“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ฟักแม้วกินดิบได้ไหม ? ชวนรู้จักผักชะลอวัย พร้อมเมนูทำง่าย กินอร่อยกัน !
หากพูดถึงผักฟักแม้วอาจจะเป็นชื่อที่ไม่คุ้นหูเท่าไหร่นัก แต่ต้องขอบอกเลยว่าผักชนิดนี้เป็นผักพื้นบ้านที่ถูกเอามาทำเป็นอาหารนานแล้ว นอกจากนี้ยังเป็นผักที่มีอยู่ในเมนูร้านอาหารหลายร้านเลยค่ะ โดยเฉพาะเมนูผัดยอดผักฟักแม้ว ทั้งนี้ ฟักแม้วเป็นผักที่เต็มไปด้วยสารอาหารอันมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด และเป็นผักที่มีกากใยอาหารสูงอีกชนิดหนึ่ง แต่หลายคนอาจจะยังสงสัยว่าฟักแม้วมีวิธีกินยังไงและ ฟักแม้วกินดิบได้ไหม ? ในบทความนี้ เพื่อสุขภาพจะพาไปรู้จักกับฟักแม้วพร้อมๆ กันค่ะ
ไขข้อข้องใจ ฟักแม้วกินดิบได้ไหม ? ผักพื้นบ้านที่มากไปด้วยประโยชน์ชนิดนี้คืออะไรนะ ?!
ฟักแม้ว หรือ มะระหวาน มีชื่อภาษาอังกฤษว่า ชาโยเต้ (Chayote) และมีชื่อเรียกท้องถิ่นหลายอย่างด้วยกันทั้งมะระแม้ว มะระหวาน มะเขือเครือ มะเขือฝรั่ง มะระญี่ปุ่น ฟักญี่ปุ่น มะเขือนายก บ่าเขือเครือ ฟักม้ง แตงกะเหรี่ยง เป็นต้น ผลของฟักแม้วจัดเป็นผลไม้ที่มีรูปร่างคล้ายกับลูกแพร มีสีเขียว ลำต้นมีลักษณะเป็นพืชเถาไม้เลื้อยคล้ายกับต้นแตง สามารถนำมากินได้ทั้งใบ ยอดใบ และผล แต่ถ้าสงสัยว่าฟักแม้วกินดิบได้ไหมก็มาดูคำตอบกันต่อเลยค่ะ
ฟักแม้วกินดิบได้ไหม ? เลือกฟักแม้วยังไงให้รับประทานอร่อย ?
ก่อนอื่นมารู้จักวิธีเลือกฟักแม้วกันก่อนดีกว่าค่ะ การเลือกซื้อผลฟักแม้วควรเลือกผลที่ขั้วยังดูสดอยู่และไม่อ่อนน่วมตามแรงกดเพราะจะได้เนื้อที่แน่นและสด สำหรับคำถามที่ว่า ฟักแม้วกินดิบได้ไหมนั้นก็ต้องบอกเลยว่าสามารถกินได้หลายแบบด้วยกัน ซึ่งผลดิบของฟักแม้วกินได้ทั้งเปลือก มีรสชาติอร่อย ไม่ขม ไม่ฝาด มีความคล้ายคลึงกับมันฝรั่ง รวมทั้งสามารถนำมาประกอบอาหารอื่นๆ แทนฟักหรือมะละกอได้ด้วย เช่น ผัดไข่ ลวกจิ้ม แกงส้ม เป็นต้น ในส่วนของใบและยอดจะนิยมนำมาผัดกับน้ำมันหอย ให้รสชาติคล้ายกับผัดยอดมะระ กินคู่กันได้กับทั้งข้าวต้มและข้าวสวย
เกร็ดสุขภาพ : ถ้าอยากกินฟักแม้วดิบให้อร่อย ก็ต้องปอกเปลือกของผลฟักแม้วออกให้หมดก่อน แล้วล้างยางออกให้สะอาด หากนำไปประกอบอาหารควรปรุงด้วยวิธีที่ผ่านความร้อนไม่นานและอย่าให้สุกมากเกินไป ถ้าผลฟักแม้วสุกเกินจะมีความเละ ได้รสชาติที่ไม่ค่อยอร่อยและอาจสูญเสียคุณค่าทางสารอาหารได้
คุณประโยชน์ของฟักแม้ว มีอะไรบ้าง ?
