X

ปัสสาวะมีกลิ่นยูเรียเป็นยังไง ? เกิดจากอะไร มาทำความรู้จักกัน !

เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡

ปัสสาวะมีกลิ่นยูเรียเป็นยังไง ? เกิดจากอะไร มาทำความรู้จักกัน !

ปกติแล้วปัสสาวะของคนเรามักไม่มีกลิ่นแรงหรือฉุน แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นและสีของฉี่ได้ เช่น มีกลิ่นฉุนของแอมโมเนีย หรือที่เรียกกันว่า ปัสสาวะมีกลิ่นยูเรีย ซึ่งการที่มีกลิ่นที่แปลกไปจากปกตินั้น อาจบ่งบอกถึงภาวะสุขภาพ การกินอาหาร และไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลได้ สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลต่อกลิ่นของปัสสาวะได้เช่นกัน และปัสสาวะมีกลิ่นฉุนเกิดจากสารประกอบใดบ้าง และสาเหตุเกิดจากอะไร เราจะมาพาทุกคนไปรู้จักกับเรื่องของปัสสาวะกันค่ะ

ปัสสาวะมีกลิ่นยูเรีย กลิ่นเป็นแบบไหน ? มารู้จักพร้อมวิธีแก้ไขกัน

ปัสสาวะมีกลิ่นยูเรีย, ปัสสาวะมีกลิ่นฉุนเกิดจากสารประกอบใด

ปัสสาวะคือของเสียที่เป็นของเหลวของร่างกาย ถูกสร้างขึ้นโดยไตซึ่งกรองสารพิษออกจากเลือด ประกอบด้วยน้ำ เกลือ ยูเรีย และกรดยูริก ยูเรียจะถูกขับออกในรูปของเหงื่อทั่วร่างกาย ในขณะที่กรดยูริกเป็นผลมาจากการเผาผลาญของปัสสาวะ และปัสสาวะของเราอาจแตกต่างกันไปตามสีและกลิ่น ขึ้นอยู่กับปริมาณของเสียและของเหลวที่คุณรับเข้าไปตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตาม มีกลิ่นที่ไม่ปกติบางอย่างที่อาจบ่งบอกว่าคุณจำเป็นต้องไปพบแพทย์ เช่น กลิ่นปัสสาวะที่หอมหวาน อาจบ่งบอกถึงมีน้ำตาลในเลือดที่มากเกินไปในปัสสาวะ หรืออีกประการหนึ่งปัสสาวะมีกลิ่นยูเรีย ซึ่งกลิ่นยูเรียนั้นจะมีความฉุนเหมือนกลิ่นแอมโมเนีย และมีกลิ่นแรงคล้ายสารเคมี แม้ว่าปัสสาวะที่มีกลิ่นเหมือนแอมโมเนียจะไม่ได้ทำให้เกิดความกังวลเสมอไป แต่ก็มีบางกรณีที่อาจเป็นสาเหตุได้ เช่น อาหารบางชนิด ภาวะขาดน้ำ และการติดเชื้อ ก็เป็นไปได้เช่นกัน

เกร็ดสุขภาพ : ปัสสาวะเบาหวานมีกลิ่นอย่างไร ? สัญญาณเตือนอย่างหนึ่งของโรคเบาหวานหรือน้ำตาลในเลือดสูงคือ ปัสสาวะที่มีกลิ่นหวานหรือกลิ่นผลไม้ ความหวานมาจากน้ำตาลในปัสสาวะและเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายของคุณกำลังพยายามกำจัดน้ำตาลส่วนเกินในเลือด จึงทำให้กลิ่นปัสสาวะของคุณต่างจากปกติ

  • ปัสสาวะมีกลิ่นฉุนเกิดจากสารประกอบใด และเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง
ปัสสาวะมีกลิ่นยูเรีย, ปัสสาวะมีกลิ่นฉุนเกิดจากสารประกอบใด

