“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
รวม 8 ถั่วฝักยาว เมนู แค่เห็นก็หิว ทำตามง่าย ไม่ยุ่งยาก ใครทำก็อร่อย !
“ถั่วฝักยาว” เป็นผักที่เรามักจะเห็นจัดเป็นเครื่องเคียงอยู่ข้างจานส้มตำ น้ำตก ลาบ หรืออาหารอีสานอื่นๆ เพราะสามารถกินสดได้ ให้รสหวานกรอบอร่อย แต่นอกจากเราจะกินถั่วฝักยาวเป็นผักเคียงแล้วนั้น ถั่วฝักยาวยังเอามาทำเมนูอร่อยๆ ได้อีกมากมายเลยนะคะ อย่างเช่น เป็นส่วนผสมในเมนูปลากรายต่างๆ หรือแม้แต่เมนูที่ทำได้ง่ายๆ อย่างไข่เจียวก็สามารถใช้วัตถุดิบอย่างถั่วฝักยาวได้ด้วยเช่นกัน ในบทความนี้ เพื่อสุขภาพ จะพาไปดูถั่วฝักยาว เมนูที่เราบอกเลยว่า แค่เห็นก็หิวได้แล้ว ตามมาดูกันค่ะว่ามีเมนูไหนน่ากินถูกใจคุณกันบ้าง
ถั่วฝักยาว เมนูไหนบ้าง ? ที่ถูกใจทั้งคุณ และครอบครัว
ถั่วฝักยาวเป็นผักที่มีคุณประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ โดยเฉพาะวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินเค และโฟเลต นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งใยอาหารที่ดี ช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหารและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ถั่วฝักยาวมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยต้านการอักเสบและชะลอวัย ด้วยแคลอรี่ที่ต่ำ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก อีกทั้งยังเป็นแหล่งโปรตีนพืชที่ดีสำหรับผู้ทานมังสวิรัติ นอกจากนี้สารอาหารในถั่วฝักยาวอย่าง ลูทีนและซีแซนทีนยังช่วยบำรุงสายตา แถมยังมีโพแทสเซียมที่สูงช่วยควบคุมความดันโลหิตด้วย และมีวิตามินเคและแคลเซียมที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพกระดูกอีกด้วย ดังนั้นการรับประทานถั่วฝักยาวเป็นประจำจึงเป็นวิธีง่ายๆ ในการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับร่างกาย เอาหล่ะ เราลองมาดูเมนูยั่วน้ำลายทั้ง 8 เมนูที่เราเลือกมานำเสนอกันเลย
1. หมูสับผัดถั่วฝักยาว
จานนี้เป็นอาหารจานเดียวที่ทำได้ง่ายและใช้เวลาไม่นาน เหมาะสำหรับมื้อเร่งด่วน ความกรอบของถั่วฝักยาว และความนุ่มของหมูสับ รวมถึงรสชาติเค็มหวานของเครื่องปรุง ทำให้เป็นเมนูที่อร่อยถูกปากคนไทย ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนรสชาติหรือส่วนผสมได้ตามชอบ เช่น เพิ่มความเผ็ด หรือใช้เนื้อสัตว์อื่นแทนหมูสับค่ะ
วัตถุดิบ
- ถั่วฝักยาว 200 กรัม
- หมูสับ 150 กรัม
- กระเทียมสับ 2-3 กลีบ
- พริกขี้หนูสับ 2-3 เม็ด (ปรับตามความเผ็ดที่ต้องการ)
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- น้ำสต๊อก หรือน้ำเปล่า 2-3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ล้างถั่วฝักยาวให้สะอาด หั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 2 นิ้ว
- ตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอร้อนใส่กระเทียมและพริกลงไปผัดจนหอม
- ใส่หมูสับลงไปผัด คลุกเคล้าให้สุก เมื่อหมูเริ่มสุก ใส่ถั่วฝักยาวลงไปผัด ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้เข้ากัน เติมน้ำสต๊อกหรือน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย ผัดต่อจนถั่วฝักยาวสุกกำลังดี ให้ถั่วฝักยาวยังกรอบอยู่ ชิมรสตามชอบ ถ้าต้องการให้เค็มหรือหวานเพิ่ม สามารถปรุงเพิ่มได้ ยกลงจากเตา เสิร์ฟร้อนๆ กับข้าวสวย
