X

7 ท่าออกกำลังกาย ดัมเบล สร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ทำตามไม่ยาก !

เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡

7 ท่าออกกำลังกาย ดัมเบล สร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ทำตามไม่ยาก !

สำหรับสายสุขภาพที่รักในการออกกำลังกาย นอกจากการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ หรือโยคะยืดเส้นแล้วนั้น การออกกำลังกายด้วยดัมเบลก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้รูปร่างกระชับขึ้น และสร้างกล้ามเนื้อที่สวยงาม ซึ่งสามารถทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เพียงเลือกน้ำหนักดัมเบลให้เหมาะสม และใช้ท่าดัมเบลที่ถูกต้อง ก็จะทำให้เราได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ วันนี้ทีมงานเพื่อสุขภาพมี ท่าออกกำลังกาย ดัมเบล ที่ทำตามง่ายและได้ผลมาแนะนำกันแล้วค่ะ

รวมท่าออกกำลังกาย ดัมเบล มือใหม่ทำตามได้ เสริมร่างกายให้แข็งแรง

ท่าออกกำลังกาย ดัมเบล, ท่าดัมเบล

การออกกำลังกายด้วยท่าออกกำลังกาย ดัมเบลนั้น เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการฝึกความแข็งแกร่ง ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ หรือมีเป้าหมายเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย ดัมเบลเป็นคำตอบของการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพ และเพื่อสร้างการออกกำลังกายแขน ไหล่ แกนกลาง และขาของคุณ แนะนำให้เริ่มต้นด้วยดัมเบลน้ำหนัก 1-1.5 กิโลกรัมก่อน แล้วถึงค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักดัมเบลเมื่อร่างกายคุณแข็งแกร่งขึ้น จากนั้นมาดูแบบฝึกหัด 7 ท่าออกกำลังกาย ดัมเบลนี้กันเลยค่ะ

1. ท่า Lateral raise

ท่าออกกำลังกาย ดัมเบล, ท่าดัมเบล

ท่าออกกำลังกาย ดัมเบลท่าแรก เป็นท่าที่จะช่วยเสริมแกนกลางของกล้ามเนื้อ เป็นท่าที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เนื่องจากไม่ต้องใช้น้ำหนักมาก เป็นการฝึกความแข็งแรงที่สมบูรณ์แบบหากคุณเพิ่งเริ่มออกกำลังกาย

วิธีการทำ

  1. ยืนแยกขากว้างเท่าสะโพก ถือดัมเบลไว้ในมือแต่ละข้างโดยให้ฝ่ามือหันเข้าหากัน และวางแขนไว้ใกล้กับต้นขาด้านนอก
  2. ให้หลังของคุณตรงและค่อยๆ เกร็งหน้าท้อง ยกดัมเบลออกไปด้านข้างจนแขนขนานกับพื้น ข้อศอกควรงอเล็กน้อย ให้กระดูกสันหลังเป็นกลาง สามารถงอเข่าเล็กน้อยช่วยได้เพื่อให้มั่นคงขึ้น
  3. เมื่อแขนของคุณถึงระดับไหล่แล้ว ให้ยกขึ้นอีกเพียงเล็กน้อยแล้วค่อยๆ ลดดัมเบลลงอย่างช้าๆ กลับมาที่จุดเริ่มต้น
  4. ทำซ้ำ 10-12 ครั้ง และทำ 3 เซ็ท

2. ท่า Overhead press

ท่าออกกำลังกาย ดัมเบล, ท่าดัมเบล
Image Credit : gethealthyu.com

ท่า Overhead Press เป็นท่าดัมเบลบริหารร่างกายส่วนบนที่ใช้ดัมเบลช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับไหล่ เพื่อให้มีกล้ามเนื้อแขนที่แข็งแรงและสวยงาม

วิธีการทำ

  1. ให้ยกดัมเบลขึ้นทั้งสองข้าง โดยให้อยู่ในแนวเดียวกับหู ต้นแขนขนานกับพื้นและแขนตั้งฉากกับพื้น
  2. จากนั้นยกดัมเบลขึ้นเหนือศีรษะ โดยชูแขนตรง ให้ดัมเบลชนเข้าหากัน
  3. กลับไปที่ตำแหน่งเริ่มต้น และทำซ้ำ 10 ครั้ง

