“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
หินปูนในฟัน เกิดจากอะไร ? เราสามารถกำจัดหินปูนด้วยตัวเองได้หรือเปล่า ?
สุขภาพช่องปากและฟันมีความสำคัญพอๆ กับสุขภาพกาย ซึ่งเราต้องดูแลรักษาความสะอาดเป็นอย่างดีและมีสุขอนามัยที่ดี อย่างน้อยก็ด้วยการแปรงฟันเป็นประจำทุกเช้าเย็นหรือทุกมื้อหลังอาหาร และไปพบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือนเพื่อตรวจเช็กสุขภาพช่องปากและ ขูดหินปูนในฟัน ซึ่งการขูดหินปูนนั้น จะช่วยให้ฟันของเราสะอาดมากขึ้น หลายๆ คนอาจจะเกิดความสงสัยว่า หินปูนที่เกาะตามฟันนั้นเกิดจากอะไร อันตรายไหม ? จำเป็นที่จะต้องไปขูดหินปูนเป็นประจำหรือเปล่า เราสามารถขูดหินปูนด้วยตัวเองได้ไหม มาดูกันเลยค่ะ
หินปูนในฟัน คืออะไร ?
คราบหินปูนตามฟันเป็นอีกหนึ่งปัญหาน่าหนักใจของใครหลายๆ คนเพราะส่งผลต่อบุคลิกภาพทำให้ไม่กล้ายิ้มหรือไม่กล้าพูดคุยกับคนอื่นๆ คราบหินปูนที่เกาะตามฟันนั้นเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดกลิ่นปากและทำให้ฟันกลายเป็นสีเหลือง ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นใจของใครหลายๆ คน ทั้งนี้ หินปูนในฟันยังทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพช่องปากอื่นๆ ตามมาอีกด้วย
คราบหินปูนตามฟันนั้น เกิดจากคราบจุลินทรีย์หรือเศษอาหารที่หลงเหลืออยู่ในช่องปาก และเมื่อมีการสะสมไปเรื่อยๆ ก็จะกลายเป็นคราบเหนียวที่เกาะติดอยู่ตามผิวฟัน ซอกเหงือก และขอบฟัน เรียกว่าคราบพลัค (Plaque) และแบคทีเรียในคราบพลัคนี่เองจะทำการผลิตกรดออกมาทำลายชั้นเคลือบฟันจนทำให้เกิดหินปูนตามบริเวณเหนือร่องเหงือกและใต้เหงือก โดยหินปูนในฟันจะมีสีเหลือง สีน้ำตาล ไปจนถึงสีดำ หากปล่อยไว้นานไม่กำจัดออกไป หินปูนก็จะยิ่งแข็งขึ้นและก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพเหงือกและฟันตามมาได้
ทำไมถึงเกิดคราบหินปูตามฟัน ?
แม้เราจะรักษาความสะอาดช่องปากเป็นอย่างดีด้วยการแปรงฟันเป็นประจำวันวันละ 2 ครั้ง ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดคราบหินปูนได้ เพราะแบคทีเรียในช่องปากถูกกำจัดออกไปไม่หมด และอาหารที่เรากินเข้าไปทุกวันนั้นก็มีส่วนที่ทำให้เกิดคราบหินปูน โดยเฉพาะอาหารที่มีส่วนผสมของแป้งและน้ำตาลซึ่งเป็นอาหารของแบคทีเรีย หากกำจัดเศษอาหารออกไปไม่หมดก็จะทำให้เกิดแบคทีเรียและจุลินทรีย์ต่างๆ เมื่อเวลาผ่านไปก็จะเกิดการตกตะกอนของแร่ธาตุน้ำลายและเศษอาหารจนกลายเป็นคราบแข็งคล้ายหินปูน และเกิดเป็นหินปูนในฟันขึ้นมานั่นเอง
หินปูนในฟัน อันตรายมั้ย ?
