X

สีฉี่บอกโรค อะไรได้บ้าง สีแบบไหนถึงบอกว่ามีสุขภาพดี แล้วแบบไหนบ่งบอกว่าต้องระวังเรื่องสุขภาพกันแล้ว !

เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡

สีฉี่บอกโรค อะไรได้บ้าง สีแบบไหนถึงบอกว่ามีสุขภาพดี แล้วแบบไหนบ่งบอกว่าต้องระวังเรื่องสุขภาพกันแล้ว !

สีของฉี่นั้น อาจเป็นเรื่องที่หลายๆ คนมองข้าม แต่ทราบหรือไม่ว่า สีฉี่บ่งบอกถึงภาวะสุขภาพของเราได้ด้วย โดยทั่วไปแล้ว สีของปัสสาวะคนเรานั้นมีตั้งแต่สีเหลืองซีดไปจนถึงสีเหลืองอำพันเข้ม ซึ่งเป็นผลมาจากเม็ดสีและความเข้มข้นของปัสสาวะว่าเจือจางหรือเข้มข้นเพียงใด ซึ่งเม็ดสีและสารอื่นๆ ในอาหารและยาบางชนิดนั้นสามารถเปลี่ยนสีปัสสาวะของเราได้ เช่นกัน อาทิ บีทรูท เบอร์รี่ หน่อไม้ฝรั่ง เป็นอาหารที่มีแนวโน้มว่าจะส่งผลต่อสีปัสสาวะมากที่สุด หรือยาที่เรากินรวมถึงวิตามินต่างๆ ก็ทำให้สีของปัสสาวะแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ ภาวะทางสุขภาพก็ส่งผลต่อสีปัสสาวะด้วยเช่นกัน สีฉี่บอกโรค อะไรได้บ้าง ? ไปดูกันเลยค่ะ

ชวนสังเกตสีของปัสสาวะ สีฉี่บอกโรค และสุขภาพของเราได้ !

สีฉี่บอกโรค, สีฉี่บอกอะไร
Image Credit : freepik.com

ปัสสาวะหรือฉี่ของคนเรานั้น เป็นของเสียและน้ำส่วนเกินที่ถูกขับออกจากร่างกาย โดยส่วนใหญ่แล้วสีของฉี่ตามปกติจะเป็นสีเหลืองซีดถึงสีเหลืองอำพัน และมีกลิ่นเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย การเปลี่ยนแปลงของสีและกลิ่นปัสสาวะเพียงเล็กน้อยไม่ส่งผลต่อสุขภาพของเรา ไม่จำเป็นต้องรักษาหรือไปพบแพทย์แต่อย่างใด ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงของสีบางอย่างอาจบ่งบอกถึงอาการหรือโรคต่างๆ ได้ สีฉี่บอกโรคอะไรได้บ้าง ชวยสังเกตและดูแลสุขภาพของตนเองผ่านลักษณะสีของฉี่กันค่ะ

1. สีขาวใส

ปัสสาวะไม่มีสีอาจบ่งบอกถึงการกินน้ำมากเกินไป แม้ว่าจะไม่อันตรายเท่าภาวะขาดน้ำ แต่การกินน้ำมากเกินไปสามารถเจือจางเกลือแร่ที่จำเป็นในร่างกายได้ เช่น อิเล็กโทรไลต์ ทำให้เกิดปัญหาความไม่สมดุลของสารเคมีในเลือด อย่างไรก็ตาม ปัสสาวะมีสีใส อาจบ่งบอกถึงโรคบางอย่าง เช่น เบาหวานได้ด้วย หากมีสัญญาณอื่นๆ ของโรคร่วมได้ แนะนำว่าให้ปรึกษาแพทย์ค่ะ

2. สีขาวขุ่น

สีฉี่บอกโรคได้ หากปัสสาวะมีสีขาวขุ่นก็มีความเป็นไปได้ว่า เกิดจากโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เช่น โรคกรวยไตอักเสบ โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นต้น รวมถึง อาจเกิดจากการมีน้ำเหลืองปนอยู่ในปัสสาวะหรือมีโปรตีนในร่างกายมากเกินไปได้อีกด้วย

3. สีฟางซีด

หากปัสสาวะเป็นสีฟางซีดหรือเป็นสีเหลืองอ่อน แสดงว่าระดับน้ำในร่างกายปกติ เป็นสีของฉี่ปกติที่บ่งบอกว่ามีสุขภาพดี

