“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
นวดสปอร์ต คืออะไร ? ดีต่อร่างกายยังไง ไม่ใช่นักกีฬานวดได้หรือเปล่า ?!
ถ้าพูดถึงการนวด บางคนก็อาจจะนึกถึงการนวดแผนไทย หรือนวดในสปาเพื่อผ่อนคลาย แต่ความจริงแล้ว ประเภทของการนวดมีอยู่หลากหลายด้วยกัน เช่นการนวดสวีดิช นวดน้ำมันอโรมา นวดจับเส้น นวดฝ่าเท้ากดจุด นวดประคบด้วยหินร้อน หรือนวดแก้ออฟฟิศซินโดรมในผู้ที่ปวดเมื่อยร่างกายจากการนั่งทำงานนานๆ รวมถึงการ นวดสปอร์ต ที่ถูกพูดถึงมากขึ้นในปัจจุบัน ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงการนวดแบบสปอร์ตกันค่ะ เป็นการนวดแบบไหน เหมาะกับใคร ไม่ใช่นักกีฬานวดได้หรือไม่ ไปหาคำตอบกันเลย
นวดสปอร์ต เป็นการนวดแบบไหน ? มารู้จักให้มากขึ้นกัน !
การนวดแบบสปอร์ต หรือ Sport Massage เป็นการนวดที่ออกแบบมาเพื่อนักกีฬา และผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนักโดยเฉพาะ เพื่อเป็นการลดความตึงของกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และช่วยให้กล้ามเนื้อสามารถฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บได้เร็วขึ้น ทั้งยังเป็นการนวดให้นักกีฬารู้สึกผ่อนคลาย ทั้งก่อนและหลังการแข่งขัน รวมถึงนวดก่อน – หลังการออกกำลังกายด้วยเช่นกัน ซึ่งการนวดจะช่วยบรรเทาความเครียดและความตึงตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่นมากขึ้น นอกจากนี้ การนวดจะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับนักกีฬาก่อนการแข่งขัน ทั้งยังช่วยลดอาการบวมได้อีกด้วย ซึ่งการนวดแบบสปอร์ตมีความแตกต่างจากการนวดแบบอื่นๆ โดยจะเน้นการนวดกล้ามเนื้อระดับลึก มีการใช้เทคนิคที่หลากหลาย ทั้งการลูบยาว ลูบสั้น เคาะ ตบ คลึง เขย่า ยืดกล้ามเนื้อ เป็นต้น
เกร็ดสุขภาพ : นวดสปอร์ต คือศาสตร์การนวดที่มีมานานนับพันปี สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นตั้งแต่ยุคสมัยกรีกโรมัน ซึ่งแพทย์ในสมัยนั้นนิยมนวดให้นักสู้ที่เรียกกันว่า Gladiator เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อก่อนการต่อสู้ และเพื่อให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่น ผ่อนคลายลงหลังจากการต่อสู้สิ้นสุดลง ซึ่งการนวดแบบนี้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งในศตวรรษที่ 20 โดยวงการกีฬาของสหรัฐอเมริกาและยุโรปได้นำเอาการนวดแบบ Sport Massage มาใช้กับนักกีฬามากขึ้น
รูปแบบการนวดสปอร์ต นวดอย่างไร ?
หากเป็นการนวดโดยทั่วไป จะเน้นการนวดที่ลงลึก และนวดเค้น เพื่อคลายการตึงของกล้ามเนื้อและจุดกดเจ็บ ขณะที่การนวดแบบสปอร์ตจะเป็นการนวดที่เบากว่า และนวดไล่ระดับชั้นกล้ามเนื้อ เน้นจังหวะความเร็วตามวัตถุประสงค์ว่า เป็นการนวดก่อนหรือหลังการออกกำลังกาย โดยการนวดแบบสปอร์ต จะแบ่งการนวดออกเป็นช่วงๆ คือ ก่อนการเล่นกีฬา ระหว่างเล่นกีฬา และหลังการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีจุดประสงค์ที่ต่างกัน และให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน ดังนี้
1. การนวดสปอร์ตก่อนเล่นกีฬา
การนวด Sport Massage ก่อนเล่นกีฬา ก่อนซ้อม หรือก่อนการแข่งขัน จะเป็นการนวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อเบาๆ ไม่ได้มีการลงน้ำหนักเยอะ แต่จะเป็นการนวดเพื่อกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ ซึ่งมีประโยชน์ดังนี้
- เพื่อให้เกิดความร้อนในร่างกาย เป็นการวอร์มร่างกายก่อนที่จะใช้กล้ามเนื้อ
- ลดโอกาสในการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ
- เพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและข้อต่อ
- เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อได้รับออกซิเจนและสารอาหารมากขึ้น
- เพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน
2. นวดสปอร์ตระหว่างการแข่งขัน
การนวดในระหว่างการแข่งขัน อย่างการนวดในช่วงพัก มีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้มากขึ้น ช่วยคลายความอ่อนล้า เพิ่มความยืดหยุ่นให้ข้อต่อ และลดโอกาสที่จะเป็นตะคริวในระหว่างการแข่งขัน (อ่านเพิ่มเติม ตะคริวเกิดจากอะไร) เนื่องจากในระหว่างการแข่งขัน จะมีการใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เกิดกรดแลคติกที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้า การนวดแบบสปอร์ตในระหว่างการแข่งขันจะช่วยให้ร่างกายขับกรดแลคติกออกได้เร็วขึ้น โดยดีต่อร่างกายดังนี้
