“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
วิตามินบำรุงเล็บ มีอะไรบ้าง ? ชวนดูแลเล็บด้วยสิ่งดีๆ ที่ไม่ควรมองข้าม !
ความแข็งแรงและลักษณะเล็บของแต่ละคนสามารถใช้บ่งบอกถึงสุขภาพโดยรวมได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ผลิตภัณฑ์บางอย่างกับเล็บมากเกินไป โภชนาการที่ไม่ดี และวิถีการใช้ชีวิต อาจส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพและความมีชีวิตชีวาของเล็บได้อย่างชัดเจน เล็บที่อ่อนแอ เปราะหรืออ่อน อาจสะท้อนถึงสภาวะของร่างกายที่ต้องไปพบแพทย์ เช่น โรคตับ โรคไต หรือโรคสะเก็ดเงิน ดังนั้นจึงจะมาแนะนำถึง วิตามินบำรุงเล็บ พร้อมคำแนะนำในการกิน รายละเอียดผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ ราคาและช่องทางการซื้อออนไลน์ และถ้าอยากรู้ว่าลักษณะเล็บขาดสารอาหารเป็นอย่างไร แล้วต้องดูแลตัวเองยังไงแบบวิธีธรรมชาติ ซึ่งเป็นวิธีที่จะช่วยให้สุขภาพเล็บดี ต้องตามอ่านในบทความนี้
ให้เล็บสวยและมีสุขภาพดีด้วย วิตามินบำรุงเล็บ ที่เราแนะนำ
เล็บ แม้ว่าเป็นอวัยวะเล็กๆ ในร่างกาย แต่เราก็ไม่ควรมองข้ามไป เล็บที่มีสุขภาพดีจะต้องมีผิวเรียบ ไม่ขรุขระ หนาและแข็งกำลังดี แต่ก็จะมีเพื่อนๆ หลายคนโดยเฉพาะสาวๆ ชอบทำเล็บ ทำให้เล็บได้รับสารเคมีอยู่เป็นประจำ ลองมาเลือกวิตามินบำรุงเล็บต่อไปนี้มาช่วยดูแลเล็บกัน
1. อาหารเสริมลดสิว บำรุงผม เล็บ ของ 21st Century
อาหารเสริมของ 21st Century นี้มี Zinc Citrate 50 มก. มีสรรพคุณคือ ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตให้กับร่างกาย สร้างโปรตีนและคอลลาเจน ช่วยบำรุงสุขภาพเล็บ ช่วยในการรักษาสิว บรรเทาอาการอักเสบของสิว เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้สู้กับสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ รักษาสมดุลของปริมาณไขมันในผิวหนัง ช่วยควบคุมปัญหาการเกิดสิวจากการอุดตันของไขมัน ช่วยลดภาวะการเกิดสิว ลดภาวะสิวอักเสบ ช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้น
วิธีกิน : วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร
ขนาดบรรจุ : 60 เม็ด/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 115 บาท
2. อาหารเสริมบำรุงผิว ผม เล็บ ของ Puritan
วิตามินบำรุงเล็บชนิดนี้ของ Puritan มีไบโอตินเข้มข้น 2,500 ไมโครกรัมต่อเม็ด ทั้งยังเสริมวิตามินเอ และบี พร้อมด้วย Horsetail, MSM, Alphalipoic Acid, Grapeseed และ DMAE เป็นตัวช่วยให้ ผิว ผม แข็งแรงสุขภาพดีครบสูตร โดยผิว ผม เล็บ จะแข็งแรง ผิวยืดหยุ่น เต่งตึง เนียนนุ่มไม่หยาบกร้าน ผมไม่หลุดร่วงง่าย เล็บไม่แตกเปราะ
วิธีกิน : วันละ 1 เม็ด หลังอาหาร
ขนาดบรรจุ : 60 เม็ด/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 265-555 บาท
3. วิตามินบำรุงผม ผิว เล็บ ของ Smooth E
วิตามินบำรุงของ Smooth E นี้เป็นแบบ 3 in 1 บำรุงสุขภาพผม ผิวและเล็บหัวจรดเท้า ช่วยดูแลได้ถึงสามปัญหาภายในเม็ดเดียว บำรุงเส้นผมให้เงางาม ไม่หลุดร่วง ด้วยไบโอตินเป็น “วิตามินของผม” มีส่วนช่วยบำรุงเล็บให้แข็งแรง ไม่เปราะ ฉีกขาดง่าย ส่วนวิตามินบำรุงเล็บอย่างไบโอตินและหญ้าหางม้า (Horsetail Extract) ที่สกัดจากธรรมชาตินั้นจะช่วยบำรุงผิวให้สดใส เปล่งปลั่ง ดูอ่อนกว่าวัยจากการสร้างกลูต้าไธโอนตามธรรมชาติ ช่วยให้ผิวขาวขึ้น ทำให้เหมาะจะเป็นวิตามินรวมสำหรับผู้หญิงอีกด้วย
