X

วาบิซาบิ คืออะไร ? ทำความรู้จักความสวยงามในความไม่สมบูรณ์แบบกัน !

เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡

วาบิซาบิ คืออะไร ? ทำความรู้จักความสวยงามในความไม่สมบูรณ์แบบกัน !

สำหรับหลายๆ คนแล้ว ความสมบูรณ์แบบ การไร้ตำหนิ ความคงกระพัน คือความสวยงามที่เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง เป็นความงดงามที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป แต่มีวิถีความงดงามอีกรูปแบบที่แตกต่างจากคำว่าสมบูรณ์แบบอย่างสิ้นเชิง นั่นคือ วาบิซาบิ วิถีความงดงามที่ยอมรับซึ่งความไม่สมบูรณ์แบบ การมีตำหนิ และการเสื่อมสภาพตามกาลเวลา ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากพาทุกคนไปทำความเข้าใจว่า วาบิซาบิ คืออะไร มีที่มาอย่างไร และมีการนำมาประยุกต์ใช้กับอะไรบ้าง

วาบิซาบิ เพราะความไม่สมบูรณ์คือความสวยงาม

  • วาบิซาบิ คืออะไร
วาบิซาบิ คือ, wabisabi คือ

วิถีวาบิซาบิ ถือว่าเป็นหลักปรัชญาที่อยู่คู่กับชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน โดยที่คำว่า wabi หมายถึง ความไม่สมบูรณ์แบบ ส่วนคำว่า sabi หมายถึง การเสื่อมสภาพตามกาลเวลา ดังนั้น คำว่า wabisabi คือการทำความเข้าใจและยอมรับ ในความไม่สมบูรณ์ตามธรรมชาติ การเสื่อมสภาพตามกาลเวลา ความเรียบง่าย ความสมถะ เช่น ร่องรอยบนไม้ ริ้วรอยบนในหน้า โดยที่จุดกำเนิดของวาบิซาบินั้นเริ่มมาจากพิธีชงชา เมื่อประมาณศตวรรษที่ 15 ซึ่งในสมัยนั้นคนญี่ปุ่นโดยเฉพาะเหล่าราชวงศ์และผู้มีตำแหน่งสูงได้มีการรับวัฒนธรรมการดื่มชามาจากประเทศจีน และมีทุกๆ ครั้ง มักจะตกแต่งจัดงานแบบหรูหราและถ้วยชาราคาแพง แต่ได้มีพระในนิกายเซ็นท่านหนึ่งที่มีชื่อว่า ท่านจูโค ได้นำเสนอให้พิธีชงชานั้น จัดขึ้นแบบเรียบง่าย ถ้วยชาที่ปั้นจากดินทั่วไป เพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติให้มากขึ้นเกร็ดสุขภาพ : หลักปรัชญา วาบิซาบิ คือสิ่งที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นมาอย่างช้านานควบคู่กับ อิคิไก คือหลักปรัชญาที่ว่าด้วยเรื่องของการให้คุณค่า ความหมาย และจุดมุ่งหมายในชีวิตของตัวเอง

  • หลักสำคัญของวาบิซาบิ คืออะไร
วาบิซาบิ คือ, wabisabi คือ

จริงๆ แล้ว วาบิซาบิ คือความสวยงามของความไม่สมบูรณ์แบบ ซึ่งอาจฟังดูจับต้องไม่ได้ จึงได้มีการจัดคุณสมบัติขึ้น เพื่อให้วิถีวาบิซาบินั้น เป็นรูปธรรมมากขึ้น

  1. ความเป็นธรรมชาติ

คือการยอมรับในสภาพต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ เช่น การเกิดสนิม การเกิดรอยแตกของไม้

  1. การเปลี่ยนแปลง

คือการที่ปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลงไปจากมาตรฐานเดิมๆ หรือ การปรับปรุงสิ่งเดิมให้แตกต่างออกไป จนเกิดเป็นความสวยงาม ไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม

  1. ความเรียบง่าย

คือเผยให้เห็นส่วนประกอบตามธรรมชาติ การแสดงความเป็นไปของธรรมชาติอย่างตรงไปตรงมาโดยการลดทอนส่วนประกอบที่ไม่จำเป็นออกไป

  1. ความหม่นหมอง

คือมีลักษณะสีที่ไม่ฉูดฉาด มักจะใช้สีที่หม่น หรือสีที่มีความซีด เช่น สีเขียวหม่น สีน้ำตาล

  1. ความสันโดษ

คือความรักสงบ มักอยู่ในที่ที่ลับตาคน หรือที่ที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว เช่น ดอกไม้ป่าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ

  1. ความไม่โอ้อวด

คือการถ่อมตัว ความสงบเงียบ ไม่จำเป็นต้องมีการเก็บรักษาอย่างดีในพิพิธภัณฑ์ หรือการแปะป้ายราคาที่สูงลิ่ว

  1. การเห็นถึงแก่นแท้

คือการที่ใช้วัสดุที่เรายังสามารถเห็นถึงเนื้อแท้ของมันได้ ถึงแม้ว่ามันอาจจะดูไม่ปราณีตและดูหยาบ

เกร็ดสุขภาพ : ในเมื่อ wabisabi คือความงามที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งแน่นอนว่าต้องตรงข้ามกับ modernism ที่มุ่งเน้นไปยังความงดงามที่ไร้ที่ติ ความสมดุล การมีองค์ประกอบของรูปร่างที่ชัดเจน และมักจะมีของที่มีความคล้ายกันในจำนวนมาก ดังนั้น วาบิซาบิจึงคำนึงถึงความโดดเด่นตามธรรมชาติของวัตถุชิ้นนั้นๆ แต่กลับกัน modernism มักจะคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก

  • การนำวาบิซาบิมาประยุกต์ใช้
วาบิซาบิ คือ, wabisabi คือ

แน่นอนว่าวิถีวาบิซาบิ คือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับหลายๆ เรื่อง ไม่เพียงแต่สิ่งของ แต่ยังสามารถนำในไปประยุกต์ใช้เพื่อเป็นปรัชญาต่างๆในชีวิตได้อีกด้วย

  1. ใช้ในการตกแต่งบ้าน

ถือว่ากำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ ที่ตกแต่งบ้านโดยใช้วาบิซาบิ คือสิ่งที่มาเป็นธีมหลัก โดยการตกแต่งบ้านนั้นจะเน้นการใช้วัสดุจากธรรมชาติ ใช้สีที่มีโทนหม่นๆ เช่น สีน้ำตาล สีน้ำเงินหม่น สีเขียวหม่น มีความเรียบง่าย ไม่เน้นตกแต่งให้ดูหรูหรา และไม่ดูเยอะจนเกินไป เน้นความสวยงามที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ เช่น ใช้ของเก่า ของที่มีรอยแตกร้าว นำมาตกแต่งบ้าน

  1. ใช้ในการดำเนินชีวิต

แน่นอนว่าไม่เพียงแต่ศิลปะเท่านั้น วาบิซาบิยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย เพราะเนื่องจากแก่นหลักของวาบิซาบิ คือความไม่สมบูรณ์ ซึ่งมาสามารถนำมาปรับใช้ได้ คือ การยอมรับและเข้าในด้านต่างๆของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นด้านที่ดีหรือไม่ดี การที่เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นๆ ในสิ่งที่ไม่จำเป็น การเลิกตามหาความสมบูรณ์แบบที่ไม่มีอยู่จริงและหันมาตั้งใจกับเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต ความสงบนิ่ง ความสมถะ การเลิกโทษตัวเอง หรือแม้กระทั่งนำมาจัดการกับอารมณ์ด้านลบของเรา เช่น รู้สึกอยากหายเศร้าเมื่อเรารู้สึกไม่ดี รู้สึกเสียใจและอยากรู้ถึงวิธีการมูฟออน ให้คิดว่าทุกสิ่งล้วนมีวันหายไปตามกาลเวลา ไม่มีอะไรที่ยั่งยืน สิ่งที่กล่าวมานี้ล้วนนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันของเราได้ทั้งสิ้นจะเห็นได้ว่า wabisabi คือสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวของเรามากๆ คือสิ่งที่เป็นธรรมชาติและเป็นสัจธรรมของโลกใบนี้ สามารถใช้ในการตกแต่งบ้านเพื่อทำให้บ้านดูสงบและน่าอยู่มากยิ่งขึ้น และยังสามารถนำมาใช้ในการปรับ mindset อีกด้วย และถ้าหากสงสัยว่า mindset คืออะไร มันคือกระบวนการคิดที่สามารถขับเคลื่อนตัวเราได้ อย่างเช่น ถ้าเรารู้สึกว่า ทำไมบางครั้งบางวัน เราถึงได้ทำแต่เรื่องที่ผิดพลาด  ให้คิดเอาไว้เสมอว่า ไม่มีอะไรบนโลกที่สมบูรณ์ไปทุกอย่าง และอย่างน้อย ทุกความผิดพลาดก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เราก้าวหน้าต่อไปได้

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : yatzer.com, japanology.org

ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ

ติดต่อโฆษณา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้การวิเคราะห์

    เราขออนุญาติใช้คุกกี้นี้เก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดีขึ้นให้กับคุณ

Save