“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
CIPA คือ อะไร ? เป็นไปได้จริงหรือ ชวนรู้จักโรคไม่รู้สึกเจ็บปวด จะเป็นยังไงถ้าไม่เคยรู้สึกเจ็บเลยตลอดชีวิต !?
ความรู้สึกเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับร่างกายนั้น เป็นกลไกป้องกันตัวอย่างหนึ่งของมนุษย์เพื่อที่จะเอาชีวิตรอดจากสิ่งคุกคามได้ เพราะเมื่อเรารู้สึกเจ็บ ร่างกายก็จะเกิดการเรียนรู้และจดจำว่าสิ่งนี้เป็นภัยแก่เรา เราก็จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์นั้นๆ เป็นสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของมนุษย์นั่นเองค่ะ แต่ถ้าเราไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย จะเป็นอย่างไร ? มีโรคที่ชื่อว่า Congenital Insensitivity to Pain with Anhidrosis หรือ CIPA คือ โรคที่ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดเลย และเป็นมาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งพบได้น้อยมากๆ บางคนอาจจะคิดว่าเป็นข้อดี แต่ความจริงแล้ว มีอันตรายต่อชีวิตมากกว่าที่คิด มารู้จักโรคนี้ให้มากขึ้นกันค่ะ
CIPA คือ อะไร ? โรคไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด มีจริงหรือ ? มารู้จักให้มากขึ้นกัน
ถ้าใครเคยดูซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง A Girl Who Sees Smells หรือ Doctor John ก็อาจจะคุ้นเคยกับโรค CIPA หรือโรคไม่รู้สึกเจ็บปวดกันมาบ้าง ซึ่งพระเอกของเรื่องนั้นมีภาวะไร้ความรู้สึกเจ็บปวด ทั้งยังไม่รู้สึกร้อนหรือหนาว แล้วก็ไม่มีเหงื่อออกด้วย ไม่ว่าอากาศจะร้อนแค่ไหนก็ตาม ฟังดูแล้วเหมือนจะดีใช่มั้ยคะ แต่ความจริงแล้วอันตรายมากๆ ค่ะ เพราะส่วนใหญ่แล้วโรคนี้จะเป็นตั้งแต่กำเนิด ลองนึกภาพดูว่า ในวัยที่เด็กๆ กำลังเล่นซน ถ้าเอามือไปจับของมีคมแล้วไม่รู้สึกเจ็บ ก็จะจับอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเลือดออกได้ หรือเอามือหยิบจับของร้อนโดยที่ไม่รู้สึกอะไรเลยจนกระทั่งเป็นแผลพุพอง หรือเอามือจุ่มน้ำร้อนจนโดนน้ำร้อนลวกก็ไม่รู้สึกอะไร หรืออาจเล่นซนจนเกิดอุบัติเหตุกระดูกแตกหัก แต่ไม่รู้สึกเจ็บก็เลยไม่แสดงอาการ รู้ตัวอีกทีก็กระดูกผิดรูปไปแล้ว หรือเอามือขยี้ตาจนกระจกตาอักเสบโดยไม่รู้สึกปวด ซึ่งอาจจะมีอาการสาหัสในภายหลังจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ หรือถ้าไม่สบาย ตัวร้อน มีภาวะติดเชื้อ ไส้ติ่งแตก ก็ไม่สามารถรู้ได้เลยจนกระทั่งเสียชีวิต โดยปกติแล้วผู้ที่เป็นโรคนี้จะเสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็กเนื่องจากบาดเจ็บหรือป่วยไข้ไม่รู้ตัว
สาเหตุของการเกิดโรค CIPA คืออะไร ?
สาเหตุของการเกิดโรค CIPA คือ เป็นผลมาจากพันธุกรรม อันเกิดจากการกลายพันธ์ุของยีน หรือยีนไม่สามารถพัฒนาได้เต็มที่ โดยยีนตัวนี้มีชื่อว่า NTRK1 ทำหน้าที่รับส่งกระแสประสาทไปยังสมองของเรา แล้วถูกประมวลผลออกมาเป็นความรู้สึกเจ็บปวด แต่เมื่อเกิดการกลายพันธ์ุหรือมีความบกพร่องจึงทำให้ร่างกายไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกเจ็บปวดได้นั่นเองค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : บนโลกนี้ พบผู้ที่ช่วยเป็นโรคไม่รู้สึกเจ็บปวดหรือ CIPA เพียง 34 คน จาก 300 ล้านคน ถือว่าน้อยแล้วก็หายากมากๆ และหนึ่งในผู้ป่วยโรคนี้ที่ทำให้โรค CIPA เป็นที่รู้จักมากขึ้นคือ ไอแซค บราวน์ เด็กชายจากรัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเกิดมาพร้อมกับโรคที่ไม่รู้สึกเจ็บปวดนี้ โดยคนในครอบครัวบอกว่า ไอแซคเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง ทั้งตกจากที่สูง เอามือวางบนเตาร้อนๆ แต่ก็ไม่รู้สึกเจ็บ ทั้งยังเคยเอาเศษแก้วมาบาดเนื้อตัวเองเล่นด้วย จึงทำให้มีการศึกษาเกี่ยวกับโรคนี้มากขึ้น
อาการของโรค CIPA คืออะไร ?