หินปูนที่เกิดขึ้นนั้นก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพช่องปากหลายอย่างด้วยกัน ดังนี้
1. ทำให้เกิดฟันเหลือง
หินปูนที่เกาะอยู่ตามฟันนั้น เมื่อปล่อยทิ้งไว้นานๆ โดยไม่กำจัดออกไปจะกลายเป็นของแข็งสีเหลืองเกาะอยู่บนผิวฟัน ซอกเหงือก ซอกฟัน และขอบฟัน ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานๆ คราบสีเหลืองที่เกิดขึ้นอาจจะกลายเป็นคราบแข็งสีน้ำตาลหรือสีดำที่เกาะแน่นอยู่ตามฟันและซอกฟัน ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนและทำให้หลายๆ คนรู้สึกไม่มั่นใจได้
2. ทำให้เกิดกลิ่นปาก
หินปูนในฟันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ อันเนื่องมาจากการสะสมของคราบแบคทีเรียภายในช่องปากที่ทำความสะอาดได้ไม่หมดจด ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานๆ จะทำให้มีบุคลิกภาพที่ไม่ดี และทำให้สูญเสียความมั่นใจเวลาพูดคุยกับคนอื่นได้ และอาจทำให้คนอื่นไม่อยากสนทนาด้วย
3. ทำให้เหงือกอักเสบ
หินปูนและคราบอาหารในช่องปากทำให้เหงือกบวมหรือเกิดเหงือกอักเสบได้ และอาจทำให้เกิดโรคปริทันต์อักเสบได้ด้วย เพราะเชื้อจุลินทรีย์บางชนิดที่อยู่ในหินปูนนั้นจะปล่อยสารพิษออกมาทำลายเหงือกของเรา ทำให้เหงือกอักเสบ และถ้าไม่ได้รับการรักษาโดยเร็วอาจทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง ส่งผลให้กระดูกหุ้มรากฟันถูกทำลาย ทำให้ฟันโยก เหงือกบวม เกิดหนอง และฟันหลุดในที่สุด
4. ทำให้เกิดฟันผุ
จุลินทรีย์และแบคทีเรียที่อยู่ตามคราบหินปูนจะหลั่งสารพิษที่ทำลายฟันของเราได้ โดยจะกัดกร่อนผิวเคลือบฟันจนทำให้ฟันผุ ฟันเป็นรู หากปล่อยไว้นาน ไม่ไปอุดฟันหรือไม่รักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ก็อาจทำให้ฟันผุลึกไปจนถึงโพรงประสาทฟัน และอาจถึงขั้นรักษารากฟันได้เลย
5. ทำให้สูญเสียฟัน
คราบหินปูนทำให้เกิดโรคทางสุขภาพช่องปากหลายประการ ทั้งเหงือกบวม เหงือกอักเสบ ทำให้เกิดฟันผุ ซึ่งส่งผลต่อความแข็งแรงของฟันในระยะยาว หากไม่ทำความสะอาดช่องปากเป็นประจำอย่างถูกวิธี และไม่ไปขูดหินปูนตามที่แพทย์นัดทุก 6 เดือน หรือไม่ไปรักษาโรคทางช่องปากตั้งแต่เนิ่นๆ สุดท้ายแล้วอาจจะต้องถอนฟัน หรือทำให้ฟันหลุดร่วงได้เลย
กำจัดคราบหินปูนในฟัน ทำได้อย่างไร ?
การกำจัดคราบหินปูนตามฟันนั้น ทำได้โดยการขูดหินปูนที่คลินิกทันตกรรม โดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการขูดหินปูนออกจากฟันของเราด้วยอุปกรณ์เฉพาะ ซึ่งจะทำการขูดหินปูนออกด้วยคลื่นความถี่สูง เพื่อกำจัดคราบหินปูนที่สะสมฝังลึกอยู่ตามซอกฟันให้หลุดออกไป บางคนอาจจะสงสัยว่า กำจัดหินปูนในปากด้วยตนเองได้หรือไม่ อาจทำได้โดยการใช้ไหมขัดฟันพลังน้ำเพื่อลดการสะสมของคราบพลัค แต่ก็อาจจะกำจัดหินปูนในปากได้ไม่หมดจด ทางที่ดีควรมาพบทันตแพทย์เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญทำการขูดหินปูนให้เราอย่างถูกต้อง และควรมาขูดหินปูนทุกๆ 6 เดือนเพื่อลดการสะสมของคราบหินปูนที่จะทำให้เกิดโรคทางสุขภาพช่องปากได้
ข้อดีของการขูดหินปูน มีอะไรบ้าง ?
