“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ชวนเข้าครัว แจก 5 สูตร วิธีทำซุปสาหร่าย เกาหลี ใครชอบกินซุปสาหร่ายต้องห้ามพลาด !
ใครชอบกินอาหารเกาหลีบ้างคะ ? เรารู้จักอาหารเกาหลีก็เพราะการดูซีรี่ย์เกาหลีนั่นเอง แล้วก็มีฉากรับประทานอาหารจนทำให้เราอยากลองกินอาหารเกาหลีดูบ้าง แม้ปัจจุบันจะมีร้านอาหารเกาหลีอยู่มากมาย แต่บางครั้งเราก็อยากทำกินเองเพราะประหยัดกว่า แล้วก็ได้รสชาติถูกปากถูกใจ โดยเฉพาะซุปสาหร่าย เมนูเครื่องเคียงที่จะต้องอยู่คู่สำรับอาหารทุกมื้อ เป็นเมนูคู่บ้านของชาวเกาหลีเช่นเดียวกับซุปถั่วงอก เพราะนอกจากจะอร่อย กินง่ายย่อยง่ายแล้วนั้น ยังดีต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย ใครอยากลองทำซุปสาหร่ายกินเองดูบ้าง เรามี วิธีทำซุปสาหร่าย ถึง 5 สูตร มาฝากกันแล้วค่ะ
ชวนดู วิธีทำซุปสาหร่าย 5 สูตร ทำกินเองได้ อร่อยถูกใจ กินได้ทุกมื้อ !
ก่อนจะไปดูวิธีทำซุปสาหร่าย เรามาพูดถึงเมนูนี้กันก่อนดีกว่าค่ะ ซุปสาหร่ายเกาหลี หรือในภาษาเกาหลีเรียกว่า 미역국 (มียอกกุก) เป็นซุปที่ทำจากสาหร่ายทะเลหรือที่เรียกว่าสาหร่ายสีน้ำตาล หรือวากาเมะญี่ปุ่นนั่นเอง ซุปสาหร่ายมักจะใส่เนื้อสัตว์ลงไปด้วย เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู หรืออาหารทะเลอย่าง หอยแมลงภู่ กุ้ง หรือปลาทูน่ากระป๋อง ตามแต่ชอบ พร้อมกับเครื่องปรุงรส ได้แก่ เกลือ ซีอิ๊ว กระเทียม และน้ำมันงาคั่ว โดยส่วนมากแลิว วิธีการทำซุปสาหร่ายของคนเกาหลีจะนิยมทำซุปสาหร่ายใส่เนื้อวัว เพราะให้ซุปมีรสชาติที่หอมอร่อยเข้มข้นยิ่งขึ้น และด้วยวัตถุดิบต่างๆ เหล่านี้ น้ำซุปจึงมีรสชาติที่ดี ดีต่อสุขภาพและยังบำรุงกำลังได้ด้วย จะทำได้ง่ายขนาดไหน ไปดูกันเลยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : ชาวเกาหลีเชื่อว่าซุปสาหร่ายเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เป็นอาหารที่ช่วยบำรุงกำลัง ทำให้ร่างกายแข็งแรง ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณแม่ชาวเกาหลีที่เพิ่งคลอดบุตรจะต้องกินซุปสาหร่าย 3 มื้อต่อวันเป็นเวลาหนึ่งเดือน เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและแข็งแรงโดยไว และยังได้รับสารอาหารดีๆ จากสาหร่ายอีกด้วย นอกจากนี้ คนเกาหลีจะมีซุปสาหร่ายเป็นอาหารเช้าในวันเกิดตลอดทั้งชีวิต เพราะเมนูนี้จะทำให้คิดถึงคุณแม่ของตัวเองและเพื่อขอบคุณที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้ และทำให้เรามีสุขภาพดีนั่นเอง
1. ซุปสาหร่ายเกาหลีเนื้อวัว
มาเริ่มกันที่สูตรทำซุปสาหร่าย เกาหลี สูตรแรกเลยค่ะ โดยจะใช้เนื้อวัวเพื่อเพิ่มความหอมแล้วก็เพิ่มความเข้มข้นให้กับซุป ได้รสชาติหวานกลมกล่อม ซดคล่องคอ จะกินคู่กับข้าวสวย หรือกินคู่กับเมนูกับข้าวอื่นๆ ก็ได้เช่นกัน
วัตถุดิบ :