3. ท่า Tricep kickback

ท่าออกกำลังกาย ดัมเบล, ท่าดัมเบล
Image Credit : popsugar.com

ท่าออกกำลังกาย ดัมเบลท่านี้ เป็นการออกกำลังกายกล้ามเนื้อไตรเซ็ปส์ กล้ามเนื้อขนาดใหญ่ที่ด้านหลังของต้นแขน โดยจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายช่วงบน และช่วยให้ข้อไหล่ของคุณมั่นคงยิ่งขึ้น

วิธีการทำ

  1. ยืนแยกเท้าออกจากกัน งอเข่าเล็กน้อย ถือดัมเบลไว้ในมือแต่ละข้างโดยให้ฝ่ามือหันเข้าหากัน
  2. รักษากระดูกสันหลังให้ตรงในขณะที่โน้มตัวไปข้างหน้า โดยให้ลำตัวเกือบจะขนานกับพื้น
  3. ให้ต้นแขนแนบชิดลำตัวและศีรษะอยู่ในแนวเดียวกับกระดูกสันหลัง
  4. จากนั้นงอพับแขนไปข้างหน้า ให้ข้อศอกชี้ขึ้นฟ้า ก้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย
  5. หายใจออกแล้วยกดัมเบลขึ้นโดยเหยียดข้อศอกให้ตรง จากนั้นหายใจเข้าเพื่อยกดัมเบลกลับไปที่ตำแหน่งเริ่มต้น
  6. ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง และทำ 2-3 เซ็ท

เกร็ดสุขภาพ : ทิปส์ในการออกกำลังกายด้วยดัมเบลนั้น ควรเลือกน้ำหนักของดัมเบลให้เหมาะสม อย่าเลือกที่หนักหรือเบาจนเกินไป วิธีเช็กว่าน้ำหนักขนาดไหนที่เหมาะกับคุณ ให้ลองหยิบดัมเบลมายกขึ้นลงประมาณ 10 ครั้ง หากรู้สึกตึงๆ แขนและรู้สึกว่าต้องใช้ความพยายาม น้ำหนักดัมเบลนี้ก็เหมาะกับคุณค่ะ แต่หากยกยังไม่ถึงสิบครั้งแล้วรู้สึกเหนื่อยหรือเมื่อยแขนมาก นั่นแปลว่าดัมเบลนั้นหนักเกินไปสำหรับคุณ และถ้ายกแบบสบายๆ เกินไป ก็แปลว่าน้ำหนักดัมเบลเบาเกินไปค่ะ

4. ท่า Hammer curl

ท่าออกกำลังกาย ดัมเบล, ท่าดัมเบล
Image Credit : oxygenmag.com

ท่าดัมเบลท่านี้ เป็นท่าที่ออกกำลังกล้ามเนื้อที่ต้นแขนและแขนท่อนล่าง ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายส่วนบน เป็นท่าที่ทำตามง่าย เหมาะกับมือใหม่ด้วยค่ะ

วิธีการทำ

  1. ยืนโดยให้ขาเหยียดตรง และเข่าอยู่ในแนวเดียวกันกับสะโพก วางแขนไว้ข้างลำตัวโดยมีดัมเบลอยู่ในมือแต่ละข้าง
  2. หันฝ่ามือไปทางต้นขา นิ้วหัวแม่มือชี้ไปข้างหน้า และผ่อนคลายบริเวณไหล่
  3. จากนั้นงอข้อศอก ยกแขนท่อนล่างขึ้นเพื่อดึงดัมเบลไปทางไหล่ ต้นแขนจะต้องอยู่กับที่และข้อมืออยู่ในแนวเดียวกับปลายแขน
  4. ยกค้างไว้หนึ่งวินาที จากนั้นลดดัมเบลลงเพื่อกลับสู่ตำแหน่งเริ่มต้น
  5. ทำซ้ำ 10 ครั้ง และทำ 2 เซ็ท

5. ท่า Overhead tricep extension

ท่าออกกำลังกาย ดัมเบล, ท่าดัมเบล
Image Credit : gethealthyu.com

มาที่ท่าออกกำลังกาย ดัมเบลท่านี้กันค่ะ ท่า Overhead tricep extension เป็นการออกกำลังกายที่เสริมสร้างและปรับกล้ามเนื้อไตรเซ็ปส์เพื่อแขนที่แข็งแรง หากใครเริ่มมีต้นแขนที่หย่อนคล้อย ท่านี้เหมาะมากในการกระชับต้นแขนของคุณค่ะ