- ช่วยขจัดคราบหินปูนที่ทำให้เกิดโรคทางสุขภาพช่องปากต่างๆ เช่น โรคเหงือก โรคปริทันต์อักเสบ รากฟันอักเสบ เป็นต้น
- ลดการเกิดกลิ่นปาก เพื่อการมีบุคลิกภาพที่ดี
- ทำให้ฟันดูสะอาดสะอ้าน ไม่มีคราบเหลืองตามฟัน ยิ้มได้อย่างมั่นใจ
- ช่วยป้องกันการเกิดฟันผุและเหงือกร่น
- ช่วยยืดอายุการใช้งานฟันของเราได้นานขึ้น ทำให้ฟันแข็งแรง
ทั้งนี้ บางคนอาจจะเคยได้ยินมาว่า เราสามารถกำจัดหินปูนในปากด้วยตนเองด้วยการใช้สิ่งต่างๆ เช่น เบกกิ้งโซดา เปลือกส้ม สตรอเบอร์รี่ น้ำส้มสายชู ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ในบางคนที่มีคราบหินปูนหนา การใช้ตัวช่วยต่างๆ อาจทำให้ขจัดคราบหินปูนได้ไม่หมด รวมถึงการสั่งซื้ออุปกรณ์ขูดหินปูนด้วยตัวเองมาจากอินเทอร์เน็ต แต่ถ้าทำโดยไม่ถูกวิธีก็อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อช่องปากของเราได้ การขูดหินปูนอย่างปลอดภัยต้องใช้ความเชี่ยวชาญจากผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมมา การนำของมีคมหรือเครื่องมือที่ไม่เหมาะสมมาขูดหินปูนด้วยตนเองอาจทำให้ฟันและเหงือกของเราเกิดความเสียหายได้ค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : หลายๆ คนเข้าใจผิดไปว่า การขูดหินปูนนั้นจะทำให้ฟันห่างหรือฟันบางลง แต่ความจริงแล้ว การขูดหินปูนเป็นเพียงการใช้คลื่นความถี่เพื่อกะเทาะให้หินปูนแตกออกจากร่องฟันโดยไม่ทำลายเหงือกหรือเนื้อฟัน แต่ที่เห็นว่าหลังจากขูดหินปูนแล้วฟันบางลงหรือฟันห่าง นั่นเป็นเพราะว่ามีหินปูเกาะตัวหนาเป็นเวลานานจนทำลายกระดูกเบ้าฟันและส่งผลทำให้เหงือกร่นตามไปด้วย การขูดหินปูนบ่อยๆ จึงไม่ทำให้เนื้อฟันบางลงแต่อย่างใด
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดคราบหินปูนในฟัน ทำได้อย่างไร
- มาพบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อมาตรวจสุขภาพช่องปากทุกๆ 6 เดือน หรือถ้าใครมีโรคทางสุขภาพช่องปาก ควรมาพบทันตแพทย์ทุก 3 – 4 เดือนเพื่อทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง
- แปรงฟันให้สะอาดและแปรงฟันอย่างถูกวิธีเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งหรือหลังอาหารทุกมื้อเพื่อป้องกันฟันผุและลดการสะสมแบคทีเรียในช่องปาก และควรใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุ
- ควรใช้ไหมขัดฟันวันละ 1 ครั้งตามที่ทันตแพทย์แนะนำ เพราะการแปรงฟันเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำความสะอาดถึงซอกฟันได้
- ควบคุมการกินแป้งและน้ำตาล เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญของการสะสมของแบคทีเรียและทำให้เกิดคราบหินปูน
- งดการสูบุหรี่ เพราะบุหรี่มีส่วนประกอบของสารเคมีบางชนิดที่ทำให้แบคทีเรียในช่องปากเจริญเติบโตได้ดี
เกร็ดสุขภาพ : ในขณะที่ขูดหินปูนนั้น อาจทำให้เกิดความรู้สึกเสียวฟันหรือมีเลือดซึมบริเวณเหงือก สำหรับบางคนที่มีหินปูนจำนวนมาก หลังจากขูดหินปูนเสร็จอาจทำให้เหงือกบวมหรือรู้สึกว่าฟันโยกได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อยๆ หายไปเองภายใน 2 – 3 วัน แต่ถ้าอาการยังไม่ทุเลาลงหรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ควรไปพบทันตแพทย์ทันที
คราบหินปูนตามฟัน เกิดจากอะไร ให้โทษอย่างไรบ้าง ก็ได้ทราบกันไปแล้ว ซึ่งเราควรดูแลสุขภาพช่องปากของเราให้สะอาดและแข็งแรงอยู่เสมอด้วยการแปรงฟันเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งหรือหลังมื้ออาหารทุกมื้อ รวมถึงการไปขูดหินปูนทุกๆ 6 เดือนตามที่ทันตแพทย์นัด หากปล่อยให้หินปูนสะสมในช่องปากเป็นเวลานาน ก็อาจส่งผลเสียต่อเหงือกและฟันของเราได้ และสำหรับคำถามที่ว่า เราสามารถกำจัดหินปูนในปากด้วยตนเองได้ไหม ? การไปพบทันตแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญย่อมมีความปลอดภัยมากที่สุดและเป็นวิธีกำจัดหินปูนให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด รวมถึงการดูแลสุขภาพช่องปากตัวเองให้สะอาดถูกสุขอนามัยอยู่เสมอ หินปูนก็จะไม่มากวนใจเราอีกต่อไปค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : smileandcodentalclinic.com, sivaleedental.com, healthline.com, colgate.com, my.clevelandclinic.org
Featured Image Credit : freepik.com/pressfoto
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