- ฟักแม้วอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะวิตามินซีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรง ต้านทานโรคได้ดีขึ้น วิตามินเอช่วยบำรุงสายตา ทำให้การมองเห็นชัดเจน และยังมีโพแทสเซียมที่ช่วยควบคุมความดันโลหิต ทำให้หัวใจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ฟักแม้วมีใยอาหารสูง ซึ่งช่วยในระบบขับถ่าย ทำให้ลำไส้ทำงานได้ดี ลดอาการท้องผูก นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วหลังกินอาหาร
- ฟักแม้วมีน้ำตาลต่ำและแคลอรี่ต่ำ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก สามารถกินได้ในปริมาณมากโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแคลอรี่ และยังเหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องควบคุมปริมาณน้ำตาล
- ในฟักแม้วมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ซึ่งช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ทำให้ชะลอวัยได้ และยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด โดยการต่อต้านการเกิดเซลล์มะเร็งและยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
- ฟักแม้วมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ซึ่งช่วยบรรเทาอาการอักเสบต่างๆ ในร่างกาย เช่น อาการปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ หรือการอักเสบภายในร่างกายที่เป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังหลายชนิด
- การกินฟักแม้วช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น เนื่องจากมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก และยังมีวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงผิว ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง สดใส ดูอ่อนเยาว์
- ฟักแม้วช่วยในการย่อยอาหาร เนื่องจากมีเอนไซม์ที่ช่วยในการย่อยโปรตีน ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดียิ่งขึ้น
- ฟักแม้วมีส่วนช่วยในการควบคุมความดันโลหิต นอกจากจะมีโพแทสเซียมแล้ว ยังมีสารที่ช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ส่งผลให้ความดันโลหิตอยู่ในระดับที่เหมาะสม ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
ข้อควรระวังในการกินฟักแม้ว มีบ้างมั้ย อะไรบ้าง ?
การกินฟักแม้วมีประโยชน์มาก แต่ควรคำนึงถึงข้อควรระวังเหล่านี้ และกินในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดและปลอดภัยต่อสุขภาพค่ะ
- การแพ้ : ผู้ที่แพ้พืชตระกูลแตงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากฟักแม้วอยู่ในตระกูลนี้ หากมีอาการแพ้ เช่น คัน มีผื่น หรือหายใจลำบากหลังกินเข้าไป ควรหยุดกินและปรึกษาแพทย์ทันที