เคล็ดลับความอร่อย : ไม่ควรผัดถั่วฝักยาวนานเกินไป เพื่อให้ยังคงความกรอบและสีสวย หากชอบเผ็ดมากขึ้น สามารถเพิ่มพริกขี้หนูได้ตามต้องการ
2. แกงเขียวหวานถั่วฝักยาว
แกงเขียวหวานถั่วฝักยาว เป็นเมนูที่นำเอาความเผ็ดร้อนของแกงเขียวหวานมาผสมผสานกับความกรอบของถั่วฝักยาว ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมและมีเนื้อสัมผัสที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบอาหารรสจัดและต้องการเพิ่มผักในมื้ออาหาร หรือจะดัดแปลงเป็นใส่แตงกวา เมนูใหม่ๆ ก็ได้นะคะ
วัตถุดิบ
- ถั่วฝักยาว 200 กรัม
- เนื้อไก่หั่นชิ้น 200 กรัม (หรือใช้เนื้อหมู หรือเต้าหู้แทนได้)
- กะทิ 2 ถ้วย
- น้ำพริกแกงเขียวหวาน 2-3 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูดฉีก 2-3 ใบ
- พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ 1-2 เม็ด
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- ใบโหระพา 1 กำมือ
วิธีทำ
- ล้างถั่วฝักยาวให้สะอาด หั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 2 นิ้ว ตั้งหม้อใส่กะทิครึ่งถ้วย เคี่ยวจนแตกมัน
- ใส่น้ำพริกแกงเขียวหวานลงไปผัดจนหอม ใส่เนื้อไก่ลงไปผัดจนสุก เติมกะทิที่เหลือลงไป พร้อมใบมะกรูด ต้มให้เดือด ใส่ถั่วฝักยาว ต้มต่อประมาณ 3-5 นาที หรือจนถั่วฝักยาวสุกกำลังดี
- ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ ชิมรสตามชอบ ใส่พริกชี้ฟ้าแดงและใบโหระพา คนให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักเสิร์ฟร้อนๆ กับข้าวสวย
เคล็ดลับความอร่อย : ควรใส่ถั่วฝักยาวในช่วงท้ายเพื่อให้ยังคงความกรอบอยู่ สามารถปรับความเผ็ดได้โดยเพิ่มหรือลดปริมาณน้ำพริกแกง หากต้องการให้แกงข้นขึ้น สามารถเคี่ยวกะทิให้นานขึ้นได้
เกร็ดสุขภาพ : ประโยชน์ดีๆ อีกอย่างของถั่วฝักยาวคือ ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน และช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนได้ เพราะมีแคลเซียม และฟอสฟอรัส แร่ธาตุสำคัญ ทั้งยังมากไปด้วยวิตามินซี ถั่วฝักยาว 100 กรัมให้วิตามินซีสูงถึง 18.8 มก. หรือ 31% วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับการติดเชื้อ ป้องกันการเกิดโรคหวัด รักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยรักษาความยืดหยุ่นของหลอดเลือด และป้องกันโรคมะเร็งได้
3. ยำถั่วฝักยาวกุ้งแห้ง
ยำถั่วฝักยาวกุ้งแห้ง เป็นอาหารไทยที่มีรสชาติเปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวาน ครบรส ให้ความสดชื่นและกรุบกรอบ เหมาะสำหรับเป็นกับแกล้มหรือเมนูเรียกน้ำย่อย สำหรับใครที่ชอบอาหารแนวยำๆ แซ่บๆ นั้น ลองดูวิธีการทำยำขนมจีนอีกหนึ่งเมนูกันต่อได้นะคะ
วัตถุดิบ
- ถั่วฝักยาว 200 กรัม
- กุ้งแห้ง 1/4 ถ้วย
- พริกขี้หนูสับ 3-5 เม็ด (ปรับตามความเผ็ดที่ต้องการ)
- กระเทียมสับ 2 กลีบ
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
- มะเขือเทศลูกเล็ก หั่นซีก 5-6 ลูก
วิธีทำ
- ล้างถั่วฝักยาวให้สะอาด หั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 1 นิ้ว ต้มน้ำให้เดือด ใส่ถั่วฝักยาวลงไปลวกประมาณ 30 วินาที ให้สุกกรอบ แล้วตักขึ้นแช่น้ำเย็นเพื่อหยุดการสุก และคงความกรอบ
- ทอดกุ้งแห้งในน้ำมันร้อนให้กรอบ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