- สามารถลดอาการอักเสบ ปวด บวม ช้ำได้
- ช่วยคลายความเครียด ความวิตกกังวล
- บรรเทาอาการปวด
3. การนวดสปอร์ตหลังการเล่นกีฬา
การนวดแบบสปอร์ตหลังเล่นกีฬา หลังซ้อมการแข่งขัน หรือเมื่อเสร็จสิ้นการแข่งขัน จะเป็นการนวดโดยไล่จากกล้ามเนื้อชั้นบน ไล่ไปจนถึงบริเวณกล้ามเนื้อชั้นลึก เพื่อเป็นการไล่กรดแลคติกออกไป ทั้งยังเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และมีการลงน้ำหนักในบางจุดที่มีอาการตึงหลังจากออกกำลังกาย และมีประโยชน์อื่นๆ ดังนี้
- ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของของเหลวในร่างกาย เช่น เลือด น้ำเหลือง ช่วยเพิ่มกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
- ลดโอกาสที่เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนล้า
- ช่วยลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- ปรับอารมณ์ให้สดชื่น นอนหลับได้ดีขึ้น
การนวดสปอร์ตเหมาะกับใครบ้าง ไม่ใช่นักกีฬานวดได้หรือไม่ ?
แม้ว่าการนวดแบบสปอร์ตจะนิยมนวดในหมู่นักกีฬามืออาชีพเป็นส่วนใหญ่ แต่ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำก็สามารถนวดได้เช่นกัน เพราะถ้าหากออกกำลังกายเป็นประจำแล้วไม่มีการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ก็จะทำให้กล้ามเนื้อตึงตัวสะสม และมีโอกาสที่จะเกิดการบาดเจ็บกะทันหันได้ นอกจากนี้ บุคคลทั่วไปหรือผู้ที่ทำงานโดยใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำๆ อย่างพนักงานออฟฟิศ ที่มักจะรู้สึกปวดเมื่อยหรือตึงในบริเวณกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ หลัง เนื่องจากนั่งทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานาน ก็สามารถนวดแบบสปอร์ตเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้เช่นเดียวกัน
เกร็ดสุขภาพ : บางคนอาจจะสงสัยว่า หากมีอาการปวดกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกายที่เรียกว่า DOMS หรือ Delayed Onset Muscle Sorness สามารถนวดแบบสปอร์ตได้หรือไม่ คำตอบคือ สามารถนวดได้ แต่ถ้าหากเป็นอาการบาดเจ็บที่มีการอักเสบของกล้ามเนื้อ หรือเส้นใยกล้ามเนื้อฉีกขาด ควรจะรักษาในทางกายภาพบำบัดร่วมด้วย ซึ่งจะช่วยให้ความเจ็บปวดค่อยๆ ดีขึ้น
นวดแบบสปอร์ต สามารถนวดได้บ่อยแค่ไหน ?
แม้ว่าการนวดแบบ Sport Massage จะเหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย แต่ถึงแม้ว่าจะออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน ก็ไม่ได้หมายความว่าควรนวดทุกวัน ในผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ การนวดแบบสปอร์ตอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็เพียงพอต่อการผ่อนคลายและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ในขณะผู้ที่ออกกำลังกาย 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ควรนวดแบบสปอร์ตอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง ทั้งนี้ ในผู้ที่กำลังรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ หรือการผ่าตัด ควรงดการนวดแบบนี้ เพราะอาจทำให้ร่างกายบาดเจ็บได้นะคะ
สำหรับผู้ที่สนใจอยากลองนวดแบบสปอร์ตดู ก็สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่บริการใกล้บ้านได้เลยค่ะ ซึ่งมีให้บริการทั้งในยิม ในสถานที่ออกกำลังกาย หรือในคลินิกกายภาพบำบัดบางแห่งก็มีให้บริการ สำหรับค่าใช้จ่ายนั้น จะอยู่ที่ชั่วโมงละ 800 – 1,000 บาท ซึ่งผู้ที่สามารถให้บริการนวดแบบสปอร์ตได้ จะต้องได้รับการอบรมโดยมีใบ Certificate รับรอง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ ใครที่ชอบออกกำลังกายเป็นประจำแต่มีปัญหาเกี่ยวกับการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือกล้ามเนื้ออักเสบ ได้รับการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายบ่อยๆ การนวดสปอร์ต อาจจะเป็นวิธีแก้ไขปัญหาที่ดีก็ได้นะคะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : sportstherapyuk.com, sanophysiotherapy.com, healthdirect.gov.au, verywellhealth.com
Featured Image Credit : freepik.com/tonodiaz
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