X

Ramsay Hunt Syndrome คือ อะไร ? อาการแบบไหนถึงเรียกว่าเสี่ยง ?! ป้องกันได้มั้ย ?!

เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡

Ramsay Hunt Syndrome คือ อะไร ? อาการแบบไหนถึงเรียกว่าเสี่ยง ?! ป้องกันได้มั้ย ?!

ถ้าพูดถึงอาการหน้าเบี้ยว หลายๆ คนก็อาจจะนึกถึงภาวะที่เกิดจากโรคเส้นเลือดในสมองตีบ – แตก ที่ทำให้เกิดอัมพาตครึ่งซีกบนใบหน้า แต่ความจริงแล้ว มีกลุ่มโรคหน้าเบี้ยวโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่แล้วจะรู้จักในโรค Bell’s Palsy ที่เกิดภาวะหน้าเบี้ยวกะทันหัน ทำให้เกิดอาการหน้าเบี้ยวครึ่งซีก ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย และสามารถรักษาให้หายได้ ทั้งนี้ มีโรคที่ทำให้เกิดอาการหน้าเบี้ยวอีกโรคหนึ่งที่ชื่อว่ารัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม หรือ Ramsey Hunt Syndrome คือ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ในบทความนี้ เราจะพาไปรู้จักกับโรคนี้ให้มากขึ้นกันค่ะ

Ramsay Hunt Syndrome คือ อะไร ? เกิดขึ้นได้อย่างไร

Ramsay Hunt Syndrome คือ, อัมพาตครึ่งหน้า
Image Credit : clevelandclinic.org

โรคหน้าอัมพาตครึ่งหน้า หรือโรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม เป็นที่รู้จักมากขึ้นเมื่อครั้งมีข่าวของศิลปินชื่อดังระดับโลก จัสติน บีเบอร์ ประกาศยกเลิกการแสดงคอนเสิร์ตกระทันหัน เนื่องจากมีอาการผิดปกติที่ใบหน้า ไม่สามารถกะพริบตาได้หนึ่งข้าง ไม่สามารถยิ้มได้ และใบหน้าครึ่งซีกเป็นอัมพาตอย่างเต็มรูปแบบ และบอกว่าตนเองถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม ทำให้โรคนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งโรคนี้ เกิดจากไวรัสชนิดเดียวกันที่ก่อให้เกิดโรคงูสวัด ส่งผลให้เกิดภาวะหน้าเบี้ยว เนื่องจากกล้ามเนื้อใบหน้าข้างใดข้างหนึ่งอ่อนแรงหรือเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ สาเหตุมาจากการอักเสบของเส้นประสาทบนใบหน้าข้างหูข้างใดข้างหนึ่ง ทำให้เกิดภาวะอัมพาตบนใบหน้าข้างนั้นๆ นั่นเองค่ะ

อาการของ Ramsay Hunt Syndrome คืออะไร ?

Ramsay Hunt Syndrome คือ, อัมพาตครึ่งหน้า
Image Credit : utswmed.org

ในเริ่มแรกนั้น ผู้ที่ป่วยเป็นโรค Ramsay Hunt Syndrome จะมีไข้และรู้สึกอ่อนเพลียในช่วง 1 – 3 วันแรก หลังจากนั้นจะแสดงอาการที่เป็นลักษณะจำเพาะของโรค โดยจะมีอาการดังนี้

  • มีภาวะอัมพาตครึ่งหน้า 
  • กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงครึ่งซีก 
  • บ้านหมุน รู้สึกเวียนศีรษะ
  • พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว มุมปากตก
  • ไม่สามารถยักคิ้วได้ 
  • สูญเสียการได้ยิน มีความผิดปกติทางหู 
  • มีเสียงวิ้งในหู
  • มีตุ่มน้ำขึ้นในรูหูและใบหู รู้สึกปวดหู
  • บกพร่องทางการรับรู้รส
  • หลับตาไม่สนิท
  • ตาแห้ง ปากแห้ง
  • หากมีการติดเชื้อที่เส้นประสาทคู่ที่ 10 จะทำให้เสียงแหบ สำลัก

