“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
เครื่องวัดความดันที่บ้าน จำเป็นมั้ย ? เลือกยังไง ? ใช้ยี่ห้อไหนดี ?
ทราบไหมคะว่า ระดับความดันโลหิตนั้นสามารถบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพได้หลายประการเลยทีเดียว คนที่มีความดันสูงก็เสี่ยงที่จะเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ เส้นเลือดแดงใหญ่โป่งพอง ไตวาย เป็นต้น แต่ถ้ามีความดันต่ำ ก็อาจจะทำให้อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน และอาจเป็นสัญญาณบอกว่าร่างกายผิดปกติได้ด้วย การตรวจวัดความดันนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมถึงคนที่เป็นโรคความดันสูงด้วยเช่นกัน บางคนอาจจะต้องมี เครื่องวัดความดันที่บ้าน ไว้ตรวจเช็กตัวเองอยู่เสมอ สำหรับใครที่กำลังหาซื้ออยู่ เราก็มีมาแนะนำแล้วค่ะ
แนะนำ 8 ยี่ห้อ เครื่องวัดความดันที่บ้าน ใช้ไม่ยาก ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ
บางคนอาจจะเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า ทำไมเราต้องวัดความดันที่บ้าน ? การมีเครื่องวัดความดันที่บ้านนั้นจำเป็นไหม ? ข้อดีขอการวัดความดันโลหิตที่บ้านก็คือ ค่าความดันโลหิตโดยเฉลี่ยที่เราวัดจากที่บ้าน วันละประมาณ 4 ครั้ง จะช่วยประเมินการรักษาได้ดีกว่าค่าความดันโลหิตที่วัดในโรงพยาบาล เนื่องจากบางคนมีภาวะ White Coat Hypertension คือ ความดันโลหิตสูงชั่วคราวเฉพาะที่โรงพยาบาล เพราะว่ามีอาการตื่นเต้น หรือเกิดความเครียดวิตกกังวลกับสภาพแวดล้อมภายในโรงพยาบาล จึงทำให้วัดค่าความดันสูงกว่าปกติได้นั่นเอง
ทั้งนี้ ในผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือมีโรคประจำตัวอื่นๆ การวัดความดันตัวเองเป็นประจำก็จะช่วยให้เราติดตามประเมินอาการของตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง หากมีความผิดปกติใดๆ ก็จะได้รีบไปโรงพยาบาลทันที เพราะถ้ารอมีอาการหนักแล้วจึงไปโรงพยาบาลอาจจะไม่ทันการณ์และมีอันตรายต่อสุขภาพได้ ว่าแล้วก็มาดูเครื่องวัดความดันที่บ้านกันเลยค่ะ
1. OMRON รุ่น HEM-7143T
เครื่องวัดความดัน ยี่ห้อไหนดี มาเริ่มกันที่ยี่ห้อ OMRON ด้วยระบบการทำงานแบบ Intellisense Technology เพียงกดปุ่มเริ่มการวัด เทคโนโลยี Intellisense ก็จะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ ช่วยให้วัดค่าความดันได้อย่างถูกต้อง สะดวกต่อการใช้งาน นอกจากนี้ ระบบจะทำงานอัตโนมัติด้วยการปรับการปล่อยลมออกจากผ้ารัดแขนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมในการใช้งานแต่ละครั้ง ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนระดับความดันในผ้าพันแขนด้วยตัวเอง พร้อมกับเก็บค่าวัด 30 ครั้งในหน่วยความจำ แล้วก็มีแอพ OMRON Connect สามารถดูบันทึกและจัดการข้อมูลสุขภาพของเราได้ นอกจากนี้ ยังส่งออกข้อมูลไปยังไฟล์. csv เพื่อส่งต่อให้ยังแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญได้อีกด้วย
ราคาโดยประมาณ : 2,200 บาท
2. ALLWELL รุ่น BSX-593
เครื่องวัดความดันที่บ้านที่มีระบบเสียงพูดภาษาไทย หน้าจอเปลี่ยนสีได้ โดยจะเปลี่ยนสีตามความดันที่วัดได้ เช่น สีเขียว/ความดันปกติ สีเหลือง/ค่อนข้างสูง สีแดง/สูง มีความแม่นยำสูง ใช้งานได้ง่ายเพียงกดปุ่มเดียว และใช้เกณฑ์จัดระดับความดันโลหิตตามองค์การอนามัยโลก คุณภาพผ่านมาตรฐานสากล FDA สามารถปลุกเตือนเพื่อวัดความดันได้ บันทึกค่าได้ 2 คน คนละ 99 ค่า และสามารถใช้งานได้ง่ายๆ ด้วยการใส่ถ่าน หรือเสียบสาย USB กับอะแดปเตอร์เพื่อใช้งานเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ได้เช่นกัน สะดวกมากๆ เลยค่ะ