- สาหร่ายแห้ง หรือวากาเมะ 15 กรัม
- เนื้อวัวหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 120 กรัม
- กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
- เกลือทะเลละเอียด ¼ ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 1 ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยดำป่นเล็กน้อย
- น้ำเปล่า 5 ถ้วย
วิธีทำ :
- แช่สาหร่ายแห้งในน้ำเย็นประมาณ 5 – 10 นาที และปล่อยให้ขยายตัว จากนั้นสะเด็ดน้ำออกแล้วล้างสาหร่าย 2 – 3 ครั้งในน้ำไหล บีบน้ำออกให้หมด
- หากใช้สาหร่ายแห้งแบบยังไม่ตัด ให้ใช้กรรไกรตัดให้เป็นชิ้นๆ ขนาดความยาวประมาณนิ้วก้อย แล้ววางพักไว้
- ใส่เนื้อวัว เกลือและพริกไทยดำลงในชาม ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วพักไว้
- ตั้งหม้อบนไฟร้อนปานกลางประมาณ 20 วินาที จากนั้นใส่น้ำมันงา สาหร่าย และเนื้อวัวลงไป คนให้เข้ากันจนเนื้อสุกบางส่วน (ประมาณ 2 นาที)
- ปรุงรสด้วยซีอิ๊ว ตามด้วยกระเทียม และน้ำ จากนั้นปิดหม้อและต้มบนไฟร้อนปานกลางจนเนื้อสุก หรือประมาณ 10 -15 นาที สามารถปรับรสชาติด้วยเกลือจนกว่าจะได้รสตามต้องการ
- เสร็จแล้วปิดไฟ ตักใส่ชาม เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมกับข้าวสวยและเครื่องเคียงอื่นๆ ของเกาหลี เช่น กิมจิ วิธีทำก็ไม่ยาก สามารถทำเองได้ จะได้กิมจิโฮมเมดไว้รับประทานเองด้วยค่ะ
2. ซุปสาหร่ายเกาหลีใส่เนื้อหมู
สำหรับใครที่ไม่กินเนื้อวัว จะเปลี่ยนมาใส่เนื้อหมูแทนก็ได้เช่นกัน ได้รสชาติอร่อยไม่แพ้กัน โดยสูตรนี้จะมีความหอมจากการนำเอาเนื้อหมูไปผัดก่อนอีกด้วย วิธีทำซุปสาหร่ายสูตรนี้จะทำได้อย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ
วัตถุดิบ :
- สาหร่ายทะเลแห้ง 200 กรัม
- เนื้อหมู 250 กรัม
- กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันงา 3 ช้อนโต๊ะ
- ซอสถั่วเหลือง 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือเล็กน้อย
- น้ำเปล่า 2 ลิตร
วิธีทำ :
- นำสาหร่ายแห้งไปแช่น้ำให้พองตัว และนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
- หั่นหมูเป็นชิ้นๆ พอดีคำ
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันงาลงไป จากนั้นนำเนื้อหมูมาผัดให้สุก
- เมื่อหมูสุกได้ที่แล้ว ใส่สาหร่ายลงไปผัดให้เข้ากัน ตามด้วยกระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- เติมน้ำเปล่าลงไป แล้วต้มทิ้งไว้ให้เดือด ประมาณ 30 – 40 นาที คอยช้อนฟองออกเรื่อยๆ
- ปรุงรสด้วยเกลือและซอสถั่วเหลือง ชิมรสชาติให้ได้ตามต้องการ
- ใส่กระเทียมสับลงไปอีก 1 ช้อนโต๊ะ และต้มต่อประมาณ 5 นาที จากนั้นปิดไฟ ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ
3. ซุปสาหร่ายเกาหลีแบบดั้งเดิม