- ทำน้ำยำ โดยผสมน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลทราย คนให้น้ำตาลละลาย ใส่พริกขี้หนูสับและกระเทียมสับลงในน้ำยำ คนให้เข้ากัน นำถั่วฝักยาวที่ลวกไว้มาใส่ในชามผสม เติมน้ำยำ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่กุ้งแห้งทอดกรอบ ถั่วลิสงคั่ว และมะเขือเทศลงไป คลุกเบาๆ ให้เข้ากัน ชิมรส ปรับตามชอบ อาจเพิ่มน้ำมะนาวหากต้องการให้เปรี้ยวขึ้น หรือเพิ่มน้ำตาลหากต้องการให้หวานขึ้น ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
เคล็ดลับความอร่อย : การลวกถั่วฝักยาวและแช่น้ำเย็นทันทีจะช่วยให้ถั่วฝักยาวมีสีเขียวสดและกรอบน่ารับประทาน สามารถเพิ่มความหลากหลายโดยใส่ผักอื่นๆ เช่น แครอทขูด หรือถั่วงอก หากชอบรสจัด สามารถเพิ่มพริกขี้หนูได้ตามต้องการ สามารถใช้กุ้งสดต้มสุกแทนกุ้งแห้งได้ เพื่อเพิ่มโปรตีนและรสชาติที่แตกต่าง
4. ไข่เจียวถั่วฝักยาว
ไข่เจียวถั่วฝักยาวเป็นเมนูง่ายๆ ที่อร่อยและมีประโยชน์ เหมาะสำหรับมื้อเช้าหรือเป็นกับข้าวจานด่วน ที่ให้โปรตีนจากไข่และวิตามินจากถั่วฝักยาว เป็นเมนูที่ทำง่าย รวดเร็ว และอิ่มท้อง เหมาะสำหรับทุกมื้ออาหาร
วัตถุดิบ
- ไข่ไก่ 3-4 ฟอง
- ถั่วฝักยาว 100 กรัม
- หอมแดงซอย 2 หัว (ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ)
- น้ำมันพืชสำหรับทอด 2-3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
- เกลือ เล็กน้อย (ประมาณ 1/8 ช้อนชา)
วิธีทำ
- ล้างถั่วฝักยาวให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดประมาณ 0.5 ซม.
- ตอกไข่ใส่ชาม เติมน้ำปลา พริกไทยป่น และเกลือ ตีให้เข้ากัน ใส่ถั่วฝักยาวหั่นและหอมแดงซอยลงในชามไข่ คนให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไป เมื่อน้ำมันร้อน เทส่วนผสมไข่และถั่วฝักยาวลงไป เกลี่ยให้กระจายทั่วกระทะ ทอดจนด้านล่างเริ่มเป็นสีน้ำตาลทอง (ประมาณ 2-3 นาที) ใช้ตะหลิวพลิกไข่เจียว ทอดอีกด้านจนสุกเหลืองทอง (ประมาณ 1-2 นาที) ตักขึ้นจากกระทะ วางบนกระดาษซับน้ำมันเพื่อซับน้ำมันส่วนเกิน หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เสิร์ฟร้อนๆ
เคล็ดลับความอร่อย : หากต้องการให้ไข่เจียวฟูและนุ่มขึ้น สามารถเติมนมสดหรือครีมเล็กน้อยลงในไข่ได้ สามารถเพิ่มเนื้อสัตว์ เช่น หมูสับ หรือกุ้งสับ เพื่อเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ หากชอบรสเผ็ด สามารถใส่พริกขี้หนูสับลงไปในส่วนผสมได้ ทานคู่กับซอสพริกหรือซอสมะเขือเทศเพื่อเพิ่มรสชาติ
5. ถั่วฝักยาวผัดไข่
ถั่วฝักยาวผัดไข่เป็นเมนูง่ายๆ ที่อร่อย และให้คุณค่าทางโภชนาการสูง เหมาะสำหรับมื้อง่ายๆ ได้โปรตีนจากไข่และวิตามินจากถั่วฝักยาว ทำง่าย รวดเร็ว เหมาะสำหรับมื้อง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน
วัตถุดิบ
- ถั่วฝักยาว 200 กรัม
- ไข่ไก่ 2-3 ฟอง
- กระเทียมสับ 2-3 กลีบ
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1/4 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
- น้ำสต๊อกหรือน้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ล้างถั่วฝักยาวให้สะอาด หั่นเฉียงเป็นท่อนยาวประมาณ 2 นิ้ว ตอกไข่ใส่ชาม ตีให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไป เมื่อน้ำมันร้อน ใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนหอม ใส่ถั่วฝักยาวลงไปผัด ใช้ไฟแรง ผัดให้ทั่วประมาณ 1-2 นาที