ของเสียในปัสสาวะมักมีกลิ่น แต่ปัสสาวะของคนปกติมักจะเจือจางจนกลิ่นไม่มี แต่หากปัสสาวะมีความเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งหมายความว่ามีของเสียที่เกี่ยวข้องกับของเหลวมากขึ้น ปัสสาวะของคุณจะมีกลิ่นคล้ายแอมโมเนีย หรือปัสสาวะมีกลิ่นยูเรียนั่นเอง ซึ่งสาเหตุของปัสสาวะมีกลิ่นแอมโมเนียนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่ก่อให้เกิดการตื่นตระหนกแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตาม มีบางครั้งที่ปัสสาวะมีกลิ่นแอมโมเนียอาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพได้ มาดูกันว่ามีสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้ปัสสาวะของคุณมีกลิ่นยูเรีย

  1. การคายน้ำ

ภาวะขาดน้ำอาจทำให้เกิดกลิ่นแอมโมเนียได้ และเกิดจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอหรือมีการสูญเสียน้ำเนื่องจากการอาเจียนหรือท้องร่วง เมื่อสารเคมีในปัสสาวะเข้มข้นเนื่องจากขาดน้ำ ก็จะทำให้ปัสสาวะมีกลิ่นยูเรียได้

  1. การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่พบบ่อยที่สุดทั่วโลก และมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิงมากกว่า แต่ก็เกิดขึ้นได้ในผู้ชายและเด็กผู้ชายเช่นกัน การติดเชื้อเหล่านี้เป็นผลมาจากแบคทีเรียเข้าสู่ทางเดินปัสสาวะ และแบคทีเรียจะทำให้ปัสสาวะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ มีความขุ่นหรือเป็นเลือดได้

  1. การตั้งครรภ์

สตรีมีครรภ์มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ซึ่งเพิ่มโอกาสในการมีปัสสาวะมีกลิ่นยูเรีย นอกจากนี้การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ที่ร้ายแรง รวมถึงการคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักทารกแรกเกิดต่ำ และการติดเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย ดังนั้น สตรีมีครรภ์ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากพบว่าปัสสาวะของคุณมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกลิ่นนั้นคล้ายกับแอมโมเนีย

  1. อาหาร

การกินอาหารเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ของปัสสาวะที่มีกลิ่นในทุกคน เพราะอาหาร ยารักษาโรค และวิตามินบางชนิดอาจทำให้กลิ่นและสีของปัสสาวะเปลี่ยนแปลงได้ อย่างเช่น หน่อไม้ฝรั่งมักเชื่อมโยงกับกลิ่นแอมโมเนีย เช่นเดียวกับวิตามิน B-6 รวมถึง อาหารที่มีโปรตีนสูงก็สามารถเพิ่มคุณสมบัติที่เป็นกรดของปัสสาวะและทำให้มีกลิ่นยูเรียได้เช่นกัน

  1. โรคไตและโรคตับ

โรคไตและโรคตับทำให้สารเคมีในปัสสาวะเข้มข้นและทำให้มีกลิ่นคล้ายแอมโมเนียได้ ความผิดปกติของไตยังสามารถทำให้เกิดแบคทีเรียและระดับโปรตีนในปัสสาวะสูง จึงทำให้มีกลิ่นยูเรียที่ฉุน ในขณะที่ตับมีหน้าที่ในการขับสารพิษออกจากร่างกายและช่วยย่อยอาหาร การติดเชื้อและโรคของตับสามารถผลิตแอมโมเนียในระดับสูงในปัสสาวะและมีกลิ่นฉุนตามมา

เกร็ดสุขภาพ : ปัสสาวะของบางคนทำไมมีกลิ่นเน่า ? อาหารที่กินเข้าไปและเปลี่ยนเป็นสารประกอบกำมะถันในร่างกายของคุณ สามารถทำให้ปัสสาวะของคุณมีกลิ่นเน่าได้ กลิ่นนี้มักถูกนำมาเปรียบเทียบกับกะหล่ำปลีเน่าหรือไข่เน่า ซึ่งอาจเกิดจากการกินหน่อไม้ฝรั่ง กระเทียม และหัวหอม ซึ่งเป็นผักที่มีกลิ่นฉุนได้เช่นกัน

