“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ยาคุมกำเนิดมีกี่แบบ ? กินเวลาไหน กินยังไงให้ไม่อันตราย ?!
ประเภทของการคุมกำเนิดนั้นมีหลายวิธีด้วยกัน ซึ่งจะเลือกใช้วิธีไหนนั้นก็ที่เป็นการตัดสินใจส่วนบุคคล เพราะมีตัวเลือกมากมายให้เลือก หนึ่งในตัวเลือกที่นิยมคือการใช้ยาคุมกำเนิด ยาคุมกำเนิดเป็นยาที่ใช้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันยาคุมกำเนิดก็มีหลายแบบ และมีวิธีการกินที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งควรใช้ให้ถูกต้องเช่นเดียวกับการใช้ยาอื่นๆ อย่างยาพาราห้ามกินเกินกี่เม็ด เป็นต้น และเพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้หญิงทุกคนที่กำลังต้องการคุมกำเนิด เราจะมาแนะนำว่า ยาคุมกำเนิดมีกี่แบบ ? และยาคุมแบบไหนดีที่เหมาะกับเราค่ะ
ยาคุมกำเนิดมีกี่แบบ ? ยาคุมแบบไหนดีที่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้
สาวๆ ที่ยังไม่พร้อมที่จะตั้งครรภ์ สิ่งแรกที่ควรทำเลยคือ ป้องกันการตั้งครรภ์ และวิธีที่ดีที่สุดเลยคือ การกินยาเม็ดคุมกำเนิด ซึ่งยาคุมกำเนิดมีกี่แบบนั้น ? ยาคุมกำเนิดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมี 3 ประเภทหลักด้วยกัน ดังนี้
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combination pills)
เป็นยาคุมกำเนิดแบบเม็ดที่นิยมใช้กันมาก ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสตินสังเคราะห์ (ที่มนุษย์สร้างขึ้น) มาในรูปแบบแผงที่ต้องกินสม่ำเสมอต่อเนื่องทุกวันจนหมดแผง ยาคุมกำเนิดมีกี่แบบที่เป็นแบบฮอร์โมนรวม สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้
- ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมแผงละ 21 เม็ด ทุกเม็ดจะมีตัวยาทั้งหมด ควรกินยาในเวลาเดียวกันทุกวันวันละ 1 เม็ดจนหมดแผง และหลังหยุดยาประมาณ 1-3 วันจะเริ่มเป็นประจำเดือน จากนั้นให้เริ่มกินยาแผงใหม่วันที่ 5 ของประจำเดือน หรือเว้นไป 7 วันหลังจากหมดแผงแรก จึงจะสามารถเริ่มกินแผงใหม่ได้
- ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมแผงละ 28 เม็ด ประกอบด้วยตัวยาที่ออกฤทธิ์ 21 เม็ด และยาเม็ดที่ไม่มีตัวยาหรือเรียกว่า เม็ดแป้งอีก 7 เม็ด ซึ่งเม็ดแป้งจะมีสีและขนาดเม็ดที่แตกต่างจากเม็ดที่มีตัวยาอย่างชัดเจน ควรกินยาในเวลาเดียวกันทุกวันวันละ 1 เม็ดจนหมดแผง แล้วถึงขึ้นแผงใหม่ต่อเนื่องกันไป ช่วงที่กินเม็ดแป้งไปประมาณ 1-3 เม็ดจะเริ่มมีประจำเดือนมา เหมาะสำหรับคนที่กลัวจะนับวันผิดหรือกินผิดวัน เพราะสามารถกินต่อเนื่องกันจนหมดแผงได้เลยโดยไม่ต้องเว้นระยะ
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (Progestin-only pills)
เป็นยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียวไม่มีเอสโตรเจน ยาเม็ดชนิดนี้เรียกอีกอย่างว่า minipill ยาเม็ดประเภทนี้อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้หญิงที่ไม่สามารถรับฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ หรือลดอาการข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือเพื่อสุขภาพอื่นๆ ในแต่ละเม็ดยาจะมีปริมาณโปรเจสตินเท่ากันและยาเม็ดทั้งหมดออกฤทธิ์ แต่ปริมาณโปรเจสตินจะต่ำกว่าขนาดยาโปรเจสตินในยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ดังนั้น คุณอาจมีหรือไม่มีประจำเดือนในขณะที่กินยาเม็ดที่มีโปรเจสตินอย่างเดียวก็ได้ ยาคุมชนิดนี้จะเป็นแบบแผงละ 28 เม็ด ควรกินทุกวันโดยไม่ต้องหยุด เมื่อกินหมดแผงแล้วก็สามารถเริ่มแผงใหม่ต่อได้เลย
ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฉุกเฉิน (Emergency contraception pill)
ยาคุมกำเนิดมีกี่แบบที่นอกเหนือจากแบบกินติดต่อกัน ก็จะมีอีกหนึ่งแบบคือ ยาคุมฉุกเฉิน การคุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกัน ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมักเรียกอีกชื่อว่า Morning-after pill เป็นยาที่ใช้ได้นานถึง 120 ชั่วโมง (5 วัน) หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกัน และการคุมกำเนิดฉุกเฉินจะได้ผลดีที่สุดเมื่อกินยาภายใน 72 ชั่วโมง (3 วัน) หลังการมีเพศสัมพันธ์ มักใช้สำหรับการเกิดการผิดพลาดในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ เช่น ถุงยางฉีกขาด รั่ว หรือลืมใส่ถุงยาง เป็นต้น แต่การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ไม่สามารถป้องกันได้ 100% เพราะผู้หญิงประมาณ 1-2 คน ในทุกๆ 100 คน จะตั้งครรภ์แม้จะกินยาภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกันก็ตาม
เกร็ดสุขภาพ : ยาคุมกำเนิดมีกี่แบบและมีประสิทธิภาพแค่ไหน ? ยาคุมกำเนิดมีสามแบบ หากเรากินอย่างถูกต้องตามแต่ละประเภทจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีมาก ทั้งยาคุมแบบฮอร์โมนรวมและยาคุมแบบโปรเจสตินอย่างเดียว มีอัตราความล้มเหลวอยู่ 9 เปอร์เซ็นต์เมื่อใช้โดยทั่วไป นั่นหมายความว่าในผู้หญิง 100 คนที่ใช้ยานี้ มี 9 คนที่จะตั้งครรภ์ และเพื่อให้ได้ผลเต็มที่ควรกินเวลาเดิมทุกวัน หากลืมกินยาจะทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดลดลง และหากลืมกินมากกว่า 3 ชั่วโมง ให้กินทันทีที่นึกขึ้นได้และกินเม็ดต่อไปในเวลาเดิม ก็จะยังสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ส่วนยาคุมแบบฉุกเฉินนั้นจะได้ผลดีที่สุดเมื่อกินโดยเร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกันค่ะ
ยาคุมกำเนิดมีกี่แบบและทำงานอย่างไร ?