ราคาโดยประมาณ : 1,100 บาท
3. Lifebox รุ่น L-BM01
เครื่องวัดความดัน ราคาย่อมเยา ยี่ห้อ Lifebox แสดงผลด้วยหน้าจอ LCD มีสัญลักษณ์เตือนเมื่อมีการตรวจจับการเคลื่อนไหวขณะวัด มีสัญลักษณ์แสดงเมื่อหัวใจเต้นผิดจังหวะ บันทึกผลได้ 2 คน คนละ 60 ค่า มีการแสดงผลค่าเฉลี่ยการวัด 3 ครั้งล่าสุด ใช้งานง่ายด้วยถ่าน 1.5 V AA จำนวน 4 ก้อน หรือใช้สาย Micro USB เสียบก็ได้ ถ้าใครอยากจะลองซื้อเครื่องวัดความดันมาลองใช้ดูก่อน ตัวนี้ก็น่าสนใจ เพราะราคาไม่แพงเลยค่ะ
ราคาโดยประมาณ : 620 – 695 บาท
4. Beurer รุ่น BM40
เครื่องวัดความดัน ยี่ห้อไหนดี ของ Beurer รุ่น BM40 ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่มีความน่าสนใจ ตัวเครื่องแสดงค่าความดันและอัตราการเต้นของหัวใจ สามารถบันทึกค่าผู้ใช้ได้ 2 ท่าน ท่านละ 60 ค่า พร้อมวันที่และเวลา มีมีสัญลักษณ์บอกค่าการเต้นผิดปกติของหัวใจในขณะที่วัดหรืออยู่ไม่นิ่ง มี WHO Classification บอกระดับความดันโลหิต ผลิตจากประเทศเยอรมนี การใช้งานก็ง่ายดาย ใช้ถ่าน AA จำนวน 4 ก้อน พร้อมอะแดปเตอร์สำหรับเสียบไฟบ้านและกระเป่าเก็บ สามารถพกพาออกไปนอกสถานที่ได้ด้วย
ราคาโดยประมาณ : 1,799 – 2,350 บาท
เกร็ดสุขภาพ : ใครที่เคยไปวัดความดันที่โรงพยาบาล และสงสัยว่า ใบวัดความดันดูยังไง ระดับความดันโลหิตปกติจะต้องมีค่าไม่เกิน 120/80 มิลลิเมตรปรอท และถ้ามีค่าเกิน 140/90 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นเลขตัวหน้าหรือตัวหลังก็ตาม จะถือว่ามีภาวะความดันโลหิตสูง ในขณะเดียวกัน หากวัดความดันได้ต่ำกว่า 90/60 มิลลิเมตรปลอท จะถือว่ามีภาวะความดันโลหิตต่ำ ซึ่งมักจะพบในผู้ที่มีสุขภาพอ่อนแอ ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคความดันโลหิตต่ำ
5. Beurer รุ่น BM81
ถ้าอยากได้ความไฮเทคขึ้นมาอีกนิด แนะนำเป็นเครื่องวัดความดัน ราคาสูงขึ้นมาอีกหน่อย ยี่ห้อ Beurer แต่เป็นรุ่น BM81 ด้วยเทคโนโลยีการการวัดขั้นสูงสุด มีความสบายจากการสะสมแรงกดที่นุ่มนวล สามารถวัดความดันโลหิตและชีพจรโดยอัตโนมัติที่ต้นแขนได้อย่างรวดเร็ว มีหน้าจอวัดผลขนาดใหญ่ พร้อมแสดงค่าสี LED บันทึกค่าผู้ใช้ได้ 2 คน (120 ค่า/คน) สามารถแสดงค่าเฉลี่ยของการวัดทั้งหมด ทั้งเช้า-เย็น 7 วันที่ผ่านมา และเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธได้ด้วย ใช้งานด้วยถ่าน AAA 1.5 V 4 ก้อน ดีไซน์แบบ all in one ไร้ท่อต่อ ไร้สาย เป็นเครื่องวัดความดันที่บ้านแบบพกพาได้สะดวก และใช้งานได้ง่ายมากๆ ค่ะ
ราคาโดยประมาณ : 3,750 บาท
6. CITIZEN รุ่น CH – 657
เครื่องวัดความดันที่บ้านแบบอัตโนมัติที่วัดทางข้อมือ ใช้งานได้ง่ายเพียงกดปุ่มเดียว สามารถบันทึกค่าการวัดได้ 90 ครั้ง อ่านค่าง่ายด้วยการแสดงตัวเลขบนจอ LCD แสดงค่าเฉลี่ยจากการวัด 3 ครั้งสุดท้าย และจะแสดงสัญลักษณ์เมื่อมีการเต้นของหัวใจผิดปกติ มีสัญลักษณ์เตือนเมื่อมีการเคลื่อนไหวมือหรือแขนขณะวัด เครื่องวัดมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว รวมถึงผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือผู้ที่ต้องการตรวจวัดความดันเป็นประจำ ให้การตรวจสุขภาพเริ่มต้นได้ง่ายๆ ที่บ้านค่ะ
ราคาโดยประมาณ : 2,190 – 2,280 บาท
