“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ชา ประโยชน์ คืออะไร ? มารู้จักประโยชน์ของชาแต่ละประเภท แล้วดื่มเพื่อสุขภาพกัน !
ชา คือเครื่องดื่มยอดนิยมที่ผู้คนทั่วโลกชื่นชอบ ได้รับความนิยมไม่แพ้กาแฟ (อ่านเพิ่มเติม กาแฟ ประโยชน์) วัฒนธรรมการดื่มชานั้นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีชาหลายประเภทให้เลือก ได้แก่ ชาขาว ชาดำ ชาเขียว ชาอูหลง และชาสมุนไพร ชาแต่ละประเภทมีรสชาติและลักษณะเฉพาะของตัวเอง ผู้คนนิยมดื่มชาเพราะทำให้รู้สึกผ่อนคลายและรู้สดชื่นจากกลิ่นหอมๆ ของใบชา จะเสิร์ฟเป็นชาร้อนหรือชาเย็นก็ได้ ทั้งยังมีการเอาไปประยุกต์เป็นเมนูเครื่องดื่มต่างๆ อีกมากมาย และยังเชื่อกันว่าชานั้นมีสรรพคุณดีๆ อยู่หลายประการ ชา ประโยชน์ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
ชา ประโยชน์ มีอะไรบ้าง ชวนดูสรรพคุณดีๆ ของชาแต่ละชนิด
วัฒนธรรมการปลูกชาและดื่มชานั้น มีมานานกว่า 4,000 ปี มีการกล่าวกันว่า การดื่มชานั้น ถูกค้นพบครั้งแรกในประเทศจีนโดยจักรพรรดิเสินหนิง (Shen Nung) ที่กำลังต้มน้ำอยู่ใต้ต้นชา และสายลมที่พัดผ่านมาทำให้ใบชาตกลงไปอยู่ในกาต้มน้ำโดยบังเอิญ เกิดเป็นเครื่องดื่มที่มีกลิ่นหอม มีรสชาติถูกปาก และมีการพัฒนาการชงชา การปลูกชา การผลิต และวิธีดื่มเรื่อยมา จากนั้นก็แพร่หลายในประเทศจีน และมีการเผยแพร่วัฒนธรรมการดื่มชาไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ทั้งนี้ มีชาหลายประเภททั่วโลก ประเภทของชาที่นิยมได้แก่ ชาดำ ชาเขียว ชาขาว ชาอูหลง ชาสมุนไพร ฯลฯ แต่ละประเภทก็มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และคุณประโยชน์ต่อสุขภาพแตกต่างกันไป ชา ประโยชน์นั้นมีอะไรบ้าง เหตุใดถึงนิยมดื่มกัน มาดูประโยชน์ชองชาแต่ละประเภทกันเลยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : แม้ว่าชาจะถูกค้นพบเป็นที่แรกในประเทศจีน แต่ประเทศที่ผลิตชารายใหญ่ไม่ได้มีแค่จีนเท่านั้น ในปี 1191 นักบวชนิกายเซนได้นำเมล็ดชาจากจีนเข้ามาปลูกในญี่ปุ่น จึงเริ่มมีการเก็บเกี่ยวชาและดื่มชาในเกาะทางใต้ของญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมีการค้นพบชาในรัฐอัสสัมของอินเดีย และการล่าอาณานิคมยังทำให้การปลูกชาแพร่หลายไปทั่วโลก โดยอังกฤษได้นำชาไปปลูกในเมืองเคปที่ทวีปแอฟริกาเป็นครั้งแรกในปี 1687 ก่อนขยายไปยังประเทศต่างๆ เช่น เคนยา มาลาวี และแทนซาเนีย
1. ชาเขียว
ชาเขียว (Green Tea) คือชาที่ผลิตด้วยการอบไอน้ำและถูกนวด ซึ่งเป็นการรักษาสภาพของใบชาให้คงเดิมมากที่สุดก่อนจะนำไปอบแห้ง เพื่อดึงรสชาติและกลิ่นหอมของใบชาออกมา ทั้งนี้ ชาเขียวไม่ได้ผ่านการหมักเหมือนชาประเภทอื่นๆ ทำให้ชายังคงมีความเขียวสด และมีคุณภาพเช่นเดียวกับใบชาสด เมื่อชงน้ำร้อนจะได้น้ำชาออกมาเป็นสีเขียว ชา ประโยชน์มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
- อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ : ชาเขียวเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าคาเทชิน ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังและสนับสนุนสุขภาพโดยรวมได้
- ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน : เป็นที่ทราบกันดีว่า ชาเขียวช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันและช่วยควบคุมน้ำหนัก ในชาเขียวมีสารประกอบที่ช่วยทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น ใครอยากลดไขมันต้องดื่มชาเขียวเป็นประจำเลยค่ะ
- ดีต่อหัวใจของเรา : การบริโภคชาเขียวเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ อาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ลดความดันโลหิต และปรับปรุงการทำงานของหลอดเลือด
- ช่วยเพิ่มการทำงานของสมอง : คาเฟอีนและกรดอะมิโน แอล-ธีอะนีน ในชาเขียวส่งผลดีต่อการทำงานของสมอง อาจปรับปรุงสมาธิ ความตื่นตัว และความจำ ในขณะเดียวกันก็ช่วยผ่อนคลายและลดความวิตกกังวลได้ด้วย