วิธีกิน : ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง
ขนาดบรรจุ : 30 เม็ด/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 400-600 บาท
4. วิตามินสูตรบำรุงผิวพรรณ เส้นผม และเล็บ ของ BLACKMORES
วิตามินนี้มีส่วนประกอบที่สำคัญคือ วิตามินซี กรดโฟลิก วิตามิน บี 5 เบต้าแคโรทีน ธาตุเหล็ก สังกะสี แมงกานีส ซิลิก้า และไบโอติน ส่วนผสมที่เป็นไบโอตินซึ่งเป็นวิตามินบำรุงเล็บ ผิว และเส้นผมนั้นจะช่วยเพิ่มความหนาและแข็งแรงให้กับเล็บได้ถึง 25% ในเวลา 12 สัปดาห์
วิธีกิน : ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้งพร้อมอาหาร
ขนาดบรรจุ : 30 เม็ด/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 479-490 บาท
5. วิตามินบำรุงเล็บ ผม ของ DHC
วิตามินบำรุงเล็บ ผม ยี่ห้อนี้มีส่วนประกอบเป็นไบโอตินแบบละลายช้า ทำให้ร่างกายดูดซึมได้นานขึ้น ผิวและเล็บจึงแข็งแรงขึ้น มีผลช่วยป้องกันและบำรุงรักษาเล็บที่แห้งเปราะ บำรุงเส้นผม และช่วยป้องกันผมหงอกได้ดี
วิธีกิน : วันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร
ขนาดบรรจุ : 30 เม็ด/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 199 บาท
ดูแลตัวเองยังไงดี ?
ถ้าหากเล็บของเพื่อนๆ มักแตกหักอยู่เสมอ ยาวค่อนข้างช้า หรือโดยรวมแล้วไม่สวยงามอย่างที่ต้องการ ให้ลองคิดถึงอาหารและวิตามินบำรุงเล็บก่อนที่จะทาน้ำยาทาเล็บก็จะทำให้เล็บมีสุขภาพดีพร้อมรับสีและสารเคมีที่ทาลงบนเล็บได้มากขึ้น เรามาดูกันว่าวิตามินที่เล็บต้องการมีอะไรบ้าง
• ไบโอติน
ไบโอตินเป็นวิตามินบำรุงเล็บสำหรับเล็บที่เปราะบาง ผลงานวิจัยชิ้นหนึ่งได้ให้อาหารเสริมไบโอตินแก่ผู้ที่เล็บเปราะบางเป็นเวลา 6 เดือน และพบว่าความหนาโดยรวมของเล็บเพิ่มขึ้น 25% ทั้งนี้ปริมาณแนะนำต่อวันสำหรับไบโอตินคือ 30 ไมโครกรัม อย่างไรก็ตาม ไบโอตินส่วนใหญ่จะพบในเนื้อสัตว์ ไข่ ปลา เมล็ดพืช และถั่ว ดังนั้นหากคุณกินอาหารมังสวิรัติที่อาจจะไม่สามารถกินถั่วและเมล็ดพืชได้มากนัก ก็อาจเพิ่มไบโอตินแบบอาหารเสริมเพื่อให้เล็บมีสุขภาพดีที่สุด
• วิตามินบี 12
การขาดวิตามินบี 12 อาจทำให้เล็บมีสีเข้มขึ้นหรือแม้แต่เปลี่ยนเป็นโทนสีน้ำเงิน หากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป ซึ่งเป็นลักษณะเล็บขาดสารอาหาร วิตามินบี 12 ยังช่วยให้ดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีและทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงผลิตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดไปที่เล็บได้ดี สำหรับปริมาณของวิตามินบำรุงเล็บที่แนะนำต่อวันคือ 2.4 ไมโครกรัม
อย่างไรก็ดี วิตามินบี 12 นี้ขึ้นชื่อว่าเข้าสู่ระบบของร่างกายได้ยาก ดังนั้นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่วางขายทั่วไปมักจะมีวิตามินบี 12 มากกว่าค่าข้างต้น ซึ่งอาจจะมีสูงถึง 1,000 – 5,000 ไมโครกรัม หากเพื่อนๆ ต้องการได้รับวิตามินบำรุงเล็บชนิดนี้ตามธรรมชาติแล้ว ก็ให้รับประทานวิตามินบี 12 ที่จะพบในเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนม รวมทั้งวิตามินบี 12 ในพืชบางชนิด
