“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ใบอังกาบหนู สรรพคุณคืออะไร ? ชวนรู้จักสมุนไพรชื่อแปลก แต่ไม่ธรรมดา !
“ใบอังกาบหนู” แค่ได้ยินชื่อ เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงเกิดความแปลกใจกันบ้าง และฉงนสงสัยว่า เจ้าพืชพรรรณชนิดนี้ มีลักษณะหน้าตาเป็นอย่างไร หรือถ้าหากใครเคยได้ยินชื่อมาก่อน ก็เพราะเมื่อสามสี่ปีที่ผ่านมา มีข่าวเป็นกระแสว่า ใบอังกาบหนูนำมารับประทานเพื่อรักษาโรคมะเร็งได้ แต่ในปัจจุบันยังไม่พบงานวิจัยที่เกี่ยวข้องว่า ใบอังกาบหนู สรรพคุณ รักษาโรคมะเร็งได้แต่อย่างไร แล้วสรรพคุณที่แท้จริงของใบอังกาบหนูคืออะไรกันแน่ ? ในบทความนี้ ทีมงานเพื่อสุขภาพจะพาคุณไปรู้จักกับสมุนไพรชื่อแปลกชนิดนี้ แต่มีคุณประโยชน์มากมาย จะมีอะไรบ้างนั้น ติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ
รู้จักถิ่นกำเนิด ใบอังกาบหนู ชื่อแปลก แต่ไม่ธรรมดา !

อังกาบหนู เป็นสมุนไพรพื้นบ้านชนิดหนึ่งที่พบได้ทั่วไปในทุกภูมิภาคของประเทศไทย และเขตร้อนต่างๆ ทั่วโลก เช่น อินเดีย มาเลเซีย พม่า ลาว กัมพูชา และไทย ในคัมภีร์แพทย์แผนไทยโบราณพบข้อมูลว่า ทางอายุรเวทอินเดียใช้อังกาบหนูในตำรับยาของอินเดียหลายตำหรับ รวมถึงตำรับยาไทยด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในหมอพื้นบ้าน ซึ่งใช้เป็นสมุนไพรไทย รักษาโรค กันมาเนิ่นนาน
สมุนไพรอังกาบหนู ยังมีชื่อเรียกพื้นบ้านตามท้องถิ่นอื่นๆ อีก อาทิ เขี้ยวแก้ว เขี้ยวเนื้อ อังกาบ มันไก่ เป็นไม้พุ่มเตี้ย มีความสูงประมาณ 1 – 1.5 เมตร แตกกิ่งก้านจำนวนมาก มีดอกสีเหลืองสด ใบอังกาบหนู มีลักษณะเป็นใบเดี่ยว รูปรี รูปไข่ หรือรูปขอบขนาน ปลายแหลม โคนเรียวสอบกับก้านใบ มีความยาวประมาณ 4 – 12 เซนติเมตร
และในตอนนี้ เราก็รู้จักรูปลักษณ์ของสมุนไพรพื้นบ้านชนิดนี้กันมากขึ้นแล้ว มาดูกันว่า ใบอังกาบหนู สรรพคุณมีอะไรบ้าง และสามารถรักษาอาการหรือโรคอะไรได้บ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : จากงานวิจัยในประเทศอินเดียพบว่า สารสกัดจากต้นอังกาบหนูเป็นยาปฏิชีวนะที่มีความสามารถต้านจุลชีพ ยับยั้งการอักเสบ มีฤทธิ์ต้านอักเสบ และช่วยลดอาการปวดจากการอักเสบได้ มีสรรพคุณเสริมภูมิคุ้มกัน และมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น ฟีโนลิกส์ ฟลาโวนอยด์ และ เทอร์พีนอยด์
สรรพคุณ และคุณประโยชน์ของใบอังกาบหนู