วิธีทำซุปสาหร่ายสูตรนี้ เป็นสูตรดั้งเดิมอีกสูตรหนึ่งที่ใส่เนื้อวัวลงไป แต่รสชาติจะแตกต่างจากสูตรแรกเพราะใช้น้ำมันมะกอกแทนน้ำมันงา ได้กลิ่นหอมไปอีกแบบ และรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม หอมกลิ่นเนื้อวัวมากๆ ค่ะ
วัตถุดิบ :
- สาหร่ายวากาเมะ 20 กรัม
- น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
- เนื้อวัวส่วนสะโพกหั่นชิ้นเล็ก 150 กรัม
- กระเทียมกลีบใหญ่สับ 1 ช้อนชา
- น้ำ 5 ถ้วย
- ซอสซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือสมุทร 2 ช้อนชา
- ข้าวสวยญี่ปุ่นสำหรับจัดเสิร์ฟ
วิธีทำ :
- แช่สาหร่ายในน้ำประมาณ 30 นาที บีบเอาน้ำออก หั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ พักไว้
- ตั้งหม้อ ใส่น้ำมันมะกอกลงไป ใช้ไฟกลาง จากนั้นนำเอาเนื้อวัวลงไปผัด พอเนื้อเริ่มสุกให้ใส่สาหร่ายและกระเทียมลงไปผัดตาม ผัดจนมีกลิ่นหอม
- จากนั้นเติมน้ำลงในหม้อ ปรับเป็นไฟอ่อน เคี่ยวนานประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและเกลือ ชิมให้ได้รสเค็มตามต้องการ และเคี่ยวต่อจนเนื้อและสาหร่ายนุ่มได้ที่
- ปิดไฟ ตักซุปสาหร่ายใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยญี่ปุ่นและเครื่องเคียงอื่นๆ เช่น ถั่วงอกผัดน้ำมันงา ปวยเล้งลวก กิมจิ ถั่วดำต้มหวาน เป็นต้น
เกร็ดสุขภาพ : สาหร่ายเป็นสุดยอดอาหารเพราะมีแคลเซียม ไอโอดีน ไฟเบอร์ กรดโอเมก้า วิตามิน B1 และ B3 ที่ดี ทั้งยังมีแคลอรี่ต่ำ กินแล้วไม่อ้วน แถมยังช่วยเรื่องการเผาผลาญ การไหลเวียนโลหิต ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ล้างพิษ ช่วยต้านสารก่อมะเร็ง ชะลอความแก่ และเปปไทด์ในสาหร่ายยังช่วยลดโรคหัวใจและส่งเสริมสุขภาพของหัวใจอีกด้วย เมนูซุปสาหร่ายจึงเป็นอาหารยอดนิยมของชาวเกาหลีนั่นเอง
4. ซุปสาหร่ายวากาเมะ
ซุปสาหร่ายสูตรนี้ เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี ผู้สูงอายุก็กินได้ เพราะไม่มีเนื้อสัตว์ ทำให้เคี้ยวง่าย ย่อยง่าย ใช้ไข่เป็นวัตถุดิบในส่วนของโปรตีน ซึ่งเป็นอาหารบำรุงสมอง ผู้สูงอายุชั้นดี มีรสชาติอ่อนๆ กลมกล่อม ซดคล่องคอ ไปดูวิธีทำซุปสาหร่ายสูตรนี้กันเลยค่ะ
วัตถุดิบ :
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- สาหร่ายวากาเมะแบบแห้ง 1 หยิบมือ
- น้ำเปล่าประมาณ 0.5 ลิตร
- เต้าหู้ไข่ 1 หลอด
- ซอสตราภูเขาทอง 3 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
วิธีทำ :
- นำสาหร่ายวากาเมะแบบอบแห้งมาแช่น้ำให้พอง และเอาไปล้างน้ำให้สะอาด พักไว้
- ตั้งหม้อโดยใช้ไฟกลาง รอจนน้ำเดือด ระหว่างรอน้ำเดือด ตอกไข่ใส่ชาม ตีไข่ให้แตก พักไว้
- เมื่อน้ำเดือดแล้ว ปรุงรสด้วยซอสภูเขาทองและน้ำตาล จากนั้นเทไข่ลงไปโดยที่ไม่ต้องคน
- ใส่สาหร่ายวากาเมะ และเต้าหู้ลงไป รอจนเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ
5. ซุปสาหร่ายหอยแมลงภู่
ซุปสาหร่าย เกาหลี สูตรนี้ ใช้แมลงภู่เป็นวัตถุดิบหลัก ใครที่ไม่กินเนื้อสัตว์ใหญ่ จะใส่หอยแมลงภู่ลงไปในซุปสาหร่ายก็ได้เช่นกัน แถมยังได้รสชาติที่ต่างออกไป โดยรสชาติจะเบาขึ้น ได้กลิ่นอายทะเล แถมยังทำได้ง่ายอีกด้วยค่ะ
วัตถุดิบ :
- สาหร่ายวากาเมะสด 100 กรัม
- ต้นหอมซอย 2 ต้น
- ผงปลาโอ 1 ช้อนชา
- เกลือเล็กน้อย
- ซอสปรุงรส
- พริกไทยดำบดละเอียด
- หอยแมลงภู่เอาแต่เนื้อ 100 กรัม
- น้ำเปล่า 1 ลิตร
วิธีทำ :
- ตั้งหม้อ ใช้ไฟกลาง เมื่อน้ำเริ่มเดือด นำหอยแมลงภู่ลงไปต้มจนสุก จากนั้นตักขึ้นมาพักไว้
- เติมผงปลาโอลงไป แล้วนำสาหร่ายลงไปต้มจนสุก
- นำเอาหอยลงไปต้มอีกรอบ ปรุงรสด้วยซอสปรุงรสและเกลือจนกว่าจะได้รสเค็มตามต้องการ
- จากนั้นปิดไฟ ตักใส่ถ้วย ก่อนเสิร์ฟโรยด้วยต้นหอมซอยและพริกไทยดำ ซดร้อนๆ เป็นเมนูซุปที่เหมาะกับอากาศเย็นๆ จะช่วยให้ร่างกายอุ่นขึ้นค่ะ
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับซุปสาหร่าย เกาหลี
นอกจากจะเป็นเมนูสำหรับคุณแม่เพิ่งคลอดแล้ว ซุปสาหร่ายยังเป็นเมนูอาหารที่คุณแม่มักจะรับประทานในช่วงตั้งครรภ์อีกด้วย เพราะมีคุณค่าทางอาหารสูง อุดมไปด้วยไอโอดีน ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม แคลเซียม วิตามินเอ และวิตามินซี ทำให้ทั้งคุณแม่และลูกในท้องมีสุขภาพแข็งแรง และยังมีความเชื่อว่าจะทำให้คลอดลูกได้อย่างราบรื่นปลอดภัย และในช่วงหลังคลอด ก็จะให้คุณแม่รับประทานซุปสาหร่ายอย่างต่อเนื่อง เพราะสาหร่ายมีสารอาหารที่จะทำให้คุณแม่มีน้ำนมมากขึ้น ทั้งยังช่วยในการขับเลือดและของเสียที่ตกค้างในร่างกายด้วย
ซุปสาหร่ายเป็นซุปที่กินได้ทุกวัน และกินตามธรรมเนียมในวันเกิดด้วยเช่นกัน เพราะถือว่าเป็นอาหารมงคลของเกาหลี สื่อถึงความโชคดี นอกจากนี้ ยังช่วยลดน้ำหนักได้ด้วยเพราะมีแคลอรี่น้อย ซึ่งซุปสาหร่ายนั้นหากใส่เนื้อวัวจะมีแคลลอรี่ต่อถ้วยประมาณ 150 แคลอรี่เท่านั้น แถมยังได้โปรตีนที่ทำให้อยู่ท้อง จึงเป็นเมนูยอดนิยมของสาวๆ อีกด้วยค่ะ
ในตอนนี้เราก็ได้รู้ถึงความหมาย ความเป็นมาของซุปสาหร่าย และวิธีทำซุปสาหร่ายเกาหลีกันไปแล้ว ใครที่อยากลองทำกินเองบ้างสามารถทำตามได้ง่ายๆ เลยค่ะ เพราะไม่ต้องใช้วัตถุดิบเยอะ ทั้งยังเป็นของที่หาซื้อได้ง่าย ใช้เวลาทำไม่นาน จะทำไว้กินเป็นเมนูประจำวัน หรือเมนูเพื่อสุขภาพ ลดน้ำหนัก ก็ได้หมด หากใครยังไม่เคยลองกินแนะนำให้ลองทำดู เพราะซุปสาหร่ายเกาหลีมีรสชาติที่อร่อย แถมยังดีต่อสุขภาพมากๆ อีกด้วย
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : krua.co, maangchi.com, mykoreankitchen.com, timesofindia.indiatimes.com
Featured Image Credit : freepik.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