• โฟเลต
โฟเลตช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงที่แข็งแรงซึ่งหมายถึงความสามารถในการรับออกซิเจนและสารอาหารไปยังเล็บ หากร่างกายขาดโฟเลตจะนำไปสู่สีเล็บที่เปลี่ยนไปหรือทำให้ผิวของเล็บเป็นสันนูนขึ้นมาได้ ปริมาณที่แนะนำสำหรับวิตามินบำรุงเล็บชนิดนี้คือ 400 ไมโครกรัมต่อวัน ซึ่งอาหาร 6 อันดับแรกที่มีโฟเลตสูง ได้แก่ ตับวัว ผักโขม ถั่วดำ (อ่านเรื่องถั่ว 5 สี ประโยชน์เพิ่มเติมได้เลยค่ะ) ซีเรียลสำหรับมื้อเช้า หน่อไม้ฝรั่ง และกะหล่ำดาว
• ธาตุเหล็ก
ธาตุเหล็กที่เพียงพอคือกุญแจสำคัญในการสร้างความมั่นใจว่า เล็บจะได้รับออกซิเจนในระดับที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง ธาตุเหล็กเป็นส่วนสำคัญของเซลล์เม็ดเลือดแดงทั้งหมด และหากไม่มีธาตุเหล็กหรือมีอย่างไม่เพียงพอ เล็บจะเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น เกิดเป็นสันหรือโพรงด้านในเล็บ ซึ่งเป็นลักษณะเล็บขาดสารอาหาร ซึ่งปริมาณธาตุเหล็กที่แนะนำต่อวันสำหรับผู้ใหญ่อายุ 19-50 ปี คือ 18 มก. สำหรับผู้หญิง และ 8 มก. สำหรับผู้ชาย แต่หลังจากอายุ 50 ปี ผู้หญิงต้องการธาตุเหล็กลดลงเหลือ 8 มก. แหล่งอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงได้แก่ หอยนางรม ถั่วขาว ดาร์กช็อกโกแลต และตับวัว
• วิตามินซี
วิตามินซีมีบทบาทมากมายในร่างกาย รวมถึงการมีสุขภาพเล็บที่ดีด้วย วิตามินซีจำเป็นสำหรับการสร้างคอลลาเจน ซึ่งทำให้เล็บแข็งแรง มีรูปทรงที่ดี และต้านทานการแตกหักได้ ปริมาณวิตามินบำรุงเล็บชนิดนี้ที่แนะนำต่อวันในผู้ใหญ่คือ 90 มก. สำหรับผู้ชาย และ 75 มก. สำหรับผู้หญิง อาหารที่มีวิตามินซีสูง ได้แก่ พริกหวานสีแดงและเขียว น้ำส้ม ส้ม เกรพฟรุต กีวี และบร็อคโคลี่ อาหารที่มีวิตามินซีสูงทั้งหมดเป็นอาหารจากพืช
• สังกะสี
สังกะสีช่วยให้เซลล์เจริญเติบโตและแข็งแรง ดังนั้นหากเพื่อนๆ ต้องการให้เล็บเติบโตอย่างรวดเร็วและดูแข็งแรง สังกะสีคือคำตอบ การขาดธาตุสังกะสีส่งผลให้มีจุดสีขาวบนเล็บ ซึ่งปริมาณสังกะสีที่แนะนำต่อวันในผู้ใหญ่คือ 11 มก. สำหรับผู้ชาย และ 8 มก. สำหรับผู้หญิง ส่วนอาหารที่อุดมไปด้วยสังกะสี ได้แก่ หอยนางรม เนื้อวัว ปู หรือกุ้งมังกร หากเป็นผู้กินอาหารมังสวิรัติ จะมีตัวเลือกสังกะสีที่พบในถั่วและเมล็ดพืชอยู่บ้าง
เกร็ดสุขภาพ : มีข้อแนะนำเพิ่มเติมที่จะช่วยให้มีสุขภาพเล็บที่ดีคือ ดื่มน้ำบ่อยๆ เพราะน้ำมีผลโดยตรงต่อสุขภาพเล็บ เมื่อใดที่ร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ เล็บก็อาจเปราะได้ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ทาเล็บบางชนิดที่ทำให้เล็บหักได้ง่าย เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ หลีกเลี่ยงการใช้เล็บเป็นเครื่องมือ เพราะหน้าที่ของเล็บคือการปกป้องผิวที่อ่อนนุ่มใต้เล็บ ดังนั้นไม่ควรใช้เล็บเป็นเครื่องมือในการทำงานบางอย่าง เช่น ใช้เปิดฝาภาชนะอย่างกระป๋องโลหะ ดังนั้นเพื่อป้องกันเล็บ ให้ลองใช้วัตถุแบนๆ งัดฝากระป๋องออกแทน
Featured Image Credit : freepik.com/valuavitaly
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