- ใบอังกาบหนู สรรพคุณ สามารถเคี้ยวใบเพื่อบรรเทาอาการปวดฟันได้ นอกจากสมุนไพรแก้ปวดฟัน ข่อย แล้ว อังกาบหนูก็สามารถแก้ปวดฟันและรักษาแผลในช่องปาก เนื่องจากมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียในช่องปากได้
- น้ำคั้นจากใบใช้ยอดหู แก้อาการหูอักเสบได้
- ใช้ใบสดคั้นกับน้ำพอกแผล พอกสิว หรือทาแก้ส้นเท้าแตกได้
- นำใบมาคั้นกินเพื่อแก้หวัดหรือใช้เป็นยาลดไข้
- ผสมใบกับน้ำมะนาว ใช้ทาผิวรักษาโรคกากเกลื้อน
- สารสกัดจากใบสามารถรักษาโรคปวดตามข้อ โรครุมาติซั่ม หรือใช้ทาแก้อาการปวดหลัง แก้ปวดบวม
- ใบมีสรรพคุณในการรักษาโรคริดสีดวงทวารและลดการระคายเคือง
- คั้นน้ำจากใบผสมน้ำผึ้ง อมกลั้วปาก ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน
- ใบอังกาบหนู สรรพคุณแก้ท้องผูก โดยสามารถกินสดได้
- สามารถคั้นใบเพื่อใช้แก้พิษงูได้
นอกจากใบอังกาบหนู สรรพคุณจะมากมายแล้ว ส่วนอื่นๆ ของสมุนไพรชนิดนี้ก็มีคุณประโยชน์มากมายเช่นกัน อาทิ
- ดอก นำมาตากแห้งแล้วต้มกินเป็นยา ช่วยบำรุงธาตุทั้ง 4 อีกทั้งยังช่วยละลายเสมหะ บรรเทาอาการไอแบบมีเสมหะได้ด้วย
- ราก เมื่อนำมาต้มแล้ว น้ำต้มจากรากช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยได้ นอกจากนี้ สารสกัดจากรากมีฤทธิ์ในการคุมกำเนิด ซึ่งได้ทำการลดลองในหนูเพศผู้ โดยการให้สารสกัดกับหนูเพศผู้เป็นเวลา 60 วัน พบว่า สามารถคุมกำเนิดได้ 100% โดยสารสกัดจากรากอังกาบหนูส่งผลต่อกระบวนการสร้างสเปิร์ม และทำให้จำนวนสเปิร์มลดลง อีกทั้งมีการเคลื่อนไหวลดลงด้วย
- ลำต้น ใช้ลดอาการอักเสบ และรักษาโรคระบบทางเดินอาหาร
- เปลือก นำมาต้มกินลดเสมหะ ขับเหงื่อ ใช้บ้วนปากเพื่อบรรเทาอาการปวดฟันและรักษาเลือดออกตามไรฟัน
- ปลูกเป็นพืชไม้ดอกประดับสวน เนื่องจากมีดอกสีเหลืองสดสวยงาม
เกร็ดสุขภาพ : ต้นอังกาบหนู มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Barleria prionitis L. ซึ่งเป็นพืชที่อยู่ในวงศ์เดียวกับต้นเหงือกปลาหมอ ซึ่งต้นเหงือกปลาหมอมีสรรพคุณเป็นยาแก้ไข้ แก้ไอ ขับเสมหะ รักษาโรคผิวหนัง แก้คัน เป็นยาแก้ฝี ซึ่งสรรพคุณที่กล่าวมานี้ มีความคล้ายคลึงกับสมุนไพรอังกาบหนูเช่นเดียวกัน
ข้อควรระวังในการใช้ใบอังกาบหนู

ใบอังกาบหนู สรรพคุณมีมากมายอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว ทั้งนี้ ก็มีข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรชนิดนี้เช่นเดียวกัน คือ
- การใช้พืชอังกาบหนูในการรักษาโรคหรือการเจ็บป่วยต่างต่างๆ ไม่ควรใช้ในปริมาณที่มากเกินไป และไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เพราะอาจส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ของร่างกายได้
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวในกลุ่มโรคตับ โรคไต และโรคเบาหวาน ควรใช้อย่างระมัดระวัง และควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนใช้
- หากมีการใช้สมุนไพรอังกาบหนูมาระยะหนึ่ง ควรตรวจดูค่าตับและไตอย่างสม่ำเสมอ
- ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยรองรับว่า พืชอังกาบหนูสามารถรักษาโรคมะเร็งได้จริง ดังนั้น ในการรักษาโรคมะเร็งควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษา และควรบำบัดรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันเป็นหลัก และเลือกใช้สมุนไพรบางชนิดที่มีผลการวิจัยรองรับเพื่อบรรเทาอาการข้างเคียงควบคู่ไปด้วย
ตอนนี้เราก็ได้รู้ว่า ใบอังกาบหนู สรรพคุณมีมากมายหลายอย่าง และไม่ได้มีเพียงแค่ใบเท่านั้นที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ เรียกได้ว่า สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของราก ลำต้น เปลือก และดอก ซึ่งก็จะมีข้อบ่งชี้ในการใช้รักษาอาการต่างๆ แตกต่างกันไป แม้ว่าประโยชน์สมุนไพรจะมีสรรพคุณมากมายเพียงใดก็ตาม ก็ต้องใช้อย่างพอดี และศึกษาหาข้อมูลจากหลายๆ แหล่งที่มีความน่าเชื่อถือ มีผลการวิจัยรองรับ เนื่องจากสมุนไพรแต่ละชนิดก็มีทั้งคุณประโยชน์และโทษด้วยกันทั้งนั้น และถ้าหากใครมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนใช้ ก็จะดีที่สุดค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : pr.moph.go.th, dnp.go.th, scialert.net
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