- ปัญหาระบบทางเดินอาหาร : ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคกระเพาะ หรือลำไส้แปรปรวน ควรระวังการกินฟักแม้วดิบ เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ ควรกินแบบปรุงสุกแทน
- โรคเบาหวาน : แม้ฟักแม้วจะมีน้ำตาลต่ำ แต่ผู้ป่วยเบาหวานควรระวังปริมาณการกินเหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อกินร่วมกับอาหารอื่นๆ
- ปัญหาไต : ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไตควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินฟักแม้ว เนื่องจากมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของไตได้
- สตรีมีครรภ์ : สตรีมีครรภ์ควรระวังการกินฟักแม้วดิบ เพราะอาจมีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน ควรกินแบบปรุงสุกเท่านั้น
- ผลข้างเคียงจากการกินมากเกินไป : การกินฟักแม้วในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นยาระบาย จึงควรกินในปริมาณที่เหมาะสม
- การใช้ยาบางชนิด: ผู้ที่กำลังกินยาบางชนิด เช่น ยาละลายลิ่มเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินฟักแม้ว เนื่องจากวิตามินเคในฟักแม้วอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาได้
5 เมนูฟักแม้วกินดิบแสนอร่อย
1. สลัดฟักแม้ว
สลัดฟักแม้วเป็นเมนูที่เหมาะกับคนรักสุขภาพ หรือใครที่อยากกินอะไรเบาๆ สดชื่น โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อน เราจะเอาฟักแม้วมาหั่นบางๆ ให้กรอบ ผสมกับผักสลัดอื่นๆ เช่น ผักกาดหอม แครอท แตงกวา แล้วราดด้วยน้ำสลัดรสเปรี้ยวนิดๆ ทำให้ได้สลัดที่มีรสชาติดี กรอบ สด และมีประโยชน์ต่อร่างกาย กินแล้วรู้สึกสดชื่น
วัตถุดิบ :
- ฟักแม้ว 1 ลูก
- ผักกาดหอม 1 หัว
- แครอท 1 หัว
- แตงกวา 1 ลูก
- น้ำสลัด (น้ำมะนาว น้ำมันมะกอก น้ำผึ้ง เกลือ พริกไทย)
วิธีทำ :
- หั่นฟักแม้วเป็นเส้นบางๆ
- ฉีกผักกาดหอม หั่นแครอทและแตงกวาเป็นแท่ง
- ผสมน้ำสลัดโดยคนน้ำมะนาว น้ำมันมะกอก น้ำผึ้ง เกลือ และพริกไทยเข้าด้วยกัน
- คลุกเคล้าผักทั้งหมดกับน้ำสลัด
2. น้ำพริกฟักแม้ว
น้ำพริกฟักแม้วเป็นการเอาของดั้งเดิมอย่างน้ำพริกมาทำใหม่ให้แปลกไป โดยเอาฟักแม้วดิบมาตำรวมกับเครื่องน้ำพริก ทั้งพริก กระเทียม ปรุงรสด้วยน้ำปลา มะนาว น้ำตาล ได้น้ำพริกที่มีรสเผ็ด เปรี้ยว เค็ม หวาน ครบรส แถมยังมีความกรอบของฟักแม้วด้วย กินกับผักสดหรือข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมาก เหมาะสำหรับคนชอบกินน้ำพริกแต่อยากลองอะไรใหม่ๆ
วัตถุดิบ :
- ฟักแม้วดิบ 1/2 ลูก
- พริกขี้หนูสด 5-10 เม็ด
- กระเทียม 3 กลีบ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
วิธีทำ :
- หั่นฟักแม้วเป็นชิ้นเล็กๆ
- โขลกพริกและกระเทียมให้ละเอียด
- ใส่ฟักแม้วลงไปตำให้พอแหลก
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลปี๊บ
