความรู้สึกลบๆ ออกไปได้ ไม่จมอยู่กับความทุกข์
- ฝึกสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งสมาธิ นอนสมาธิ การกำหนดลมหายใจเข้าออก หรือการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องใช้สมาธิสูง ซึ่งผลของการนั่งสมาธิ จะช่วยให้มีความมั่นคงทางอารมณ์ มีจิตใจที่นิ่งขึ้นได้
- ถ้าวันไหนรู้สึกเศร้า เสียใจ ก็สามารถพูดคุยกับคนรัก เพื่อนสนิท เพื่อเป็นการระบายความเครียดและความกังวลได้
- ไม่อยู่ในสถานการณ์ที่เครียดหรือทำให้รู้สึกลำบากใจ หัดปฏิเสธคนอื่นบ้างถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร
- ถ้ารู้สึกเหนื่อยมากๆ ก็อนุญาตให้ตัวเองหยุดพักบ้าง การให้ตัวเองหยุดพัก หยุดคิดเรื่องอื่นๆ สักครู้ ก็เป็น Emotional Self Care คือการดูแลอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองเช่นกัน
เกร็ดสุขภาพ : การวิจัยแสดงให้เห็นว่า การนั่งสมาธิเพียงวันละ 5 นาทีสามารถช่วยบรรเทาความเครียดได้ และทำให้อารมณ์เย็นขึ้น ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบๆ หลับตาลง หายใจเข้าออกช้าๆ และมีสมาธิจดอยู่อยู่กับการกำหนดลมหายใจ อันจะทำให้เรารู้สึกสงบผ่อนคลาย และใจเย็นลงมากขึ้น
4. Mental Self Care
การดูแลตัวเองด้านสุขภาพใจ หรือ Mental Self Care คือการดูแลจิตใจของตัวเองให้ร่าเริงผ่องใส ผ่อนคลาย ไม่เครียดอยู่เสมอ หรือทำให้ตัวเองมีสุขภาพจิตที่ดี อารมณ์ดี มีความสุข ซึ่งสามารถทำได้โดย
- ทำกิจกรรมที่ตัวเองสนใจ เช่น อ่านหนังสือ ดูภาพยนตร์ที่กระตุ้นแรงบันดาลใจ
- ลองทำงานศิลปะดูบ้าง หรือไปเที่ยวพิพิธพัณฑ์ศิลปะ เพื่อสร้างความจรรโลงใจ
- มี Self Awareness หรือการตระหนักรู้ในตนเอง
- ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น มองเห็นคุณค่าในตัวเอง
- รายล้อมไปด้วยผู้คนที่ส่งพลังบวกให้แก่กัน
- อยู่ในความสัมพันธ์ที่ดี
- ฝึกรักตัวเองให้มากขึ้น
- ทำ Social Detox บ้าง ตัดขาดจากเทคโนโลยีอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
- ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองเริมมีปัญหาด้านสุขภาพใจ เช่น เข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า มีภาวะสิ้นยินดี (ลองอ่านและทำแบบทดสอบภาวะสิ้นยินดีเพิ่มเติมได้นะคะ) ให้พูดคุยกับนักจิตวิทยาหรือปรึกษาจิตแพทย์ได้เลย
5. Spiritual Self Care
Spiritual Self Care คือการดูแลตัวเองในเชิงจิตวิญญาณ เป็นการเติบโตจากภายใน กล่าวคือ ดูแลปกป้องจิตใจตัวเองให้เข้มแข็ง มีความเชื่อว่าตัวเองสามารถพัฒนาได้ เชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเอง เข้าถึงปรัชญาการใช้ชีวิต บำรุงจิตใจให้ผ่องใส มีการยกระดับจิตวิญญาณ ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้
- ศึกษาเกี่ยวกับคำสอนในศาสนาที่นับถือ หรือศึกษาปรัชญาแขนงต่างๆ
- สัมผัสกับธรรมชาติให้มากขึ้น เช่น ลองไปเดินป่า หรือไปดำน้ำ ไปทะเล เพื่อให้ธรรมชาติบำบัดจิตใจและบรรเทาความเครียด
- มีการเติบโตภายในตัวเอง เช่น มีการพัฒนาจิตใจ มีความเชื่อมั่นในความสามารถและศักยภาพของตัวเองว่าสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้
- เขียนบันทึกและไตร่ตรองกับเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตว่า ได้ให้ข้อคิดหรือบทเรียนอะไรกับตัวเองหรือไม่
- มี Gratitude Mindset หรือความรู้สึกขอบคุณสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต รู้สึกว่าชีวิตมีค่า
- มองเห็นความดีงามเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน
ความสำคัญของการมี Self Care หรือการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
ปัจจุบัน วิธีดูแลตัวเองให้สุขภาพดี เพียงแค่การดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจก็อาจไม่เพียงพอ จึงจะต้องมีการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ครอบคลุมกับชีวิตทุกๆ ด้าน ซึ่งการมี Self Care มีความสำคัญดังนี้
- ลดการเกิดภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล
- ลดความเครียดและเพิ่มทักษะความยืดหยุ่นในชีวิต หรือ Resillience
- ทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น
- มีพลังกาย พลังใจที่จะใช้ชีวิตต่อไป
- ไม่รู้สึกเบื่อหน่าย เหนื่อยหน่าย หรือหมดไฟในการใช้ชีวิต
- จิตใจเข้มแข็งมากขึ้น มีความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวตนภายในของตัวเอง
ทั้งนี้ การดูแลตัวเองแบบองค์รวม หรือการมี Self Care คือแนวทางการใช้ชีวิตที่จะทำให้เรามีสุขภาพแข็งแรงขึ้นในทุกๆ ด้าน รวมถึงส่งผลให้มีอายุยืนยาวมากขึ้นด้วย เนื่องจากสุขภาพกาย สุขภาพจิต การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบตัว และการค้นหาจุดมุ่งหมายในชีวิตหรือการเติบโตของตัวตนภายใน ล้วนมีความเชื่อมโยงกัน และส่งผลต่อชีวิตในทุกๆ ด้าน
เกร็ดสุขภาพ : จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) กล่าวว่า การมี Self Care เป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยส่งเสริมให้คนเรามีสุขภาพที่แข็งแรงแล้ว ยังสามารถป้องกันความเจ็บป่วย ป้องการการโรคต่างๆ และช่วยให้ผู้คนสามารถรับมือกับความเจ็บป่วยหรือโรคภัยต่างๆ ได้ดีขึ้นด้วย
ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการมีสุขภาพที่แข็งแรง การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ คือเรื่องจริงเสมอ เพราะการเจ็บป่วยในแต่ละครั้ง นอกจากจะไม่สบายกายแล้ว จิตใจก็ยังหม่นหมองตามไปด้วย หรือแม้แต่อาการไม่สบายทางใจ ก็ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายด้วยกัน แม้กระทั่งการมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับคนรอบตัว ก็ทำให้เรากังวลใจ ไม่สบายใจได้ และอาจส่งผลในเชิงจิตวิญญาณหรือสภาพจิตใจด้วย อาจกล่าวได้ว่า ไม่ว่ากายหรือใจ ก็ล้วนมีความสัมพันธ์กันทั้งสิ้น ดังนั้น การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม จึงเป็นวิธีการดูแลตัวเองให้สุขภาพดีได้ครบทุกด้านอย่างครอบคลุม และมีสุขภาพดีในทุกๆ ด้านค่ะ
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