  • หากปัสสาวะมีกลิ่นยูเรียควรทำอย่างไร ?
ปัสสาวะ มีกลิ่นยูเรีย, ปัสสาวะมีกลิ่นฉุนเกิดจากสารประกอบใด

การที่ปัสสาวะมีกลิ่นคล้ายแอมโมเนีย หรือมีกลิ่นยูเรียนั้น มักไม่ก่อให้เกิดความกังวล แต่หากอาการของคุณมีอาการปวดหรืออาการติดเชื้อร่วมด้วย เช่น มีไข้ คุณควรไปพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจหาและวินิจฉัยสาเหตุของปัสสาวะมีกลิ่นยูเรียได้ต่อไป นอกจากนี้ยังสามารถแก้ได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้ค่ะ

  1. ดื่มน้ำให้มากขึ้น

การดื่มน้ำ 6-8 แก้วทุกวันสามารถลดโอกาสของภาวะขาดน้ำได้ หากคุณมีปัสสาวะสีเข้มและมีกลิ่นยูเรีย ควรเริ่มดื่มน้ำปริมาณมากเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ขาดน้ำ และควรหลีกเลี่ยงสาเหตุทั่วไปของภาวะขาดน้ำ เช่น ความร้อนและเหงื่อออก

  1. ปัสสาวะบ่อยๆ

คนส่วนใหญ่ปัสสาวะเมื่อกระเพาะปัสสาวะเต็ม แต่ปัสสาวะที่กักเก็บไว้อาจมีความเข้มข้นมากขึ้นและมีกลิ่นเหม็นได้ เช่น คนที่มีปัญหาปัสสาวะเล็ด ชายหรือหญิงก็ตาม มักมีปัสสาวะมากเกินไปในกระเพาะอาหาร เพราะฉะนั้น ควรปัสสาวะบ่อยๆ เพราะการไม่กลั้นปัสสาวะจะช่วยลดกลิ่นยูเรียและการติดเชื้อได้

  1. รักษาความสะอาด

สุขอนามัยส่วนบุคคลของบริเวณอวัยวะเพศมีความสำคัญเมื่อมีกลิ่นแอมโมเนียที่มีกลิ่นแรง สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าอวัยวะเพศของคุณได้รับการทำความสะอาดอย่างดีในระหว่างการอาบน้ำและถูกทำให้แห้งสนิท เพราะจะสามารถลดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการติดเชื้อและปัสสาวะที่มีกลิ่นยูเรียได้นั่นเองค่ะ

หลังจากที่เราได้รู้กันแล้วว่าปัสสาวะมีกลิ่นฉุนเกิดจากสารประกอบใด และเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง ในกรณีส่วนใหญ่ กลิ่นปัสสาวะรุนแรง หรือปัสสาวะมีกลิ่นยูเรียเกิดจากอาหารที่กิน ไลฟ์สไตล์ หรือเป็นสัญญาณว่าคุณต้องการของเหลวมากขึ้น ก็จะไม่ได้อันตรายแต่อย่างใด แต่หากคุณรู้สึกไม่สบาย หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมกับปัสสาวะที่มีกลิ่นเหม็น ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย เพราะการรักษากลิ่นปัสสาวะผิดปกตินั้นจะขึ้นอยู่กับสาเหตุ นอกจากนี้แล้วไม่ควรกลั้นปัสสาวะแต่ควรขับออกจากร่างกายในทันที หากใครมีอาการบวมน้ำหรือปัสสาวะไม่ออก แนะนำสมุนไพรลดอาการบวมน้ำเลยค่ะ

อ้างอิงแหล่งที่มาบางส่วนจาก : medicalnewstoday.com, health.clevelandclinic.org, webmd.com

ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ

ติดต่อโฆษณา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้การวิเคราะห์

    เราขออนุญาติใช้คุกกี้นี้เก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดีขึ้นให้กับคุณ

Save