3. ส้มตำฟักแม้ว
ส้มตำฟักแม้วเป็นการนำเอาอาหารยอดฮิตอย่างส้มตำมาทำใหม่ แทนที่จะใช้มะละกอ เราเอาฟักแม้วมาขูดเป็นเส้นๆ แล้วตำกับเครื่องส้มตำปกติ ทั้งมะเขือเทศ ถั่วฝักยาว พริก กระเทียม ปรุงรสด้วยน้ำปลา มะนาว น้ำตาลปี๊บ ได้ส้มตำที่มีรสจัดจ้านแบบเดิม แต่มีความกรอบและรสชาติที่แปลกไปอีกแบบ เหมาะสำหรับคนที่ชอบกินส้มตำแต่อยากลองอะไรแปลกใหม่
วัตถุดิบ :
- ฟักแม้ว 1 ลูก
- มะเขือเทศลูกเล็ก 5 ลูก
- ถั่วฝักยาว 5 ฝัก
- กระเทียม 3 กลีบ
- พริกขี้หนู 3-5 เม็ด
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
วิธีทำ :
- ขูดฟักแม้วเป็นเส้นฝอย
- หั่นมะเขือเทศและถั่วฝักยาวเป็นชิ้นเล็ก
- โขลกกระเทียมและพริกให้พอแหลก
- ใส่ฟักแม้วและผักที่เตรียมไว้ลงไปตำเบาๆ
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลปี๊บ
4. ยำฟักแม้ว
ยำฟักแม้วเป็นอาหารไทยที่เอาฟักแม้วมาทำเป็นยำ โดยหั่นฟักแม้วเป็นชิ้นบางๆ ผสมกับกุ้งสด หอมแดง ต้นหอม ผักชี และถั่วลิสงคั่ว แล้วคลุกเคล้ากับน้ำยำรสเผ็ด เปรี้ยว เค็ม หวาน ได้ยำที่มีรสชาติครบรส ทั้งยังมีความกรอบของฟักแม้ว ความนุ่มของกุ้ง และความกรุบกรอบของถั่ว ทำให้ได้สัมผัสที่หลากหลายในคำเดียว เป็นเมนูที่กินเพลิน เหมาะสำหรับเป็นกับแกล้มหรือกับข้าว
วัตถุดิบ :
- ฟักแม้ว 1 ลูก
- กุ้งสด 200 กรัม
- หอมแดง 2 หัว
- ต้นหอม 2 ต้น
- ผักชี 1/4 ถ้วย
- ถั่วลิสงคั่ว 1/4 ถ้วย
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- พริกขี้หนูซอย 2-3 เม็ด
วิธีทำ :
- หั่นฟักแม้วเป็นชิ้นบางๆ
- ต้มกุ้งให้สุก แกะเปลือก
- ซอยหอมแดง ต้นหอม และผักชี
- ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และพริกขี้หนูซอยเป็นน้ำยำ
- คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน โรยหน้าด้วยถั่วลิสงคั่ว
5. ฟักแม้วจิ้มน้ำพริก
ฟักแม้วจิ้มน้ำพริกเป็นเมนูง่ายๆ แต่อร่อย เหมาะสำหรับคนที่ชอบกินผักสดจิ้มน้ำพริกแต่อยากลองอะไรใหม่ๆ เราแค่เอาฟักแม้วมาล้างให้สะอาด หั่นเป็นแท่งยาวๆ แล้วจิ้มกับน้ำพริกที่ชอบ เช่น น้ำพริกกะปิ หรือน้ำพริกหนุ่ม ความกรอบและรสชาติอ่อนๆ ของฟักแม้วช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับการกินน้ำพริก ทำให้กินได้เรื่อยๆ ไม่เบื่อ และยังได้ประโยชน์จากผักด้วย
วัตถุดิบ :
- ฟักแม้ว 1 ลูก
- น้ำพริกกะปิหรือน้ำพริกหนุ่ม (ซื้อสำเร็จหรือทำเอง)
วิธีทำ :
- ล้างฟักแม้วให้สะอาด
- หั่นฟักแม้วเป็นแท่งยาวๆ พอคำ
- จัดเสิร์ฟพร้อมกับน้ำพริกที่เลือกไว้
ฟักแม้วดิบเป็นผักที่หลายคนอาจมองข้าม แต่จริงๆ แล้วมันมีประโยชน์และสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสลัด น้ำพริก ส้มตำ ยำ หรือแม้แต่กินสดๆ จิ้มน้ำพริก ความกรอบและรสชาติอ่อนๆ ของมันช่วยเพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัสที่น่าสนใจให้กับอาหารหลายชนิด ลองนำฟักแม้วมาทำอาหารดูนะครับ รับรองว่าจะได้เมนูอร่อยและมีประโยชน์ที่แตกต่างไปจากเดิมแน่นอน