- เติมน้ำสต๊อกหรือน้ำเปล่าลงไป ผัดต่อจนถั่วฝักยาวเริ่มนุ่ม ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำปลา และน้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้เข้ากัน เบาไฟลง เทไข่ที่ตีไว้ลงไปในกระทะ ใช้ตะหลิวคนไข่ให้เข้ากับถั่วฝักยาว ผัดจนไข่สุก โรยพริกไทยป่น ผัดอีกครั้งให้เข้ากัน ชิมรส ปรับตามชอบ ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
เคล็ดลับความอร่อย : ควรผัดถั่วฝักยาวให้สุกพอดี ไม่เละเกินไป เพื่อให้ยังคงความกรอบอยู่ สามารถเพิ่มความเผ็ดโดยใส่พริกขี้หนูสับหรือพริกชี้ฟ้า หากต้องการให้มีรสชาติเข้มข้นขึ้น สามารถเติมซอสหอยนางรมได้เล็กน้อยและเพิ่มเต้าหู้หั่นเต๋าลงไปผัดด้วยเพื่อเพิ่มโปรตีนได้ค่ะ
6. ข้าวผัดถั่วฝักยาว
ข้าวผัดถั่วฝักยาวเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ทำง่าย รวดเร็ว และอร่อย เหมาะสำหรับมื้อกลางวันหรือมื้อเย็นที่ต้องการความสะดวก อิ่มท้อง มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน ทั้งคาร์โบไฮเดรตจากข้าว โปรตีนจากเนื้อสัตว์และไข่ และวิตามินจากผัก เหมาะสำหรับทำรับประทานในครอบครัวหรือพกไปทานนอกบ้าน
วัตถุดิบ
- ข้าวสวยเย็น 2 ถ้วย
- ถั่วฝักยาว 150 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
- หอมใหญ่หั่นเต๋า 1/2 หัว
- เนื้อไก่หรือหมูหั่นชิ้นเล็ก 100 กรัม (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
- เกลือ เล็กน้อย (ตามชอบ)
วิธีทำ
- ล้างถั่วฝักยาวให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตั้งกระทะใช้ไฟแรงปานกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไป เมื่อน้ำมันร้อน ใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนหอม ใส่เนื้อไก่หรือหมูลงไปผัดจนสุก ใส่หอมใหญ่ลงไปผัดจนเริ่มนุ่ม
- เลื่อนส่วนผสมที่ผัดไว้แล้วไปด้านข้างของกระทะ ใส่ไข่ลงไปตรงกลาง ตีให้แตก แล้วผัดให้สุก ใส่ถั่วฝักยาวลงไปผัดให้เข้ากัน
- ใส่ข้าวสวยเย็นลงไป ผัดให้เข้ากับส่วนผสมทั้งหมด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม พริกไทยป่น และเกลือ ผัดต่อจนข้าวร้อนทั่วถึงและส่วนผสมเข้ากันดี ชิมรส ปรับตามชอบ ตักใส่จาน เสิร์ฟร้อนๆ
เคล็ดลับความอร่อย : ใช้ข้าวสวยเย็นจะทำให้ข้าวผัดไม่เละและร่วนดี สามารถเพิ่มผักอื่นๆ เช่น แครอทหั่นเต๋า หรือข้าวโพดเม็ด เพื่อเพิ่มสีสันและคุณค่าทางอาหาร หากชอบเผ็ด ก็สามารถเติมพริกขี้หนูสับหรือพริกไทยสดบดหยาบ เสิร์ฟพร้อมแตงกวาหั่นแว่นและมะนาวฝานเพื่อเพิ่มความสดชื่นได้ค่ะ
7. แกงส้มถั่วฝักยาวกุ้งสด
แกงส้มถั่วฝักยาวกุ้งสดเป็นอาหารไทยที่มีรสชาติเปรี้ยวเผ็ด อร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ให้รสชาติที่สดชื่น เปรี้ยวเผ็ด เหมาะสำหรับรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ เป็นเมนูที่ช่วยเพิ่มความอยากอาหารและให้วิตามินจากผักและโปรตีนจากกุ้ง
วัตถุดิบ
- ถั่วฝักยาว 200 กรัม
- กุ้งสด 300 กรัม
- น้ำพริกแกงส้ม 2-3 ช้อนโต๊ะ
- มะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1-2 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูดฉีก 2-3 ใบ
- น้ำสะอาด 4 ถ้วย
วิธีทำ
- ล้างถั่วฝักยาวให้สะอาด หั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 2 นิ้ว
- ล้างกุ้งสด ปอกเปลือก เอาเส้นดำออก (เก็บหัวกุ้งไว้) ตั้งหม้อใส่น้ำ นำหัวกุ้งลงไปต้มเพื่อทำน้ำซุป พอเดือดให้ตักหัวกุ้งออก