วิธีการทำ

  1. ยืนแยกขาให้กว้างเท่าสะโพก โดยถือดัมเบลไว้เหนือศีรษะ รักษากระดูกสันหลังให้ตรงและเกร็งหน้าท้อง
  2. งอศอก พร้อมกับลดดัมเบลไว้ด้านหลังศีรษะ ให้ข้อศอกของคุณโอบเข้าหาศีรษะและชี้ไปข้างหน้า
  3. จากนั้นยืดแขนของคุณกลับสู่ตำแหน่งเริ่มต้น
  4. ทำซ้ำ 10 ครั้ง และทำ 2-3 เซ็ท

6. ท่า Lunge

ท่าออกกำลังกาย ดัมเบล, ท่าดัมเบล
Image Credit : popsugar.com

สำหรับท่าออกกำลังกาย ดัมเบลท่านี้นั้น เป็นการออกกำลังในส่วนของขา ช่วยการสร้างความแข็งแรง สร้างกล้ามเนื้อ และช่วยเผาผลาญแคลอรี่ แถมยังเป็นท่าออกกำลังกายลดก้นได้อีกด้วย

วิธีการทำ

  1. ถือดัมเบลไว้ข้างลำตัว ก้าวขาไปข้างหน้า หลังตรง
  2. จากนั้นงอเข่าและลดลำตัวลงจนเข่าหลังอยู่ห่างจากพื้นไม่กี่นิ้ว พร้อมกับยกดัมเบลขึ้นมาที่ไหล่
  3. ดึงขากลับมาที่จุดเริ่มต้น แล้วทำซ้ำด้วยขาซ้าย ทำสลับกัน 10 ครั้งในแต่ละข้าง

7. ท่า Floor press

ท่าออกกำลังกาย ดัมเบล, ท่าดัมเบล
Image Credit : skimble.com

ท่าออกกำลังกายด้วยดัมเบลท่านี้จะนอนราบลงกับพื้น โดยถือดัมเบลไว้ทั้งสองข้าง การกดตัวลงกับพื้นจะทำให้ไหล่ของคุณตึงน้อยกว่าท่ามาตรฐาน จึงเป็นวิธีที่ดีในการบริหารกล้ามเนื้อหน้าอก

วิธีการทำ

  1. นอนหงายหลังราบกับพื้น งอเข่า และถือดัมเบลไว้บริเวณหน้าอก จากนั้นค่อยๆ ลดต่ำลงจนหลังแขนแตะพื้น
  2. จากนั้นยืดแขนขึ้นจนสุด และค่อยๆ ลดกลับไปที่ตำแหน่งเริ่มต้น
  3. ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง และทำ 2 เซ็ท

เกร็ดสุขภาพ : ข้อควรระวังของการออกกำลังกายด้วยดัมเบลนั้น การยกดัมเบลที่หนักเกินไปอาจทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่อเสียหายได้ และอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อน และในกรณีที่รุนแรง การยกดัมเบลที่หนักเกินไปอาจทำให้หลอดเลือดหัวใจฉีกขาดซึ่งอาจส่งผลให้เสียชีวิตได้

ใครที่ต้องการออกกำลังกายด้วยดัมเบล เพื่อสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรงนั้น ลองเอาท่าออกกำลังกาย ดัมเบลเหล่านี้ไปฝึกทำตามกันดูนะคะ และหากคุณต้องการยกดัมเบลเพื่อช่วยลดน้ำหนักด้วยนั้น ขอแนะนำให้ลองปรับเปลี่ยนการกินอาหาร เช่น การทำฟาสติ้งคือหนึ่งในวิธีควบคุมการกินที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะจะช่วยให้ร่างกายมีเวลาในการเผาผลาญไขมันมากขึ้นด้วยค่ะ

Featured Image Credit : freepik.com/benzoix

ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ

ติดต่อโฆษณา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้การวิเคราะห์

    เราขออนุญาติใช้คุกกี้นี้เก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดีขึ้นให้กับคุณ

Save