รวมไอเดียเมนูฟักแม้วสำหรับคนไม่กินดิบ
เมื่อได้รู้แล้วว่า ฟักแม้วกินดิบได้ไหม และทำเมนูไหนได้บ้าง คราวนี้เรามาดูเมนูที่ทำจากฟักแม้วทั้งแบบดิบและปรุงสุกกันบ้างค่ะ นอกจากเอายอดฟักแม้วไปผัดแล้ว ตัวผลฟักแม้วเองสามารถนำไปประกอบอาหารเมนูไหนได้บ้าง ไปดูพร้อมๆ กันเลย
1. ฟักแม้วผัดไข่
สำหรับฟักแม้วเมนูนี้จัดว่าเป็นเมนูยอดฮิตเลยก็ว่าได้เพราะเด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดี มีรสชาติที่อร่อยและไม่ขมเหมือนกับมะระผัดไข่ที่จะต้องหาวิธีผัดมะระไม่ให้ขมก่อนเอาไปทำอาหาร มาดูกันเลยว่ามีวิธีทำยังไงบ้าง
วัตถุดิบ :
- ผลฟักแม้วหั่นแล้ว 300 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- กระเทียมสับ 2 – 3 กลีบ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช
วิธีทำ :
- เทน้ำมันลงในกระทะแล้วรอจนเดือด จากนั้นให้ใส่กระเทียมลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม
- เทฟักแม้วที่หั่นเตรียมไว้แล้วลงไปผัดแค่พอนิ่มจากนั้นปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทรายให้ได้รสชาติที่ชอบ
- ผัดจนฟักแม้วเริ่มสุก จากนั้นใส่ไข่ลงไปผัดให้เข้ากัน เมื่อแห้งกำลังดีแล้วจึงตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมข้าวสวย เป็นมื้ออาหารง่ายๆ ที่อร่อย และกินได้ทั้งบ้าน
2. ต้มจืดฟักแม้วกระดูกอ่อน
ฟักแม้ว เมนูต้มจืดกระดูกอ่อนเป็นเมนูที่อร่อยไม่แพ้ต้มจืดฟักเลยค่ะ เพราะผลฟักแม้วสามารถใช้แทนฟักได้เลยเพียงแต่ว่าจะแข็งและเละยากกว่า ใครที่อยากได้เมนูซดน้ำคล่องคอต้องลองนำไปทำตามกันนะคะ
วัตถุดิบ :
- ผลฟักแม้วหั่นเป็นชิ้น 1000 กรัม
- กระดูกหมูอ่อน 500 กรัม
- รากผักชี 2 ราก
- กระเทียมจีน 6 – 7 กลีบ
- พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอม 5 กรัม
- ผักชี 10 กรัม
วิธีทำ :
- ต้มน้ำให้เดือดแล้วใส่รากผักชีทุบ กระเทียมจีนบุบ พริกไทยดำ เกลือป่น ผงปรุงรส ตามด้วยกระดูกหมูอ่อนลงไป เคี่ยวจนกระดูกหมูอ่อนเริ่มเปื่อยประมาณ 30 นาที
- ปอกเปลือกฟักแม้วแล้วคว้านเมล็ดด้านในออกหั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ ขนาดประมาณ 1 – 2 นิ้ว
- ใส่ฟักแม้วลงไปในน้ำเคี่ยวกระดูกหมูที่สุกได้ที่แล้ว สังเกตดูว่าฟักแม้วเริ่มมีสีใสแล้วก็เป็นอันใช้ได้
- ปรุงรสชาติด้วยเกลือป่น น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาวแล้วต้มต่อประมาณ 15 นาที เมื่อทุกอย่างสุกแล้วก็โรยหน้าด้วยผักชีต้นหอม จากนั้นปิดไฟ และสามารถตักเสิร์ฟได้เลย
3. ฟักแม้วผัดกุ้ง