- ใส่น้ำพริกแกงส้มลงในน้ำซุป คนให้ละลาย ใส่มะขามเปียกลงไป คนให้ละลาย ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ ชิมรสให้ได้รสเปรี้ยวนำ เค็มและหวานตาม พอน้ำแกงเดือด ใส่ถั่วฝักยาวลงไป ต้มจนถั่วฝักยาวเริ่มนุ่ม (ประมาณ 3-4 นาที) ใส่กุ้งสดลงไป ต้มต่อจนกุ้งสุก (ประมาณ 2-3 นาที) ใส่ใบมะกรูดฉีก คนให้เข้ากัน ชิมรสอีกครั้ง ปรับตามชอบ ตักใส่ชาม เสิร์ฟร้อนๆ
เคล็ดลับความอร่อย : สามารถใช้น้ำมะนาวแทนมะขามเปียกได้ เพื่อเพิ่มความเปรี้ยว หากต้องการให้แกงมีรสเผ็ดมากขึ้น สามารถเพิ่มพริกขี้หนูสดหรือพริกชี้ฟ้าหั่นลงไป หรือเติมผักอื่นๆ เช่น มะเขือเปราะ หรือสับปะรด เพื่อเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางอาหาร และควรใส่กุ้งในช่วงท้ายเพื่อให้กุ้งไม่สุกเกินไปและยังคงความนุ่ม
8. ถั่วฝักยาวทอดกรอบ
ถั่วฝักยาวทอดกรอบเป็นของว่างหรือเครื่องเคียงที่อร่อย กรุบกรอบ และทำได้ง่าย เหมาะสำหรับรับประทานเล่นหรือเป็นส่วนประกอบในอาหารอื่นๆ เรียกว่าเป็นขนมขบเคี้ยวที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าขนมขบเคี้ยวทั่วไป เพราะยังคงคุณค่าทางอาหารของผักไว้ได้บางส่วน อีกทั้งยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการรับประทานผักในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม
วัตถุดิบ
- ถั่วฝักยาว 300 กรัม
- แป้งทอดกรอบ 1 ถ้วย
- น้ำเปล่าเย็น 3/4 ถ้วย
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
- น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
- ล้างถั่วฝักยาวให้สะอาด ตัดหัวท้ายออก แล้วหั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 2-3 นิ้ว
- ผสมแป้งทอดกรอบ เกลือ และพริกไทยในชาม คนให้เข้ากัน ค่อยๆ เติมน้ำเย็นลงไป คนให้เข้ากันจนได้แป้งชุบที่ไม่ข้นหรือเหลวเกินไป
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับทอด ใช้ไฟปานกลาง นำถั่วฝักยาวจุ่มลงในแป้งชุบให้ทั่ว เมื่อน้ำมันร้อน นำถั่วฝักยาวที่ชุบแป้งแล้วลงทอด ทอดจนเหลืองกรอบ ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที ตักขึ้นพักบนกระดาษซับน้ำมันให้สะเด็ดน้ำมัน ทอดจนหมดทุกชิ้น เสิร์ฟขณะยังร้อนและกรอบ
เคล็ดลับความอร่อย : หลังจากทอดเสร็จแล้ว สามารถเติมรสชาติโดยโรยผงปรุงรส เช่น ผงพริกป่น ผงชีส หรือสมุนไพรอบแห้งลงบนถั่วฝักยาวทอดกรอบ ควรทอดในน้ำมันที่ร้อนพอดี ไม่ร้อนเกินไปเพื่อให้ถั่วฝักยาวสุกทั่วถึงและกรอบนาน หากต้องการให้แป้งชุบฟูและกรอบมากขึ้น ก็ให้เติมผงฟูเล็กน้อยลงในแป้งชุบได้ และเสิร์ฟพร้อมซอสจิ้มต่างๆ เช่น ซอสมายองเนส ซอสพริก หรือน้ำจิ้มไก่ ได้เลยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : ถั่วฝักยาวเป็นผักที่กินสดหรือกินดิบได้ไม่เป็นอันตราย เพียงแต่ควรล้างทำความสะอาดให้ดีก่อนกินเสมอ นอกจากนี้ข้อควรระวังคือ หากกินแบบดิบในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการแน่นท้อง และท้องอืดได้ เนื่องจากถั่วฝักยาวดิบมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และมีเทนสูง
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าคุณจะเลือกปรุงถั่วฝักยาว เมนู ในรูปแบบใด ก็ขอให้เพลิดเพลินกับรสชาติและคุณประโยชน์ที่มาพร้อมกับผักชนิดนี้นะคะ และอย่าลืมที่จะสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสนุก และความหลายหลายกันด้วยนะคะ และก็อย่าลืมบริโภคอย่างพอดีเพื่อให้ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ ค่ะ
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