“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ท้องเสียกินผลไม้อะไรได้บ้าง ? ผลไม้แบบไหนที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวไว ไม่แย่ลงกว่าเดิม !
ไม่ว่าอาการท้องเสียของคุณจะเกิดจากการแพ้อาหาร อาหารเป็นพิษ หรือโรคเรื้อรัง อย่างเช่น ลำไส้แปรปรวน หรืออย่างอื่นก็ตาม การเลือกกินอาหารนั้น ก็เป็นวิธีการที่สำคัญที่จะช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้ ซึ่งแน่นอนว่าอาหารที่คุณจะต้องระมัดระวังในการเลือกกินอาหารโดยพิเศษ เพื่อไม่ให้ไปกระตุ้นอาการ และทำให้อาการท้องเสียนั้นรุนแรงกว่าเดิม นอกเหนือไปจากอาหารที่ควรเลือกกินแล้วนั้น ในบทความนี้ เพื่อสุขภาพจะขอชวนไปดูเพิ่มเติมว่า ท้องเสียกินผลไม้อะไรได้บ้าง ? เพื่อช่วยคุณดูแลสุขภาพ และหาของกินที่จะช่วยดูแลตัวเองได้ดีมากขึ้นค่ะ
อยากกินผลไม้ ช่วงท้องเสียกินผลไม้อะไรได้บ้าง ? รวมผลไม้กินอร่อย แถมช่วยบรรเทา !

เวลาที่ท้องเสีย นั่นก็เพราะหนึ่งในอาหารที่คุณกินนั้น อาจส่งผลต่อการทำงานของระบบย่อยอาหารได้ และเมื่อคุณมีอาการท้องเสียก็ควรใส่ใจดูแลเรื่องอาหารการกินให้มากกว่าเดิมค่ะ นอกจากนี้อาหาร และผลไม้หลายชนิดก็มีส่วนช่วยให้ระบบการย่อยอาหารของคุณกลับมาเป็นปกติ และในขณะที่กำลังท้องเสียอยู่นั้น ก็แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงผลไม้ที่ไม่มีน้ำตาลด้วยนะคะ เพราะในผลไม้ที่มีน้ำตาลเยอะ อาจจะมาพร้อมไฟเบอร์ที่สูง เช่น เบอร์รี่ แอปเปิ้ล และไฟเบอร์ในนั้นอาจทำให้อาการท้องเสียแย่ลงได้เหมือนกัน ว่าแต่ ท้องเสียกินผลไม้อะไรได้บ้างนั้น เรามาดูกันเลยค่ะ
ผลไม้ที่กินได้ช่วงท้องเสีย (ในปริมาณที่พอดี)

1. กล้วยหอมสุก
กล้วยหอมสุกเป็นผลไม้ที่อ่อนโยนกับลำไส้มากที่สุดในช่วงที่ท้องเสีย เพราะย่อยง่าย ให้พลังงานเร็ว และช่วยชดเชยโพแทสเซียมที่ร่างกายสูญเสียไปจากการถ่ายเหลว ที่สำคัญคือมีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำชื่อว่า “เพกติน” ซึ่งช่วยดูดซับน้ำในลำไส้ ทำให้ลำไส้ทำงานเป็นปกติและอาการถ่ายเหลวลดลงอย่างเห็นได้ชัด
2. มะละกอสุก
มะละกอสุกย่อยง่ายมาก และมีเอนไซม์ “ปาเปน” ช่วยย่อยโปรตีน ทำให้กระเพาะไม่ทำงานหนักเกินไป เหมาะสำหรับคนที่เริ่มฟื้นตัวจากอาการถ่าย หรือยังมีอาการอยู่นิดหน่อย มะละกอมีไฟเบอร์พอประมาณ ไม่มากเกินไป จึงช่วยกระตุ้นการขับถ่ายให้อยู่ในระดับสมดุลโดยไม่รุนแรง
3. ฝรั่ง (เฉพาะเนื้อ ไม่กินเมล็ด)
ฝรั่งอุดมไปด้วยสารแทนนิน ซึ่งมีฤทธิ์ฝาดตามธรรมชาติ ช่วยลดการเคลื่อนไหวของลำไส้ และชะลออาการถ่ายเหลว แถมยังมีวิตามินซีสูงที่ช่วยฟื้นภูมิคุ้มกัน แต่ควรระวังเรื่องเมล็ด เพราะย่อยยากและอาจทำให้ระคายเคืองลำไส้เพิ่มได้ แต่หากเป็นไข้ห้ามกินผลไม้อย่างฝรั่งมากจนเกินไป เพราะว่ามีโพแทสเซียมสูง กินมากไปอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้ค่ะ
4. น้ำมะพร้าว (จิบทีละน้อย)
น้ำมะพร้าวช่วยชดเชยน้ำและแร่ธาตุที่เสียไปจากการท้องเสีย โดยเฉพาะโพแทสเซียมและโซเดียม แต่ควรจิบทีละน้อย ไม่ดื่มรวดเดียว เพราะถ้ารับของเหลวมากเกินไปในคราวเดียวอาจกระตุ้นให้ลำไส้ทำงานหนักจนแย่ลงแทนที่จะดีขึ้น