ผู้ป่วยที่เป็นโรคไม่รู้สึกเจ็บปวดนี้ มีการรับรู้ทางประสาทสัมผัสปกติ และมีความรู้สึกทั่วไป และสามารถรู้สึกได้ว่าถูกจับ ถูกสัมผัส เพียงแต่ว่าไม่รับรู้ถึงความรู้สึกเจ็บหรือปวด และไม่สามารถรับรู้ถึงความเย็น – ความร้อนได้ ทั้งนี้ ไม่ปรากฎความพิการทางกายอื่นๆ แต่อย่างใด ซึ่งผู้ป่วยจะมีภาวะไม่ไวต่อความเจ็บปวด หรือ Insensitivity to pain กล่าวคือ จะไม่สามารถรับรู้ถึงสิ่งเร้าที่ทำให้เจ็บได้ และไม่สามารถบอกระดับความเจ็บปวด หรือรูปแบบความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นได้
นอกจากนี้ อีกหนึ่งอาการสำคัญของโรค CIPA คือ ผู้ป่วยไม่สามารถขับเหงื่อออกจากร่างกายได้ เรียกง่ายๆ ว่าไม่มีเหงื่อออกเลย ซึ่งจะทำให้ร่างกายควบคุมอุณภูมิได้ยากขึ้นเพราะไม่สามารถระบายความร้อนได้ และอาจนำไปสู่ความเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับอากาศ เช่น โรคลมแดด หรืออ่อนเพลียจากความร้อนในร่างกายที่มากเกินไป ทั้งร่างกายของผู้ป่วยเองก็ไม่สามารถรู้สึกได้ด้วยว่าร้อนหรือไม่ จึงอันตรายมากๆ เลยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : ผู้ที่ป่วยเป็นโรค CIPA มักเจ็บป่วยด้วยภาวะเรื้อรังต่างๆ เช่น มีแผลหายช้าจากการบาดเจ็บที่ผิวหนังและกระดูก มีการติดเชื้อในกระดูกเรื้อรัง มีอาการชักเนื่องจากไข้สูง ฟันผุ มีปัญหาเกี่ยวกับการเกิดแผลในช่องปาก ลิ้นแตก ร้อนในเพราะเผลอกัดลิ้น กัดปาก กัดเหงือกแล้วไม่รู้สึกเจ็บ รวมถึงบาดเจ็บฟกช้ำบ่อยๆ เป็นต้น
โรค CIPA รักษาได้หรือไม่ ? ผู้ป่วยควรมีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไร ?
น่าเสียดายที่โรค CIPA คือโรคที่ไม่สามารถรักษาได้ เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติทางยีนและพันธุกรรม ในพ่อแม่ที่มียีนผิดปกติ ก็มีโอกาสที่จะถ่ายทอดยีนนี้ต่อไปยังรุ่นลูก ดังนั้น การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานหรือวางแผนการมีครอบครัวก่อนตัดสินใจมีบุตร ก็จะช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคนี้ยังรุ่นลูกรุ่นหลานได้
ทั้งนี้ การดูแลรักษาผู้ป่วย CIPA เป็นการดูแลรักษาแบบประคับประคอง ซึ่งผู้ป่วยจะต้องดูแลใส่ใจสุขภาพของตัวเองเป็นอย่างมาก และป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อหรือป่วยไข้ ในบางรายอาจจะต้องมีปรอทวัดไข้ (อ่านเพิ่มเติม วิธีวัดไข้ด้วยปรอท) อุปกรณ์วัดความดันโลหิตที่บ้านเพื่อตรวจเช็กร่างกายของตัวเองเป็นประจำทุกวัน หรือไปหาหมอประจำตัวเพื่อตรวจสุขภาพบ่อยๆ ก็จะเป็นการสังเกตร่างกายของตนเองและป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมถึงการระมัดระวังตัวเองไม่ให้บาดเจ็บหรือเกิดอุบัติเหตุ หากมีอาการบาดเจ็บหรือเกิดบาดแผลใดๆ ควรไปพบแพทย์โดยเร็ว ด้วยความที่ไม่รู้สึกเจ็บจึงไม่สามารถตรวจเช็กด้วยตนเองได้ว่ารุนแรงแค่ไหน หากปล่อยทิ้งไว้อาจกลายเป็นแผลติดเชื้อลุกลามจนทำให้แผลเน่า ถึงขั้นต้องสูญเสียอวัยวะนั้นๆ ได้เลยทีเดียว
และนอกจากนี้ ด้วยความที่ร่างกายไม่สามารถระบายเหงื่อหรือระบายความร้อนได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการออกแดดหรือการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อากาศร้อน สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ควรสวมเสื้อผ้าสีอ่อน ไม่คับแน่นจนเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูง รวมถึงการอยู่ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศหรือมีอุณหภูมิที่เหมาะสม ก็จะช่วยป้องกันการเป็นลมแดดหรือเจ็บป่วยเพราะความร้อนได้
แม้ว่าโรค CIPA จะพบได้น้อย แต่ก็เป็นโรคที่มีความอันตรายแก่ชีวิตมากเลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาได้ ดังนั้น ผู้ป่วยที่เป้นโรคนี้ต้องดูแลตัวเองมากๆ และหมั่นสังเกตร่างกายตัวเองบ่อยๆ เพื่อให้ปลอดภัยจากภาวะเจ็บป่วยต่างๆ แม้ว่าความเจ็บปวดจะเป็นสิ่งที่มนุษย์เราอยากหลีกเลี่ยง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความเจ็บปวดเป็นคุณสมบัติที่ทำให้มนุษย์มีชีวิตรอดจากอันตรายต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ในผู้ที่ไม่รู้สึกเจ็บปวดนั้น อาจเหมือนสูญเสียระบบป้องกันภัยในชีวิตไป หากไม่ทำความเข้าใจกับโรคที่เป็นและดูแลตัวเองดีๆ ก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียวค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : webmd.com, verywellhealth.com, medlineplus.gov
Featured Image Credit : freepik.com/pressfoto
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