ผัดฟักแม้วกับกุ้งสด ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม น้ำมันหอย พริกไทย ได้ผัดรสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นกุ้ง ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ จบเลยค่ะ
วัตถุดิบ :
- ฟักแม้ว 1 ลูก (หั่นเป็นชิ้นพอคำ)
- กุ้งสด 300 กรัม (ปอกเปลือก เอาหัวออก)
- กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนชา
- น้ำตาล 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
- น้ำซุป 1/4 ถ้วย
วิธีทำ :
- ตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอร้อนใส่กระเทียมลงผัดจนหอม
- ใส่กุ้งลงผัดพอสุก
- ใส่ฟักแม้ว ผัดให้เข้ากัน
- ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม น้ำมันหอย น้ำตาล และพริกไทย
- เติมน้ำซุป ผัดต่อจนฟักแม้วสุกนิ่ม
- ชิมรส ปรับตามชอบ ยกลงเสิร์ฟ
4. แกงส้มฟักแม้ว
แกงส้มใส่ฟักแม้วหั่นชิ้นพอดีคำ เติมความอร่อยด้วยปลาทูหรือปลาช่อนย่าง น้ำแกงรสเปรี้ยวเผ็ด ได้แกงรสจัดจ้าน เข้ากันดีกับเนื้อฟักแม้วที่นุ่ม
วัตถุดิบ :
- ฟักแม้ว 1 ลูก (หั่นเป็นชิ้นพอคำ)
- ปลาทูหรือปลาช่อนย่าง 2 ตัว (แกะเอาแต่เนื้อ)
- น้ำพริกแกงส้ม 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูดฉีก 2-3 ใบ
- น้ำซุป 4 ถ้วย
วิธีทำ :
- ต้มน้ำซุปให้เดือด
- ละลายน้ำพริกแกงส้มกับน้ำซุปเล็กน้อย แล้วใส่ลงในหม้อ เคี่ยวให้หอม
- ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ เคี่ยวให้เข้ากัน
- ใส่ฟักแม้ว ต้มจนสุกนิ่ม
- ใส่เนื้อปลาและใบมะกรูด ต้มอีกสักครู่
- ชิมรส ปรับตามชอบ ถ้าต้องการเปรี้ยวเพิ่มใส่น้ำมะนาวได้
- ตักใส่ชาม เสิร์ฟร้อนๆ
เกร็ดสุขภาพ : ผู้ที่กำลังลดน้ำหนักห้ามพลาดการกินฟักแม้วเลยค่ะ เพราะฟักแม้วเป็นผักที่ช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดีมาก เป็นผักที่มีพลังงานต่ำ ในฟักแม้วปริมาณ 100 กรัมจะให้พลังงานเพียง 19 กิโลแคลอรีเท่านั้น และยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและอิ่มนานขึ้น รวมทั้งช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยเรื่องระบบขับถ่ายอีกด้วย
ได้คำตอบกันไปแล้วว่าฟักแม้วกินดิบได้ไหม ซึ่งนอกจากจะสามารถกินดิบได้แล้วยังสามารถนำไปสร้างสรรค์เมนูอาหารได้อย่างหลากหลายเลย อีกทั้งยังเป็นผักที่มีคุณประโยชน์สูงด้วย ทั้งนี้ ผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์ควรหลีกเลี่ยงการกินยอดฟักแม้วเพราะมีกรดยูริกสูง แล้วผู้ที่ร่างกายหนาวง่าย ก็ไม่ควรรับประทานฟักแม้วในปริมาณมากเกินไป เนื่องจากเป็นผักที่มีฤทธิ์เย็น อาจทำให้อุณหภูมิร่างกายต่ำลงได้ รวมถึงผู้ที่ท้องร่วงได้ง่าย ท้องไส้ไม่ค่อยดีก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจส่งผลต่อระบบย่อยอาหารได้ หากกินอย่างระมัดระวัง ก็จะได้ประโยชน์มากกว่าโทษแน่นอนค่ะ
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