เกร็ดสุขภาพ : นอกเหนือไปจากท้องเสียกินผลไม้อะไรได้บ้างแล้วนั้น พืชอย่างขิงก็เป็นสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพโดยรวมที่ช่วยย่อยอาหาร ลดการอักเสบและอาการเสียดท้อง และยังบรรเทาอาการลำไส้แปรปรวนได้อีกด้วย ลองจิบน้ำขิงผสมน้ำมะนาวเล็กน้อยหลังอาหารทุกมื้อ จะช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้เป็นอย่างดี
5. ลูกแพร์นิ่ม (สุกจัด)
ลูกแพร์ที่สุกจัดมีเนื้อนุ่ม ย่อยง่าย และให้ความชุ่มชื้นกับร่างกาย เหมาะมากสำหรับคนที่กำลังฟื้นตัวจากอาการท้องเสีย เพราะมีใยอาหารชนิดละลายน้ำ (Soluble fiber) ซึ่งช่วยให้อุจจาระจับตัวดีขึ้น แต่ไม่ควรกินลูกแพร์แข็งหรือแบบกรอบ เพราะอาจทำให้ลำไส้ทำงานหนักขึ้น
ผลไม้กลุ่มที่พอกินได้ (แต่อย่ากินเยอะ)

1. ทับทิม
ทับทิมเป็นผลไม้บำรุงปอด และเป็นยาพื้นบ้านที่รู้จักกันดีในการรักษาโรคท้องร่วงและปัญหาอื่นๆ เกี่ยวกับกระเพาะอาหารและลำไส้ และมีการใช้มานานหลายศตวรรษเพื่อรักษาและป้องกันโรคบิด การอักเสบ และการติดเชื้อในลำไส้ รวมถึงใช้ในการรักษาอาการท้องเสียและท้องร่วงได้อีกด้วย เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านการอักเสบในทางเดินอาหาร เมล็ดทับทิมจะเต็มไปด้วยโพลีฟีนอล เอลลาจิแทนนิน และแอนโธไซยานิน สารประกอบเหล่านี้มีฤทธิ์ต้านแผลและฤทธิ์ต้านการอักเสบที่ช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้ เนื้อทับทิมมีสารฝาดเช่นกัน ซึ่งอาจช่วยลดการถ่ายในบางราย มีเมล็ดแข็งและใยอาหารสูง กรณีที่ยังถ่ายอยู่ควรเลี่ยงกินทั้งลูก ควรกินเฉพาะน้ำคั้นใสแบบไม่มีเนื้อและเมล็ดเท่านั้น
2. มะม่วงสุก
ในมะม่วงสุกมีสารเพคตินในปริมาณสูง ซึ่งเป็นสารใยอาหารที่ช่วยเคลือบและปกป้องผนังกระเพาะและลำไส้ ช่วยเพิ่มความหนืดและความชุ่มชื้นของอุจจาระ ทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น อีกทั้งมีสารแทนนินซึ่งมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของอาการท้องเสีย แถมในมะม่วงสุกยังมีปริมาณโปรตีน แป้ง และแร่ธาตุต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยฟื้นฟูสมดุลของระบบย่อยอาหาร อีกทั้งมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ช่วยลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร มะม่วงสุกจึงเป็นหนึ่งในลิสต์ของท้องเสียกินผลไม้อะไรดี ที่เราอยากแนะนำ แต่ถึงแม้มะม่วงสุกจะย่อยง่ายและให้พลังงาน แต่ก็มีน้ำตาลสูง อาจทำให้ลำไส้บางคนไวต่อการขับถ่ายเพิ่มขึ้น ถ้าจะกิน ควรเป็นปริมาณน้อย และเลือกลูกที่สุกจัดเท่านั้นค่ะ
3. มังคุด
ท้องเสียกินผลไม้อะไรได้บ้าง แนะนำให้กินมังคุดค่ะ มังคุดเป็นผลไม้เมืองร้อน และนิยมใช้สำหรับรักษาอาการท้องเสีย ท้องร่วง การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และการติดเชื้อในลำไส้ที่เรียกว่าโรคบิด ทั้งยังใช้สำหรับกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย สามารถกินทั้งผลได้ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรกินเยอะ เพราะมังคุดเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาล หากกินมากไปอาจทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้ หรือจะเลือกดื่มเป็นน้ำมังคุดแทนก็ได้ เพราะช่วยรักษาอาการท้องร่วง และภาวะอื่นๆ ได้เช่นกัน