4. สีเหลืองใส

หากมีสีปัสสาวะเหลืองใส ถือว่าร่างกายปกติ มีสุขภาพดีอีกเช่นเดียวกัน

5. สีเหลืองเข้ม

สีฉี่บอกโรค, สีฉี่บอกอะไร
Image Credit : freepik.com

จริงๆ แล้วปัสสาวะสีเหลืองเข้มจัดว่าร่างกายปกติ ไม่มีปัญหาสุขภาพ แต่อาจบ่งบอกถึงภาวะขาดน้ำเล็กน้อย ควรดื่มน้ำให้มากขึ้น

6. สีอำพันหรือสีน้ำผึ้ง

สีฉี่บอกอะไรได้บ้าง สีของฉี่แบบนี้คือปัสสาวะเข้มข้น ซึ่งเป็นสัญญาณของภาวะขาดน้ำ ควรดื่มน้ำให้มากขึ้น สำหรับใครที่สงสัยว่า คนเราควรดื่มน้ำวันละกี่ลิตร โดยทั่วไปแล้ว หากเป็นผู้ชายควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 3.7 ลิตร และถ้าเป็นผู้หญิง ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 2.7 ลิตรค่ะ

เกร็ดสุขภาพ : หากมีการกลั้นปัสสาวะนานๆ เพราะไม่สะดวกเข้าห้องน้ำหรือไม่ได้ปัสสาวะบ่อยเนื่องจากดื่มน้ำน้อย ก็อาจทำให้สีของปัสสาวะเข้มขึ้นได้เป็นปกติ ทั้งนี้ ถ้าหากปัสสาวะมีสีเข้มเป็นประจำ นั่นอาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อหรือการเจ็บป่วยได้ ปัสสาวะเป็นฟองบางครั้งอาจหมายถึงการสร้างโปรตีนในปัสสาวะ ซึ่งบ่งชี้ถึงปัญหาไตที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ

7. สีส้มอ่อน

บ่งบอกว่าอาจขาดน้ำ ทั้งนี้ สีฉี่บอกโรคได้ว่า อาจเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับตับหรือท่อน้ำดี หรือการบริโภคสีย้อมติดอาหาร หรือการขับวิตามินบีส่วนเกินออกจากกระแสเลือด

8. สีส้ม

สีฉี่บอกโรค, สีฉี่บอกอะไร
Image Credit : freepik.com

อาจเป็นตัวบ่งชี้ถึงภาวะขาดน้ำ แต่มักเกิดจากอาหารที่มีวิตามินซีหรือแคโรทีนสูง ซึ่งเป็นเม็ดสีจากพืชในอาหารที่มีสีส้ม เช่น แครอท และสีของฉี่อาจเปลี่ยนเป็นสีส้มหลังจากกินยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาละลายลิ่มเลือด ยาระบาย ยาเคมีบำบัด และยาที่ใช้รักษาโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

9. สีน้ำเงินหรือสีเขียว

สีปัสสาวะแบบนี้จะส่งผลต่อกลิ่นด้วย สีฉี่บอกอะไรกับเรา ? หากปัสสาวะเป็นสีน้ำเงินอาจมีภาวะแคลเซียมในเลือดสูงซึ่งพบได้ยาก หรือเกิดจากยาแก้อาการเสียดท้องบางชนิด วิตามินบางชนิด ยาต้านอาการคลื่นไส้ และอื่นๆ ซึ่งอาจทำให้ปัสสาวะมีสีเขียวอมฟ้าได้ รวมถึงการกินหน่อไม้ฝรั่งในบางคนด้วย ซึ่งยาและสีย้อมอาหารบางชนิดผลิตปัสสาวะสีเขียวที่ไม่เป็นอันตราย แต่ก็สามารถส่งสัญญาณถึงการติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะได้เช่นกัน

10. สีชาหรือสีน้ำตาล

อาจเป็นสัญญาณว่ามีการบริโภคอาหารบางชนิดมากเกินไป หรือกินยารักษาโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ยาต้านมาเลเรีย ยาระบาย ยาคลายกล้ามเนื้อ หรือยาปฏิชีวนะบางชนิด และหากมีเฉดสีที่เข้มกว่านี้อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติของตับหรือโรคไต

11. สีน้ำตาลเข้ม

เป็นสีของปัสสาวะที่ไม่ค่อยปกติ เพราะอาจมีอาการที่เป็นไปได้ของโรคดีซ่าน และอาจเกิดจากการขาดน้ำอย่างรุนแรง ทั้งนี้ สีฉี่บอกโรคได้ว่า เกิดการขาดน้ำอย่างรุนแรง มีภาวะดีซ่าน หรือมีภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย

12. สีชมพู

สีฉี่บอกโรค, สีฉี่บอกอะไร
Image Credit : freepik.com

สำหรับบางคนการกินบีทรูท บลูเบอร์รี่ สามารถทำให้สีของฉี่เป็นสีชมพูได้ ทั้งนี้ หากไม่ได้กินอาหารดังกล่าว แต่มีฉี่เป็นสีชมพู สีฉี่บอกโรคได้ว่า อาจมีเลือดเจือปนอยู่ในปัสสาวะหรือเป็นสัญญาณของโรคไตได้

13. สีแดง

สีฉี่บอกอะไรได้อีกบ้าง ? ถ้าปัสสาวะเป็นสีแดง อาจเป็นสัญญาณว่ามีเลือดออกและมีโอกาสติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ต่อมลูกหมากโต นิ่วในไตหรือกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งไตหรือกระเพาะปัสสาวะ หรือโรคไต หรืออาจเกิดพิษจากสารตะกั่วหรือปรอทได้ ซึ่งการมีปัสสาวะสีแดงเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าควรปรึกษาแพทย์ทันที

14. สีดำ

สีของฉี่หากเป็นสีดำ ถ้าเกิดจากสาเหตุที่ไม่เป็นพิษเป็นภัย ได้แก่ การกินอาหารหรือยาบางชนิดก็ทำให้ปัสสาวะคล้ำได้เช่นกัน แต่หากเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น พิษจากทองแดงหรือฟีนอล หรือมะเร็งผิวหนัง ซึ่งอาจส่งผลให้ปัสสาวะเป็นสีดำที่เรียกว่าเมลานูเรีย จะเป็นสัญญาณอันตรายควรพบแพทย์โดยด่วน

เกร็ดสุขภาพ : การปัสสาวะบ่อยสามารถส่งสัญญาณถึงการติดเชื้อ หรือการอักเสบของทางเดินปัสสาวะหรือกระเพาะปัสสาวะ โรคเบาหวาน การตั้งครรภ์ หรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือยาบางชนิดอาจทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้นได้ ส่วนการปัสสาวะลดลง ซึ่งหมายถึงปัสสาวะน้อยกว่า 500 มล. ต่อวัน อาจเกิดจากการขาดน้ำ การอุดตันของทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อ หรือการใช้ยาบางชนิด

สีฉี่บอกโรคได้ว่าสุขภาพของเราในตอนนี้เป็นอย่างไร หากมีสีขาวใสไปจนถึงเหลืองอำพันนั้นหมายถึงการมีสุขภาพดี เพียงแต่อาจอยู่ในภาวะขาดน้ำได้หากฉี่มีสีเข้ม แต่หากมีปัสสาวะสีแดงหรือสีชมพู ที่ไม่เกี่ยวข้องกับอาหาร ยา หรืออาหารเสริมที่กิน หรือมีปัสสาวะสีน้ำตาลเข้ม สีดำ ร่วมกับอุจจาระสีซีด ผิวเหลือง ตาเหลือง และอาการอื่นๆ เช่น มีไข้ หนาวสั่น อาเจียน มีน้ำมูกไหล รวมถึงหากมีเหงื่อออก ปวดท้องหรือปวดหลัง น้ำหนักลดกะทันหัน รู้สึกปวดหรือแสบร้อนขณะถ่ายปัสสาวะแล้วด้วยนั้น นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บอกถึงสุขภาพที่ไม่ดีหรือกำลังเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นควรไปพบแพทย์โดยเร็วนะคะ

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : chiwamitra.com, medicalnewstoday.com, samitivejhospitals.com, bumrungrad.com

Featured Image Credit : freepik.com

ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ

ติดต่อโฆษณา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้การวิเคราะห์

    เราขออนุญาติใช้คุกกี้นี้เก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดีขึ้นให้กับคุณ

Save