X

บูลิเมีย คือ อะไร ? อันตรายแค่ไหน มารู้จักโรคเกี่ยวกับพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติกันเถอะ !

เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡

บูลิเมีย คือ อะไร ? อันตรายแค่ไหน มารู้จักโรคเกี่ยวกับพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติกันเถอะ !

การจะมีสุขภาพดีและมีรูปร่างที่สมส่วนได้นั้น ต้องอาศัยการมีวินัยในการดูแลสุขภาพ สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักก็ยิ่งต้องมีวินัยในการกินและการออกกำลังกายให้มากกว่าเดิม ทั้งนี้ ในบางคนที่อยากมีรูปร่างดี แต่กลัวอ้วน ไม่อยากออกกำลังกายแต่ชอบการกิน ก็จะหาวิธีในการทำให้ตัวเองยังคงรักษารูปร่างเอาไว้ได้ด้วยการกินอาหารเข้าไปและไปล้วงคออาเจียนออกมา หรือกินยาถ่ายเพื่อขับอาหารออกไป เป็นต้น พฤติกรรมนี้เป็นอาการของโรค บูลิเมีย คือ พฤติกรรมการกินที่ผิดปกติอีกชนิดหนึ่ง อาการเป็นอย่างไร อันตรายมากไหม รักษาได้หรือไม่ มาดูกันเลยค่ะ

บูลิเมีย คือ อะไร ? อยากผอมแต่กินเยอะ กินแล้วก็อาเจียนออกมา ชวนเช็ก เราเป็นหรือเปล่า !

บูลิเมีย คือ, บูลิเมีย
Image Credit : vecteezy.com

โรคบูลิเมีย เนอร์โวซา (Bulimia Nervosa) หรือบูลิเมีย คือหนึ่งในโรคการกินผิดปกติ (Eating Disorders) และนับว่าเป็นปัญหาทางสุขภาพจิตด้วยเช่นกัน โดยเจอรัลด์ รัสเซล จิตแพทย์ชาวอังกฤษเป็นผู้ตั้งชื่อให้กับโรคนี้และอธิบายอาการของโรคครั้งแรกในปี ค.ศ. 1979 ซึ่งชื่อโรคมาจากภาษากรีกคำว่า βουλιμία (boulīmia) ที่แปลว่า “ผู้ที่กินอย่างตะกละ” ดังนั้น Bulimia Nervosa จึงมีความหมายว่า “ผู้ป่วยทางจิตที่กินอย่างตะกละตะกลาม” ผู้ที่เป็นโรคบูลิเมียนั้น จะกลัวอ้วนหรือกลัวการน้ำหนักขึ้น แต่มีความอยากอาหารในปริมาณมาก

พฤติกรรมของผู้ป่วยโรคบูลิเมีย คือ จะกินอาหารทุกอย่างที่อยากกินในปริมาณมาก จากนั้นจะเกิดความรู้สึกผิดและพยายามกำจัดอาหารที่กินเข้าไปด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการล้วงคอให้อาเจียนออกมา การใช้ยาขับปัสสาวะ การกินยาลดล้ำหนัก ยาลดความอ้วน ยาถ่าย หรือไปออกกำลังกายอย่างหนัก จากนั้นจะพยายามจำกัดปริมาณอาหารและอดอาหาร แต่ก็จะเกิดพฤติกรรมวนลูป กล่าวคือ กลับไปกินอาหารในปริมาณมากเกินปกติและไปล้วงคอตัวเองให้อาเจียนออกมา เมื่อทำแบบนี้บ่อยๆ ร่างกายก็จะชินและมีภาวะอาเจียนออกมาโดยอัตโนมัติแม้จะไม่ได้ไปล้วงคอ ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างมาก

เกร็ดสุขภาพ : โรคการกินผิดปกตินั้นมีอยู่หลายโรคด้วยกัน ทั้งโรคบูลิเมีย โรคอะนอเร็กเซีย (Anorexia) หรือโรคคลั่งผอม ที่เป็นปัญหาสุขภาพจิตอย่างหนึ่ง จัดอยู่ในกลุ่มโรคการกินผิดปกติ โดยผู้ป่วยจะพยายามกินอาหารให้ได้น้อยที่สุดในแต่ละวันและกลัวการน้ำหนักขึ้น หมกมุ่นอยู่กับตัวเลขบนตราชั่งและสัดส่วนจนเกิดความเครียด วิตกกังวล ทำให้ส่งผลเสียทั้งต่อสุขภาพกายและใจ อีกโรคหนึ่งคือโรคกินไม่หยุด หรือ Binge Eating Disorder ซึ่งผู้ป่วยจะกินอาหารในปริมาณมากโดยที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพตามมา

อาการของโรคบูลิเมีย คืออะไร

บูลิเมีย คือ, บูลิเมีย
Image Credit : freepik.com

มาเช็กกันดีกว่าว่า ตัวเราเองหรือคนรอบตัวมีอาการเหล่านี้หรือเปล่า เพราะถ้ามีพฤติกรรมดังกล่าวก็อาจเข้าข่ายเป็นโรคบูลิเมียได้ค่ะ