7. HOF BP รุ่น HK-803
เครื่องวัดความดัน ยี่ห้อไหนดีที่มีระบบเสียงพูดเป็นภาษาไทย แนะนำว่าเป็นรุ่นนี้เลยค่ะ ตัวเครื่องเป็นระบบดิจิตอล แสดงผลอัตโนมัติ ระบบปั๊มและปล่อยลมเป็นระบบอัตโนมัติ ให้ความรู้สึกสบาย หน้าจอแสดงผล LCD แสดงปี วัน เวลา ค่าความดันบน-ล่าง และอัตราการเต้นของหัวใจ สามารถบันทึกค่าได้ 2 คน คนละ 120 ครั้ง มีสัญลักษณ์บอกค่าความดันตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก สามารถตั้งเวลาเตือนเพื่อตรวจวัดค่าความดันโลหิตให้ตรงเวลาเดียวกันทุกวันได้ ใช้งานได้โดยการใส่ถ่าน AA 1.5V 4 ก้อน มากับพร้อม Adaptor เลือกใช้งานได้ตามสะดวก
ราคาโดยประมาณ : 2,250 บาท
8. Bluedot รุ่น B-BM02
เครื่องวัดความดัน ราคากลางๆ อีกรุ่นหนึ่งที่มีคุณภาพดี ยี่ห้อ Bluedot รุ่น B-BM02 ใช้สำหรับวัดความดันโลหิตบริเวณต้นแขน ช่วยตรวจวัดความดันโลหิตได้อย่างแม่นยำ บันทึกค่าผู้ใช้ 2 คน (60 ค่า/คน) แสดงผลด้วยหน้าจอ LCD ทำงานด้วยระบบ Intel Comfort บีบรัดอย่างนุ่มนวล สามารถตรวจจับอัตราการเต้นผิดจังหวะของหัวใจได้ พร้อมตรวจจับการเคลื่อนไหวขณะวัด มีระบบปิดอัตโนมัติ เมื่อไม่ได้มีการใช้งาน และแจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่ต่ำ ใช้งานได้โดยการใส่ถ่าน AA 4 ก้อน และมากับพร้อมสาย USB
ราคาโดยประมาณ : 1,189 – 1,290 บาท
เกร็ดสุขภาพ : ภาวะความดันโลหิตสูงและโรคความดันโลหิตสูง นำไปสู่ความเสี่ยงในด้านสุขภาพหลายอย่าง เช่น ทำให้หลอดเลือดตีบ โป่งพอง เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ได้น้อยลง เลือดไปเลี้ยงไตไม่พอ ทำให้ไตวายเรื้อรัง ทำให้หลอดเลือดหัวใจหนา หัวใจขาดเลือด หัวใจวาย ความดันสูงมีผลต่อเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงจอประสาทตา ทำให้จอประสาทตาเสื่อมได้ ทั้งยังเป็นสาเหตุของอัมพฤกษ์ อัมพาตอีกด้วย
วิธีวัดความดันโลหิตที่บ้านอย่างถูกต้อง
- ควรงดสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนอย่างน้อย 30 นาที ก่อนวัดความดัน
- นั่งพักอย่างผ่อนคลายในห้องที่เงียบสงบอย่างน้อย 15 นาทีก่อนวัดความดัน ไม่พูดคุย ไม่ขยับตัว หรือกำมือขณะวัดความดันโลหิต
- นั่งเก้าอี้โดยห้หลังพิงพนัก เท้าทั้ง 2 ข้างวางราบกับพื้น และอยู่ในท่านั่งที่สบาย ไม่เกร็ง
- ควรวัดความดันภายใน 1 ชั่วโมงหลังตื่นนอน หลังจากปัสสาวะ แต่ควรวัดก่อนรับประทานอาหารเช้า และควรวัดก่อนการกินยาความดัน เพื่อให้ค่าความดันได้ผลตามความเป็นจริงมากที่สุด
- หากวัดช่วงเวลาก่อนเข้านอน ควรวัดความดัน 2 ครั้งติดกัน ห่างกันครั้งละ 1 นาที
เครื่องวัดความดันที่บ้านมียี่ห้อไหนน่าสนใจบ้าง เราก็เอามาแนะนำกันแล้วนะคะ หลายรุ่นนั้นมีราคาที่ไม่แพงจนเกินไป ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพื่อการติดตามสุขภาพของตัวเอง โดยเฉพาะผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ควรวัดความดันเป็นประจำ เพราะถ้าหากมีความดันสูงเกินไปอาจเป็นอันตรายได้ ทั้งนี้ ในผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงและมีความดันปกติ หากอยากจะซื้อมาใช้เพื่อตรวจสุขภาพเบื้องต้นของตัวเองอย่างสม่ำเสมอก็สามารถทำได้เช่นกัน จะเลือกแบบไหน รุ่นอะไร ก็ตามความสะดวกได้เลยค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : synphaet.co.th, sikarin.com, bloodpressureuk.org
Featured Image Credit : freepik.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