- ส่งเสริมสุขภาพผิว : สารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียวช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระและรังสียูวี นอกจากนี้ ยังอาจมีผลในเรื่องของการชะลอวัย ช่วยลดเลือนริ้วรอยและปรับปรุงสุขภาพผิวโดยรวม
- ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน : ชาเขียวมีสารประกอบหลายชนิดที่ส่งเสริมการทำงานของระะบบภูมิคุ้มกันและช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อ นอกจากนี้ ยังอาจมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ซึ่งช่วยในการป้องกันโรคเรื้อรัง
- อาจลดความเสี่ยงของมะเร็งบางชนิด : การศึกษาบางชิ้นแนะนำว่าการบริโภคชาเขียวอาจช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งลำไส้ใหญ่ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในส่วนนี้
2. มัทฉะ
บางคนอาจจะเกิดความสงสัยว่า มัทฉะกับชาเขียวต่างกันอย่างไร มัทฉะกับชาเขียวจะมีกระบวนการผลิตที่ต่างกัน โดยการผลิตมัทฉะจะคลุมต้นชาไว้ 30 วันก่อนเก็บเกี่ยว เพื่อป้องกันการเปลี่ยนสารธีอะนีนไปเป็นเคทีซิน ที่จะเกิดขึ้นเมื่อใบชาโดนแสงแดด แล้วนำใบชาเขียวมาบดเป็นผงทั้งใบโดยที่ไม่มีการแยกกากออก ซึ่งไม่เหมือนการดื่มชาเขียวทั่วไปที่ต้องกรองเอาใบชาออกก่อนดื่มชา ทำให้มัทฉะมีรสขมและมีความเข้มข้นอย่างมาก ประโยชน์ของมัจฉะมีดังนี้ค่ะ
- ช่วยให้ร่างกายสดชื่นตื่นตัว : มัทฉะมีคาเฟอีนในปริมาณปานกลาง ทำให้ร่างกายตื่นตัว มีความกระปรี้กระเปร่า พร้อมด้วยแอล-ธีอะนีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ช่วยบรรเทาความเครียด ทำให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้น
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน : ในมัทฉะมีสารโพลีฟีนอล แอล – ธีอะนีน และคาเทชิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยต้านความเสื่อมของร่างกาย ช่วยป้องกันการอักเสบที่อาจเกิดขึ้น ทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายอีกด้วย
- ช่วยบำรุงร่างกาย : ในมัทฉะมีวิตามินบี วิตามินซี และวิตามินอี ซึ่งช่วยบำรุงร่างกายและช่วยในการปรับสมดุลระบบการทำงานต่างๆ ในร่างกาย ช่วยบำรุงสายตา ลดอาการภูมิแพ้ทางเดินหายใจ เป็นต้น
- ส่งเสริมสุขภาพผิว : สารต้านอนุมูลอิสระในมัทฉะช่วยลดการอักเสบและปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ชะลอการเกิดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นต่างๆ
- ช่วยในการลดน้ำหนัก : มัทฉะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระโดยเฉพาะสารกลุ่มคาเทชิน ซึ่งมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานและไขมัน ช่วยลดการดูดซึมไขมันและน้ำตาล ช่วยลดคอเลสเตอรอล และช่วยลดความอยากอาหารได้ ใครต้องการจะลดน้ำหนักต้องดื่มมัทฉะเลยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : มัทฉะคุณภาพดีหรือมัทฉะแท้จะปลูกในนิชิโอะและเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น หรือในภูมิภาคอูจิของเกียวโต อันมีประวัติศาสตร์ชาเขียวมาอย่างยาวนาน และเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางแห่งมัทฉะ หากเทียบกับประเทศอื่นๆ แล้ว ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ผลิตผงมัทฉะได้คุณภาพมากที่สุด สัมผัสของผงมัทฉะนั้นจะมีความนุ่มนวล คล้ายแป้งเด็กหรืออายชาโดว์ มีสีเขียวสดใส มีรสอูมามิกลมกล่อม เมื่อตีมัทฉะกับน้ำจะต้องมีชั้นโฟมและมีฟองครีมอยู่ด้านบน ซึ่งบ่งบอกว่าเป็นผงมัทฉะคุณภาพสูง
3. ชาดำ
ชาดำ หรือชาแดง เป็นชาที่มีกระบวนการหมักที่ยาวนาน มีรสชาติเข้มข้นที่สุดในบรรดาประเภทของชาทั้งหมด โดยส่วนมากผลิตจากต้นชาสายพันธ์ุอินเดีย ถูกเรียกชื่อแตกต่างกันไปตามประเทศที่ผลิต ซึ่งชาแต่ละแหล่งผลิตจะมีรสชาติกลิ่นหอมที่แตกต่างกันและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชา ประโยชน์มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
- อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ : ชาดำมีโพลีฟีนอลซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถช่วยปกป้องร่างกายจากอนุมูลอิสระและลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง
- ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ : การบริโภคชาดำเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ สารต้านอนุมูลอิสระที่พบในชาดำช่วยปรับปรุงสุขภาพของหัวใจโดยการลดระดับคอเลสเตอรอลและปรับปรุงการทำงานของหลอดเลือด
- ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า : ชาดำมีคาเฟอีน ซึ่งช่วยปรับปรุงสมาธิ และทำให้ร่างกายตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า นอกจากนี้ยังมีกรดอะมิโนที่เรียกว่าแอล-ธีอะนีน ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นด้วย
- ดีต่อระบบย่อยอาหาร : ชาดำมีสรรพคุณส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร โดยการช่วยกระตุ้นการผลิตเอนไซม์ย่อยอาหาร ปรับปรุงสุขภาพลำไส้ และบรรเทาอาการไม่สบายท้องได้
- อาจช่วยควบคุมน้ำหนัก : ชาดำอาจช่วยควบคุมน้ำหนักได้เนื่องจากมีคาเฟอีนและโพลีฟีนอล สามารถเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน และช่วยให้ความอยากอาหารลดลง ดีต่อผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
- ส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน : สารต้านอนุมูลอิสระในชาดำช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและป้องกันโรคทั่วไปได้ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติต้านจุลชีพที่สามารถช่วยต่อสู้กับแบคทีเรียที่เป็นอันตรายได้
4. ชาอูหลง
ชาอูหลงเป็นชากึ่งหมัก ผ่านกระบวนการนวดเล็กน้อย ใช้เวลาหมักไม่นาน มีกลิ่นหอม มีรสชาติชุ่มคอ แต่มีรสชาติจืดกว่าชาเขียว น้ำชามีสีแดงเข้ม หมักใบสดระหว่างผลิตบางส่วน ต้นกำเนิดของชาอูหลงอยู่ที่ประเทศจีน ในมณฑลฝูเจี้ยน ภาษาจีนเรียกว่า “อูหลงฉา” แปลว่า มังกรดำ อูหลงชา ประโยชน์มีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ
- ดีต่อสุขภาพหัวใจ : การบริโภคชาอูหลงเป็นประจำอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้ สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและส่งเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดได้
- อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ : ชาอูหลงอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของเซลล์และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง
ช่วยให้รู้สึกตื่นตัว : ชาอูหลงมีคาเฟอีน ซึ่งสามารถเพิ่มความตื่นตัวและช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น ทั้งนี้ ในชาอูหลงมีปริมาณคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟ จึงดีต่อผู้ที่ไวต่อคาเฟอีน ไม่ทำให้ให้สั่นหรือปวดหัวเหมือนกับกาแฟ - ช่วยป้องกันฟันผุ : สารโพลีฟีนอลในชาอูหลงช่วยส่งเสริมสุขภาพช่องปากและฟันของเรา ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของฟันผุ รวมถึงช่วยป้องกันโรคมะเร็งในช่องปาก การดื่มชาอูหลงเป็นประจำจะช่วยป้องกันการสะสมของคราบจุลินทรีย์ จึงช่วยป้องกันฟันผุได้
- ดีต่อสุขภาพผิว : สารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในชาอูหลงสามารถส่งเสริมสุขภาพผิวโดยการลดการอักเสบและป้องกันความเสียหายของผิวหนังที่เกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น รังสียูวี มลภาวะ เป็นต้น
5. ชาขาว