  • กินอาหารในปริมาณมากในช่วงเวลาสั้นๆ 
  • ควบคุมพฤติกรรมการกินของตัวเองไม่ได้
  • บางครั้งจำกัดปริมาณอาหารหรือกินให้ได้น้อยที่สุด
  • มีพฤติกรรมล้วงคอตัวเองเพื่อให้อาเจียนอาหารที่กินเข้าไป หรือหลังจากกินเสร็จแล้วต้องรีบไปออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
  • ใช้ยาระบาย ยาขับปัสสาวะ หรือทำการสวนทวารหลังรับประทานอาหาร
  • กินยาลดความอ้วน ยาลดน้ำหนัก หรือใช้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อลดน้ำหนัก
  • วิตกกังวลและหมกมุ่นอยู่กับน้ำหนัก – รูปร่างของตัวเอง
  • มีความกลัว รู้สึกวิตกกังวลว่าน้ำหนักของตัวเองจะเพิ่มขึ้น
  • มีความคิดแง่ลบเกี่ยวกับรูปร่างของตัวเอง
  • แม้ว่าน้ำหนักจะอยู่ในเกณฑ์ปกติแล้วก็ยังมีความคิดว่าตัวเองอ้วนเกินไป
  • อารมณ์แปรปรวนไม่มั่นคง รู้สึกเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า หดหู่ หงุดหงิดกระวนกระวาย ไม่พอใจในตัวเอง
  • หลีกเลี่ยงการเข้าสังคม หรืออาจมีพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง

เกร็ดสุขภาพ : ผู้ที่เป็นโรคบูลิเมียนั้น รู้ว่าพฤติกรรมต่างๆ เช่นการล้วงคออาเจียน การรับประทานยาถ่าย การอดอาหาร ฯลฯ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่ไม่สามารถควบคุมตนเองเพื่อให้หยุดพฤติกรรมเหล่านั้นได้ หลายๆ คนมีความขัดแย้งในตัวเอง เกิดความเครียดวิตกกังวล อยากหายจากสภาวะดังกล่าวแต่ไม่สามารถบังคับตัวเองได้ และเกิดความรู้สึกผิดเมื่อหยุดทำพฤติกรรมดังกล่าวเพราะกลัวว่าน้ำหนักจะขึ้น จึงต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับโรคจนเกิดปัญหาทางสุขภาพจิตตามมาด้วย

สาเหตุของการเกิดโรคบูลิเมีย คืออะไร

บูลิเมีย คือ, บูลิเมีย
Image Credit : freepik.com

สาเหตุของการเกิดโรคบูลิเมียนั้น เป็นได้หลายปัจจัยด้วยกัน หรืออาจเกิดขึ้นจากหลายๆ สาเหตุรวมกัน จำแนกได้ดังนี้

  1. อายุและเพศ : โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ป่วยที่เป็นบูลิเมีย คือกลุ่มผู้หญิงในช่วงอายุวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงาน และอาจได้รับอิทธิพลในเรื่องของรูปร่างในกลุ่มวัยเดียวกัน ทำให้มีความกังวลเกี่ยวกับน้ำหนักและรูปร่างของตัวเอง
  2. กรรมพันธ์ุ : กรรมพันธ์ุก็ส่งผลทำให้เกิดโรคบูลิเมียได้ด้วยเช่นกัน โดยพบว่า หากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคที่เกี่ยวกับการกินผิดปกติ ก็จะมีโอกาสเป็นโรคนี้ไปด้วย
  3. สภาวะทางจิตใจ : สภาวะทางอารมณ์และสุขภาพจิตบางอย่างอาจส่งผลให้เกิดโรคบูลิเมียได้ เช่น มีความเครียดความวิตกกังวลเกี่ยวกับรูปร่างของตัวเอง มีความพึงพอใจในตัวเองต่ำ คิดว่าตัวเองยังดีไม่พอ หรือเป็นผู้นิยมความสมบูรณ์แบบ (perfectionism) และอยากให้ตัวเองดูดี มีรูปร่างที่ดูสมบูรณ์แบบ เป็นต้น
  4. การโดนล้อเลียน : การโดนล้อเลียนเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติได้ เช่น โดนล้อว่าอ้วน น้ำหนักเกิน ทำให้มีความคิดอยากจะลดน้ำหนักในทางอ้อมหรือมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับรูปร่างตัวเองจนทำให้เกิดพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ
  5. ค่านิยมในสังคม : ค่านิยมเกี่ยวกับรูปร่างในสังคมก็อาจส่งผลทำให้เกิดความคาดหวังว่าจะต้องมีรูปร่างดี ผอมเพรียว ผู้ที่มีรูปร่างดีจะได้รับการยอมรับในสังคมและประสบความสำเร็จ มีคนนิยมชมชอบ เช่น เหล่าดารานางแบบ หรือคนดังในโลกอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
  6. การประกอบอาชีพ : อีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดโรคบูลิเมีย คือ การประกอบอาชีพที่ต้องดูแลรูปร่างเป็นอย่างดี เช่น นักกีฬา นักแสดง นักเต้น นางแบบ อินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคนี้ เนื่องจากภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญในการประกอบอาชีพ

ผลกระทบจากโรคบูลิเมีย คืออะไร

ผู้ที่เป็นโรคบูลิเมียมักได้รับผลกระทบทั้งทางสุขภาพกายและสุขภาพใจ ตั้งแต่ความผิดปกติของร่างกาย ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายแปรปรวน เกิดความเครียดวิตกกังวล ไปจนถึงมีความรุนแรงอันตรายต่อชีวิต มีภาวะขาดสารอาหารจากการกินแล้วล้วงคอ การใช้ยาระบาย ยาขับปัสสาวะ ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพดังนี้

  • ผิวพรรณขาดน้ำ แห้งเหี่ยวย่น
  • รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย 
  • ผมร่วง เล็บเปราะหักง่าย
  • ขาดสารอาหาร สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง
  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ 
  • ปากแห้ง ต่อมน้ำลายอักเสบจากการล้วงคออาเจียนเป็นประจำ
  • มีแผลในกระเพาะอาหารเนื่องจากกรดกระเพาะอาหารเกิดขึ้นระหว่างการล้วงคออาเจียน
  • เยื่อบุหลอดอาหารและกระเพาะอาหารอาจมีการฉีกขาด และอาจมีเลือดออกในทางเดินอาหารเพราะอาเจียนบ่อยๆ
  • มีกลิ่นปาก ฟันผุ และมีปัญหาสุขภาพเหงือกและช่องปากอื่นๆ
  • ท้องผูก กล้ามเนื้อลำไส้ได้รับความเสียหายเนื่องจากใช้ยาระบายเป็นประจำ

วิธิการรักษาโรคบูลิเมีย ทำได้อย่างไร ?

บูลิเมีย คือ, บูลิเมีย
Image Credit : freepik.com

วิธีการรักษาโรคบูลิเมียนั้น ต้องใช้การรักษาแบบองค์รวมเพื่อฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะโรคนี้เกิดจากทัศนคติเกี่ยวกับรูปร่างน้ำหนักของตนเองจนเกิดพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ วิธีการรักษาทำได้ดังนี้

  1. รักษาด้วยการพูดคุยเชิงจิตบำบัด อาทิ การบำบัดความคิดและพฤติกรรม หรือ Cognitive Behavioral Therapy เพื่อให้ผู้ป่วยปรับเปลี่ยนทัศนคติแลพะความเชื่อที่มีต่อรูปร่างของตัวเอง รวมถึงเลิกวิธีการควบคุมน้ำหนักที่ไม่ถูกต้อง เพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
  2. รักษาโดยการใช้ยา โดยแพทย์จะจ่ายยาต้านเศร้าควบคู่กับการพูดคุยเชิงจิตบำบัดที่ช่วยบรรเทาอาการของโรคได้ ซึ่งยาที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาที่ใช้รักษาผู้ป่วยโรคบูลิเมีย คือ ยาฟลูอ็อกซีทีน (Fluoxetine)
  3. รักษาด้วยการปรับโภชนาการ โดยนักโภชนาการและผู้เชี่ยวชาญจะช่วยวางแผนการรับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการโดยจัดสัดส่วนของอาหารแต่ละชนิดอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ป่วยโรคบูลิเมียมีสุขภาพดี น้ำหนักตามเกณฑ์ มีค่า BMI มาตรฐาน

ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการมีสุขภาพที่ดีและมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง แม้ว่ารูปร่างจะไม่ได้ดูสมบูรณ์เพอร์เฟคก็ตาม การกินอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำลายสุขภาพนั้นก็จะทำให้เรามีสุขภาพดีได้ และการลดน้ำหนักด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมนั้นก็จะนำมาซึ่งปัญหาทางสุขภาพหลายประการ และที่สำคัญคือ การมีทัศนคติที่ดีต่อตัวเอง เห็นคุณค่าในตัวเอง ชื่นชมตัวเองว่าแม้เราจะดูไม่ผอมเพรียวแต่อย่างน้อยก็มีสุขภาพดี หรือถ้าใครต้องการมีรูปร่างดีก็ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพียงแค่มีวินัยตัวเองและคำนึงถึงการมีสุขถาพดีเป็นหลัก การมีรูปร่างที่ดีก็จะตามมาอย่างแน่นอนค่ะ

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : nhs.uk, mayoclinic.org, my.clevelandclinic.org

Featured Image Credit : freepik.com/rawpixel.com

ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ

ติดต่อโฆษณา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้การวิเคราะห์

    เราขออนุญาติใช้คุกกี้นี้เก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดีขึ้นให้กับคุณ

Save