4. ส้ม
ส้ม เป็นอีกหนึ่งอย่างในลิสต์ท้องเสียกินผลไม้อะไรดี ? เพราะในส้มมีปริมาณวิตามินซีสูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน กรดในส้มมีฤทธิ์ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการท้องเสีย เช่น อีโคไล ส้มช่วยเพิ่มปริมาณของเหลวและเส้นใยในลำไส้ ทำให้ขับถ่ายได้สะดวกขึ้น แถมเกลือแร่และแร่ธาตุในส้ม เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม ยังช่วยทดแทนของเสียที่สูญเสียไปจากการท้องเสีย แต่ถึงแม้ว่าส้มจะดีต่อการท้องเสีย แต่ก็อย่ากินส้มที่เปรี้ยวจนเกินไป เพราะอาจไปกระตุ้นให้อาการท้องเสียหนักขึ้นก็ได้เช่นกันนะคะ และด้วยความเป็นกรดของน้ำส้มอาจระคายกระเพาะในบางคน โดยเฉพาะหากดื่มตอนท้องว่างหรือมีอาการปวดเกร็งท้องร่วมด้วย หากอยากกินจริงๆ แนะนำให้ดื่มน้ำส้มเจือจาง หรือกินเนื้อส้มเล็กน้อยหลังอาหารเท่านั้น
5. สับปะรด
แม้สับปะรดจะมีเอนไซม์ช่วยย่อย (บรอมีเลน) และบางคนบอกว่ากินแล้ว “ช่วยลดท้องเสีย” แต่จริงๆ แล้ว เนื้อสับปะรดมีกรดธรรมชาติและใยอาหารสูง อาจระคายลำไส้หรือทำให้ถ่ายมากขึ้นในบางคน จึงควรหลีกเลี่ยงหากยังมีอาการท้องเสียอยู่ หรือกินในปริมาณน้อยจะดีกว่าค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : เพื่อรักษาและบรรเทาอาการท้องเสีย ควรหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีเส้นใยที่ไม่ละลายน้ำ เพราะเส้นใยหรือไฟเบอร์ที่ไม่ละลายน้ำจะเป็นประโยชน์ต่ออาการท้องผูก เมื่อดื่มน้ำปริมาณมากจะช่วยให้อุจจาระนิ่มลง ผู้ที่มีอาการท้องผูกอาจได้รับประโยชน์จากใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ แต่อาจทำให้คนที่มีอาการท้องร่วงหรือท้องเสียแย่ลงได้ เนื่องจากจะทำให้อาหารเคลื่อนที่ผ่านลำไส้เร็วขึ้น
ผลไม้อะไรบ้าง ที่ควรเลี่ยงไม่ควรกินเลยช่วงท้องเสีย

1. สตรอเบอร์รี่
แม้ว่าสตรอเบอร์รี่จะอุดมไปด้วยวิตามินซีและใยอาหาร แต่ใยอาหารในผลไม้สด โดยเฉพาะชนิดไม่ละลายน้ำแบบที่มีในเปลือกหรือเนื้อของสตรอเบอร์รี่ อาจกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวมากขึ้น ส่งผลให้อาการท้องเสียแย่ลงได้ อีกอย่างคือสตรอเบอร์รี่เป็นผลไม้ผิวบาง ล้างสารเคมีออกได้ยาก ถ้าล้างไม่สะอาด อาจเพิ่มความเสี่ยงเรื่องเชื้อโรคหรือสารตกค้างที่กระตุ้นการถ่ายเพิ่มได้อีกค่ะ
2. องุ่น
ผลไม้เปลือกบางที่ล้างให้สะอาดจริงๆ ได้ยาก หากล้างไม่ดีอาจมีสารเคมีหรือเชื้อโรคตกค้างอยู่ได้ง่าย ซึ่งในช่วงที่ลำไส้อ่อนแอจากอาการท้องเสีย ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้มากขึ้น นอกจากนี้เปลือกองุ่นยังมีใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำสูง ซึ่งกระตุ้นการขับถ่ายและเพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้ ส่งผลให้อาการท้องเสียรุนแรงขึ้นได้
3. ลิ้นจี่
ลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลฟรุกโตสในปริมาณสูง ซึ่งน้ำตาลชนิดนี้ร่างกายบางคนดูดซึมได้ไม่ดีนัก โดยเฉพาะในช่วงที่ระบบย่อยอาหารมีปัญหา น้ำตาลที่ย่อยไม่หมดจะถูกส่งต่อไปยังลำไส้ใหญ่ และกลายเป็นอาหารของแบคทีเรีย ส่งผลให้เกิดการหมักหมมในลำไส้ เกิดแก๊ส ท้องอืด และเร่งการขับถ่ายมากขึ้น นอกจากนี้ ลิ้นจี่ที่สุกจัดหรือทิ้งไว้นานอาจเริ่มหมักเองโดยธรรมชาติ ทำให้เสี่ยงเรื่องเชื้อจุลินทรีย์มากขึ้นในช่วงที่ลำไส้ยังไม่แข็งแรงได้ค่ะ
4. แก้วมังกร (โดยเฉพาะเนื้อแดง)
ผลไม้หน้าตาสวยนี้ดูเหมือนจะเบาและย่อยง่าย แต่จริงๆ แล้วเต็มไปด้วยไฟเบอร์สูง โดยเฉพาะชนิดไม่ละลายน้ำ ซึ่งอาจเพิ่มปริมาณอุจจาระและกระตุ้นให้ลำไส้ทำงานหนักขึ้น หากกินในช่วงท้องเสีย อาจทำให้อาการแย่ลง นอกจากนี้แก้วมังกรเนื้อแดงยังทำให้อุจจาระมีสีแดงได้ ซึ่งอาจสร้างความสับสนว่าเป็นเลือด ทำให้บางคนตกใจโดยไม่จำเป็น
5. มะขาม
มะขามมีฤทธิ์เป็นกรดตามธรรมชาติ และมีเส้นใยพอสมควร ทำให้สามารถระคายเคืองกระเพาะและลำไส้ได้โดยเฉพาะในคนที่มีอาการท้องเสียอยู่แล้ว และไม่ใช่แบบสดเท่านั้น แต่ในรูปแบบแปรรูปเอง เช่น มะขามเปียก มะขามคลุก มักจะมีการเติมน้ำตาล เกลือ หรือพริก ซึ่งล้วนเป็นตัวกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวแรงขึ้น และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย ทำให้ร่างกายยิ่งอ่อนเพลียและฟื้นตัวช้าลงนั่นเองค่ะ
คำแนะนำเพิ่มเติมเมื่ออยากกินผลไม้ช่วงท้องเสีย

ช่วงที่ท้องเสีย ร่างกายจะสูญเสียทั้งน้ำและแร่ธาตุสำคัญ การกินผลไม้จะช่วยเติมวิตามินและใยอาหารที่จำเป็นได้ แต่ต้องเลือกผลไม้และวิธีกินให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้อาการแย่ลงนั่นเองค่ะ แนะนำให้เลือกกินผลไม้ที่เนื้อนุ่ม ย่อยง่าย เช่น กล้วยหอม มะละกอสุก ฝรั่งสุก และมังคุด โดยกินในปริมาณพอดี ไม่มากเกินไป เพื่อช่วยเสริมพลังงานและชดเชยแร่ธาตุที่เสียไป และสำหรับผลไม้รสเปรี้ยวหรือมีกรด เช่น ส้ม สับปะรด และมะม่วง ควรกินแต่พอดีและระวังอาการ หากรู้สึกปวดท้องหรือถ่ายมากขึ้น ควรหยุดทันที เพราะผลไม้เหล่านี้อาจกระตุ้นลำไส้ให้ทำงานหนักขึ้นและเพิ่มความระคายเคืองได้ อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีเปลือกแข็งหรือใยอาหารยากต่อการย่อย เช่น แอปเปิ้ลสดที่ยังมีเปลือก เพราะอาจทำให้ลำไส้ระคายเคืองและถ่ายเหลวมากขึ้น นอกจากนี้ อย่าลืมดื่มน้ำเปล่าและพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น สุดท้ายแล้ว ถ้าอาการท้องเสียไม่ดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรง เช่น มีไข้สูง ปวดท้องมาก หรือถ่ายเป็นเลือด ควรรีบปรึกษาแพทย์ให้เร็วที่สุดนะคะ
การเลือกกินผลไม้ช่วงท้องเสียไม่ใช่แค่เรื่องของความอยาก แต่คือเรื่องของความเข้าใจร่างกาย ยิ่งรู้ว่าร่างกายต้องการอะไร และอะไรควรหลีกเลี่ยง ก็ยิ่งฟื้นตัวได้ไวขึ้น อย่าลืมดูแลตัวเองให้ครบทั้งเรื่องอาหาร น้ำดื่ม และการพักผ่อน แล้วร่างกายจะค่อยๆ กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมแน่นอนค่ะ
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