ชาขาวเป็นชาประเภทหนึ่งที่ผ่านการแปรรูปน้อยที่สุด ผลิตจากยอดตูมและยอดอ่อนของต้นชา กรรมวิธีผลิตชาขาวเริ่มจากการเลือกเก็บยอดอ่อนชาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จากนั้นนำยอดชาที่เก็บได้มาผ่านกระบวนการทำแห้งในระยะเวลาที่รวดเร็ว ด้วยวิธีธรรมชาติโดยอาศัย ลม แสงแดด หรือความร้อนซึ่งจะแตกต่างจากกรรมวิธีผลิตชาประเภทอื่นๆ ที่ผ่านกระบวนการทำแห้งด้วยความร้อนหรือไอน้ำและผ่านกระบวนการหมักสำหรับชาบางประเภท ทำให้ปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระและคุณค่าทางโภชนาการของชาขาวยังคงไว้ได้มากขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติที่ละเอียดอ่อนและคุณประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ประโยชน์ของชาขาวมีดังนี้
- สารต้านอนุมูลอิสระสูง : ชา ประโยชน์อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง เช่น คาเทชินและโพลีฟีนอล ซึ่งช่วยปกป้องการเสื่อมของเซลล์ที่ถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ และช่วยป้องกันการเกิดโรคเรื้อรังที่เกิดจากการอักเสบในร่างกายได้หลายโรค
- ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน : สารต้านอนุมูลอิสระในชาขาวช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน โดยช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อและช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ
- ส่งเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด : ชาขาวอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจโดยการบำรุงสุขภาพของหัวใจ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และควบคุมความดันโลหิต
- ดีต่อผิวพรรณของเรา : สารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในชาขาวช่วยชะลอวัยได้ ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ทำให้ผิวกระชับแต่งตึงมากขึ้น
- ดีต่อสุขภาพช่องปาก : ในชาขาวมีฟลูออไรด์ แคเทชิน และแทนนิน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ทำให้ฟันผุ ทั้งยังช่วยทำให้ผิวฟันของเรามีความแข็งแรงมากขึ้น ช่วยป้องกันอาหารที่มีความเป็นกรดเข้ามากัดกร่อนทำลายชั้นฟันภายในอีกด้วย
6. ชารอยบอส
ชารอยบอส (Rooibos) หรือที่รู้จักกันในชื่อชาแดง ได้จากการนำกิ่งและใบของต้น Aspalathus linearis ไม้พุ่มชนิดหนึ่งที่มีถิ่นฐานอยู่ที่แถบแอฟริกาใต้ ไปหมักจนทำให้ได้ใบชาที่มีสีน้ำตาลออกแดง มีรสชาติเข้มข้น และไม่มีคาเฟอีน จึงเป็นชาทางเลือกแทนการดื่มชาดำหรือชาเขียวที่มีคาเฟอีนเยอะได้ ประโยชน์ของชารอยบอสมีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ
- อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ : ชารอยบอสเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แอสพาราธินและเควอซิทิน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วนต้านความเสื่อมของเซลล์ที่อาจเกิดขึ้นจากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ ช่วยต้านการอักเสบ ในระยะยาวอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง
- ดีต่อสุขภาพของหัวใจ : สารต้านอนุมูลอิสระในชารอยบอสอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจโดยการปกป้องหัวใจและหลอดเลือดจากความเสียหายของเซลล์ นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยลดความดันโลหิตและช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้อีกด้วย
- ปราศจากคาเฟอีน : ชารอยบอสเป็นชาที่ปราศจากคาเฟอีน จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับคาเฟอีน เช่น ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ผู้ที่ไวต่อคาเฟอีน ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ ผู้ที่เป็นไมเกรน เป็นต้น
- ส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร : การดื่มชารอยบอสอาจช่วยบรรเทาอาการต่างๆ เช่น อาหารไม่ย่อย ปวดท้อง และท้องเสีย นอกจากนี้ ยังช่วยปรับปรุงสุขภาพของลำไส้ด้วยการส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ต่อลำไส้อีกด้วย