นอกจากรู้ว่ายาคุมกำเนิดมีกี่แบบไปแล้วนั้น มารู้ถึงหลักการทำงานกันค่ะ
- ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ทำงานได้สองวิธีคือ ขั้นแรกจะป้องกันไม่ให้ร่างกายของคุณตกไข่ ซึ่งหมายความว่ารังไข่ของคุณจะไม่ปล่อยไข่ในแต่ละเดือน ประการที่สองยาเหล่านี้ทำให้ร่างกายมีมูกข้นที่ปากมดลูก เมือกนี้เป็นของเหลวรอบๆ ปากมดลูกซึ่งช่วยให้อสุจิเดินทางไปยังมดลูกเพื่อให้ไข่สามารถปฏิสนธิได้ เมือกที่หนาขึ้นจึงช่วยป้องกันไม่ให้ตัวอสุจิเข้าสู่มดลูกได้นั่นเอง
- ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว สามารถทำงานได้หลายวิธี ส่วนใหญ่ทำงานโดยการทำให้มูกปากมดลูกหนาขึ้นและทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกของคุณบางลง เยื่อบุโพรงมดลูกของคุณคือเยื่อบุโพรงมดลูกซึ่งไข่จะฝังตัวหลังจากปฏิสนธิแล้ว หากเยื่อบุนี้บางลง การฝังไข่จะยากขึ้น ซึ่งจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ไม่ให้เติบโต นอกจากนี้ ยาเม็ดโปรเจสตินอย่างเดียวอาจป้องกันการตกไข่ได้
- ยาคุมกำเนิดชนิดฉุกเฉิน ทำงานโดยการชะลอการตกไข่ แต่หากการปฏิสนธิและการปลูกถ่ายเกิดขึ้นแล้ว ยาจะไม่ขัดจังหวะการตั้งครรภ์ เพราะฉะนั้น การใช้ยาคุมชนิดนี้ในยามฉุกเฉินจึงควรกินให้เร็วที่สุด
เกร็ดสุขภาพ : ประโยชน์ของยาคุมกำเนิดคือ ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องกังวลกับการคุมกำเนิดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ทั้งยังมีประสิทธิภาพสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีกว่าตัวเลือกการคุมกำเนิดแบบอื่นๆ และโดยส่วนใหญ่ยังช่วยควบคุมรอบเดือนให้มาเป็นปกติ มีประโยชน์สำหรับคนที่มีประจำเดือนมาไม่ปกติหรือมีประจำเดือนมามาก และเมื่อคุณหยุดใช้ก็สามารถตั้งครรภ์ได้ในภายหลัง นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อื่นๆ ขึ้นอยู่กับชนิดของเม็ดยา เช่น ช่วยลดสิว ป้องกันการตั้งครรภ์นอกมดลูก ป้องกันการเจริญเติบโตของเต้านมที่ไม่เป็นมะเร็ง ป้องกันมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกและมะเร็งรังไข่ ป้องกันโรคโลหิตจาง ลดอาการประจำเดือนมามาก ลดอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง เป็นต้น นอกจากนี้หากใครมีอาการท้องร่วงเวลาที่มีประจำเดือนแนะนำกระชาย ประโยชน์ช่วยลดอาการท้องร่วงและท้องเสียได้ค่ะ
การคุมกำเนิดเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับคนที่ยังไม่พร้อมที่จะมีบุตร หรือยังไม่ได้วางแผนครอบครัว และวิธีที่ดีและมีประสิทธิภาพที่สุดก็คือการเลือกใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด ซึ่งยาคุมกำเนิดมีกี่แบบนั้นก็ได้รู้กันไปแล้วนะคะ ส่วนยาคุมแบบไหนดีและควรเลือกกินแบบไหนให้เหมาะกับเรานั้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพราะยาบางชนิดมีผลต่อสุขภาพของแต่ละคนแตกต่างกัน นอกจากนี้อีกวิธีที่สามารถคุมกำเนิดได้คือการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งขณะมีเพศสัมพันธ์ สามารถทำควบคู่ไปกับการกินยาคุมได้ เพราะไม่ใช่แค่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้เท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์ด้วยค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : healthline.com, mayoclinic.org, petcharavejhospital.com, kidshealth.org, phyathai.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