เกร็ดสุขภาพ : ความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง Bell’s Palsy และ Ramsay Hunt Syndrome คือ ทั้ง Ramsay Hunt Syndrome และโรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก Bell’s Palsy เกิดจากเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ที่ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อแสดงสีหน้าไม่ทำงาน หรือมีความผิดปกติ โดย  Bell’s Palsy จะเกิดจากเชื้อไวรัสที่แฝงอยู่ในปมประสาท เช่น เชื้อเริม งูสวัด เมื่อร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำลง ก็จะทำให้เกิดโรค Bell’s Palsy ได้ แต่ Ramsay Hunt Syndrome เป็นภาวะแทรกซ้อนหลังการติดเชื้อไวรัส Varicella – Zoster ในผู้ที่ป่วยเป็นโรคงูสวัดหรืออีสุกอีใส หลังจากที่มีการติดเชื้อ แม้อาการของโรคจะหายไปแล้วแต่ก็ยังมีเชื้อฝังตัวอยู่ในปมประสาท ทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนขึ้น ซึ่งจะมีอาการที่ต่างจาก Bell’s Palsy คือ ในผู้ที่เป็นโรค Ramsay Hunt Syndrome จะมีอาการปวดหูหรือมีผื่นตุ่มน้ำใสบริเวณใกล้ใบหูและรูหูร่วมด้วย โดยเริ่มจากเป็นผื่นแดง กลายเป็นตุ่ม และทำให้มีอาการปวดมาก ร่วมกับการสูญเสียการได้ยินชั่วคราวร่วมด้วย ในขณะที่  Bell’s Palsy ไม่มีอาการดังกล่าว

Ramsay Hunt Syndrome รักษาได้อย่างไร

Ramsay Hunt Syndrome คือ, อัมพาตครึ่งหน้า
Image Credit : freepik.com

วิธีการรักษาโรค  Ramsay Hunt Syndrome คือ การให้ยาเพื่อรักษาอาการติดเชื้อไวรัส ร่วมกับการจ่ายยาอื่นๆ ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น ดังนี้

  1. ยาในกลุ่มต้านไวรัส เช่น Acyclovir, Famciclovir, Valacyclovir 
  2. ยาสเตียรอยด์ในรูปแบบยากินหรือยาฉีด เช่น Prednisone ซึ่งการใช้ยาสเตียรอยด์ควบคู่กับยาต้านไวรัสจะช่วยรักษาโรคได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  3. ยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDs และ Carbamazepine เพื่อใช้รักษาผู้ที่มีอาการปวดเส้นประสาท
  4. ยารักษาอาการบ้านหมุน เช่น Antihistamines และ Diazepam

นอกจากการรักษาด้วยยาแล้ว ผู้ที่มีตุ่มน้ำขึ้นด้วย ควรรักษาความสะอาดอยู่เสมอ หากมีอาการปวดสามารถประคบเย็นหรือรับประทานยาพาราเซตามอลเพื่อลดอาการปวดได้ และในผู้ที่มีอาการกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง ไม่สามารถหลับตาได้สนิท อาจทำให้ตาแห้ง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้น้ำตาเทียมหรือตัวช่วยอื่นๆ ที่เพิ่มความชุ่มชื้นบริเวณดวงตา และสวมที่ปิดตาเพื่อป้องกันอาการตาแห้ง ทั้งยังป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในบริเวณกระจกตา เนื่องจากไม่สามารถหลับตาได้สนิทนั่นเอง

ใครบ้างที่เสี่ยงจะเป็นโรค Ramsay Hunt Syndrome

ผู้ที่เสี่ยงจะเป็นโรค Ramsay Hunt Syndrome คือผู้ที่ป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสหรือโรคงูสวัด ที่แม้จะหายจากโรคแล้วแต่เชื้อไวรัสยังคงแฝงอยู่ในร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เกิดโรครัมเซย์ฮัน ซินโดรมเป็นอาการแทรกซ้อนได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ผู้ที่ติดเชื้อ HIV ผู้ที่เป็นโรคมะเร็ง หรืออยู่ในภาวะติดเชื้อบางประการ เป็นต้น นอกจากนี้ ในผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี เด็กแรกเกิด สตรีมีครรภ์ และผู้ที่มีความเครียดทางร่างกาย จิตใจ ก็อาจเสี่ยงที่จะเป็นโรครัมเซย์ฮัน ซินโดรมได้ง่ายกว่าบุคคลทั่วไปเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Ramsay Hunt Syndrome คือโรคที่ไม่สามารถติดต่อได้ แต่เกิดจากเชื้อไวรัส Varicella – zoster ที่ทำให้เกิดโรคงูสวัดและอีสุกอีใส ซึ่งไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายไปยังผู้อื่นได้ผ่านการสัมผัสตุ่มน้ำของผู้ป่วย ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใสได้ ในผู้ที่ไม่เคยเป้นโรคอีสุกอีใสมาก่อน รวมถึงผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันอีสุกอีใส ก็เสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสได้

วิธีป้องกันโรค Ramsay Hunt Syndrome สามารถทำได้หรือไม่

Ramsay Hunt Syndrome คือ, อัมพาตครึ่งหน้า
Image Credit : freepik.com

โรค Ramsay Hunt Syndrome คือโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคงูสวัดหรืออีสุกอีใส ดังนั้น ในผู้ที่เคยเป็นโรคงูสวัดหรืออีสุกอีใสมาก่อน ก็เสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้ หากร่างกายอ่อนแอหรือมีภูมิต้านทานต่ำ ก็อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคนี้ได้ ดังนั้น จึงควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และนอนหลับอย่างมีคุณภาพเพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมฟื้นฟูตัวเอง ร่วมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย และในผู้ที่ไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน ควรได้รับวัคซีนเพื่อป้องกัน ดังนี้ค่ะ

  • ในผู้ที่ไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส (Chickenpox) เพื่อป้องกันการติดเชื้อ Herpes Zoster ซึ่งสามารถป้องกันการติดเชื้ออีสุกอีใสได้มากถึง 90 – 100% และลดโอกาสที่จะเกิดงูสวัดตามมาด้วย
  • ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป อาจฉีดวัคซีนงูสวัด (Varicella Zoster) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันงูสวัดประมาณ 50%

เกร็ดสุขภาพ : โดยทั่วไปแล้ว อุบัติการของโรค Ramsay Hunt Syndrome พบได้น้อยมาก ประมาณ 5 – 10 รายในประชากร 100,000 คน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับโรคงูสวัดที่พบได้ประมาณ 4 รายในประชากร 1,000 คน (สถิติจากโรงพยาบาลพระราม 9) แม้ว่าจะพบได้ไม่มาก แต่ถ้าหากเป็นแล้ว Ramsay Hunt Syndrome คือความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง และหูหนวกได้ ดังนั้น จึงเป็นโรคที่จะต้องได้รับการรักษาโดยเร็วก่อนที่อาการจะทรุดหนัก หากพบว่ามีอาการที่แสดงถึงโรครัมเซย์ฮัน ซินโดรม ควรไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด

โรคอัมพาตครึ่งหน้า หรือ Ramsay Hunt Syndrome เป็นภาวะที่แทรกซ้อนที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคงูสวัดและอีสุกอีใส ซึ่งเชื้อไวรัสจะทำให้เส้นประสาทคู่ที่ 7 หรือคู่ที่ 10 บทใบหน้ามีความผิดปติ ทำให้มีอาการหน้าเบี้ยวครึ่งซีก เปลือกตาปิดไม่สนิท ไม่สามารถยิ้มได้ ยักคิ้วไม่ได้ ร่วมกับอาการมีไข้ กล้ามเนื้ออ่อนแรง และอาจมีตุ่มน้ำขึ้นบริเวณหูร่วมด้วย ซึ่งถ้ามีอาการเหล่านี้ ควรไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะได้รับการวินิจฉัยและรักษาให้ทันท่วงทีนะคะ

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : samitivejhospitals.com, praram9.com, bbc.com, my.clevelandclinic.org, mountsinai.org

Featured Image Credit : vecteezy.com/MD SAIFUL ISLAM

ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ

ติดต่อโฆษณา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้การวิเคราะห์

    เราขออนุญาติใช้คุกกี้นี้เก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดีขึ้นให้กับคุณ

Save