7. ชาสมุนไพร
ชาสมุนไพร ทำจากสมุนไพร ดอกไม้ ผลไม้ และเครื่องเทศต่างๆ ตัวอย่างยอดนิยม ได้แก่ ชาคาโมมายล์ ชากุหลาบ ชามะลิ ชาเปปเปอร์มินต์ ชาลาเวนเดอร์ ชาใบหม่อน เป็นต้น ชา ประโยชน์มีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ
- ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและบรรเทาความเครียด : ชาสมุนไพรบางชนิด เช่น คาโมมายล์ ลาเวนเดอร์ และเลมอนบาล์ม มีคุณสมบัติช่วยให้เรารู้สึกสงบและทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เนื่องจากกลิ่นหอมๆ ของชาเหล่านี้จะช่วยให้สมองของเราปลอดโปร่งและรู้สึกสดชื่นมากขึ้น หากทำงานเครียดๆ ในระหว่างวันลองพักดื่มชาเหล่านี้ดูนะคะ ช่วยได้เยอะเลยค่ะ
- ช่วยในการย่อยอาการ : ชาสมุนไพร เช่น เปปเปอร์มินต์ ขิง กระเจี๊ยบ ช่วยย่อยอาหารได้ดี ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด และบรรเทาอาการท้องไส้ปั่นป่วนได้
- กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน : ชาสมุนไพรบางชนิด เช่น ชาเอลเดอร์เบอร์รี่ ชาขิง ชาขมิ้น ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน จึงช่วยป้องกันร่างกายจากการติดเชื้อและทำให้ร่างกายไม่เจ็บป่วยได้ง่าย
- ช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น : ชาสมุนไพร เช่น คาโมมายล์และลาเวนเดอร์ช่วยให้เรานอนหลับได้ง่ายขึ้น เป็นสมุนไพร แก้อาการนอนไม่หลับ ด้วยเพราะมีกลิ่นอโรมาที่ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ช่วยลดความเครียด จึงทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น
ข้อควรระวังในการดื่มชา
ชาแต่ละประเภทมีคุณประโยชน์อย่างไรบ้าง ตอนนี้ก็ได้ทราบกันแล้วนะคะ ชอบชาชนิดไหนก็สามารถเลือกดื่มได้ตามต้องการ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็มีข้อควรระวังในการดื่มชาเช่นกัน เพื่อให้การดื่มชาของเราได้คุณประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีข้อควรระวังดังนี้ค่ะ
- เวลาในการต้มชา : เวลาในการแช่ใบชาในน้ำร้อนก็มีความสำคัญ หากแช่ใบชานานมากเกินไปอาจทำให้มีรสขม ในขณะที่หากใช้เวลาน้อยเกินไปก็ทำให้มีรสชาติอ่อนลงได้ ทั้งนี้ ชาแต่ละชนิดก็ใช้เวลาเตรียมต่างกัน ดังนั้น ควรศึกษาเวลาในการชงชาแต่ละชนิดให้ดี เพื่อการให้รสชาติที่ดีและได้ประโยชน์สูงสุด
- คุณภาพและความสดของใบชา : ควรเลือกใบชาที่มีความสดใหม่ ได้รับการรับรองมาตรฐาน เนื่องจากอาจมีการปนเปื้อนของดิน ฝุ่น และเชื้อราได้ ทั้งนี้ การเก็บรักษาอย่างเหมาะสมในภาชนะกันลมและเก็บให้ห่างจากแสงและความชื้นจะช่วยรักษาความสดของใบชาได้
- คุณภาพน้ำ : คุณภาพของน้ำที่ใช้ในการชงชาส่งผลต่อรสชาติชาได้แนะนำให้ใช้น้ำกรองหรือน้ำแร่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หลีกเลี่ยงการใช้น้ำที่มีรสชาติหรือกลิ่นรุนแรง เนื่องจากอาจส่งผลต่อกลิ่นและรสของชาได้นั่นเอง
- อาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นได้ : ชาบางชนิดอาจไม่ถูกกับร่างกายของคนบางคน ในบางคนอาจดื่มชาแล้วรู้สึกคลื่นไส้ ท้องไส้ปั่นป่วน มีอาการวิงเวียนศีรษะ หรืออาจทำให้ท้องเสียได้ ดังนั้นอาจลองบริโภคชาในปริมาณน้อยๆ ดูก่อน เพื่อความปลอดภัยนะคะ
ประเภทของชาหลักๆ แล้วมีอะไรบ้าง และประโยชน์ของชาแต่ละอย่างนั้นมีอะไรบ้าง ตอนนี้ก็ได้ทราบกันแล้ว ชอบชาชนิดใด ก็สามารถเลือกดื่มได้ตามต้องการ ทั้งนี้ ควรจำกัดปริมาณการดื่มในแต่ละวัน เพราะชาบางชนิดก็มีคาเฟอีนสูง อาจรบกวนในการนอนหลับได้เช่นกัน และถ้าจะให้ดีควรดื่มเป็นชาใส ไม่ผสมนมและน้ำตาล จะได้จำกัดปริมาณน้ำตาลในแต่ละวัน และได้ประโยชน์จากชาอย่างเต็มที่ค่ะ
Featured Image Credit : freepik.com/jcomp
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ
