“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ชวนรู้จัก เคปกูสเบอร์รี่ หรือโทงเทง ผลไม้รสเปรี้ยว สีสวย กลิ่นหอม มากคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ
มีใครชอบกินผลไม้ที่ชื่อว่า Cape Gooseberry กันบ้างมั้ยคะ ? ผลไม้ชนิดนี้ มีใบสีน้ำตาลหุ้มอยู่ ผลด้านในมีสีเหลืองอมส้ม ผลมีลักษณะกลม มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน แล้วก็มีความหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บ้างก็ว่าคล้ายสับปะรดผสมมะเขือเทศ บางคนก็บอกว่าคล้ายเสาวรส ในหน้าร้อนแบบนี้ เคปกูสเบอร์รี่ แช่เย็นจะช่วยดับร้อนได้ดีเลยทีเดียว นอกจากจะอร่อย รสชาติดีแล้ว ประโยชน์ก็มีมากมาย เรามารู้จักผลไม้ชนิดนี้ให้มากขึ้นกันเลยค่ะ
เคปกูสเบอร์รี่ ผลไม้ชื่อแปลก ประโยชน์มีมากมาย มารู้จักให้มากขึ้นกัน !
Cape Gooseberry มีอีกหนึ่งชื่อเรียกคือ “โทงเทงฝรั่ง” เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผลเล็กพอดีคำ มีสีเหลืองอมส้ม รสชาติเปรี้ยวอมหวานสดชื่น มักมีกลีบเลี้ยงแห้งๆ ติดอยู่กับลูกด้วย Cape Gooseberry เป็นผลไม้เมืองหนาว นิยมปลูกในภาคเหนือ เป็นผลผลิตที่ได้จากการส่งเสริมและพัฒนาผลไม้ขนาดเล็กในโครงการหลวง เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่ปลูกทดแทนไร่ฝิ่นนั่นเอง นอกจากจะมีรสชาติอร่อยแล้ว ยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด มีทั้งวิตามินซี วิตามินเค แคลเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบต้าแคโรทีน ลูทีน ที่ช่วยบำรุงสุขภาพให้แข็งแรง ประโยชน์ของเคปกูสเบอร์รี่จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : Cape Gooseberry มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ แถบประเทศเปรู ชิลี แถบอเมริกากลาง อินเดีย และจีน มีชื่อวิทยาศาสตร์ตามภูมิศาสตร์กำเนิดว่า Physalis Peruviana L. ผลไม้ชนิดนี้จัดอยู่ในตระกูล Solanaceae เช่นเดียวกับพริก มะเขือ มะเขือเทศ มันฝรั่ง ยาสูบ พิทูเนีย บางครั้งผลไม้ชนิดนี้ถูกเรียกว่า Strawberry tomato, Husk tomato, Golden berry และ Ground Cherry ซึ่งคนไทยจะเรียกว่า โทงเทงฝรั่งนั่นเองค่ะ
1. ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
เคปกูสเบอร์รี่มีวิตามินซีในปริมาณสูง สรรพคุณวิตามินซีจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอมได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรค สารพิษ สิ่งที่ทำให้แพ้ หรืออื่นๆ การได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพออาจช่วยให้ร่างกายสามารถรับมือกับสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรคต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น ทั้งเชื้อชนิดใหม่และเชื้อชนิดเดิม นอกจากนี้ วิตามินซียังช่วยบรรเทาความรุนแรงจากโรคหวัด และลดระยะเวลาการเจ็บป่วยด้วยโรคหวัดได้
2. อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ใน Cape Gooseberry มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระนั้นจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ช่วยป้องกันความชรา และช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมอีกด้วย ในผลไม้ชนิดนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างฟลาโวนอยด์ แอนโทไซยานิน เบต้าแคโรทีน ลูทีน ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย
3. ดีต่อดวงตาของเรา
เคปกูสเบอร์รี่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด มีวิตามินเอสูง และมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบต้าแคโรทีน และลูทีนที่มักจะพบในผักผลไม้สีเหลือง สีส้ม และสีแดง ซึ่งจะช่วยบำรุงดวงตาของเรา โดยสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มนี้อาจช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ดวงตาได้ จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อมที่มีสาเหตุจากวัย หรือโรค AMD (Age-related Macular Degeneration) ได้อีกด้วย
4. ช่วยควบคุมความดันโลหิต
ในผลไม้ชนิดนี้ มีโพลีฟีนอลและแคโรทีนอยด์ที่มีคุณสมบัติช่วยควบคุมความดันโลหิตในร่างกายได้ นอกจากนี้ ยังมีเส้นใยเพกตินที่ละลายน้ำได้ ซึ่งจะช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี หรือ LDL และช่วยให้เรามีสุขภาพหัวใจที่ดีขึ้น
5. ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง
เจ้าผลกลมๆ ลูกสีเหลืองนี้ มีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งผลไม้อย่างโทงเทงฝรั่งจะช่วยบำรุงกระดูกและฟันของเราให้แข็งแรงได้ ทั้งยังมีเพกตินที่ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสได้ดียิ่งขึ้นด้วย นอกจากนี้ ยังมีวิตามินเค วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 ธาตุเหล็ก ที่ดีต่อกระดูกและฟันของเราด้วยค่ะ
6. ดีต่อผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก
สำหรับใครที่ต้องการลดน้ำหนักหรือกำลังควบคุมอาหาร เคปกูสเบอร์รี่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ เลยค่ะ จะกินเป็นอาหารว่างระหว่างวันก็ได้ Cape Gooseberry ครึ่งถ้วยให้พลังงานเพียง 53 แคลอรี่เท่านั้น มีโปรตีน 2 กรัม คาร์โบไฮเดรต 11.2 กรัม ปราศจากไขมัน ทั้งยังเป็นผลไม้ที่ฉ่ำน้ำ ช่วยเติมความสดชื่นให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับสรรพคุณของแตงโมเลยค่ะ
7. มีใยอาหารสูง ดีต่อระบบขับถ่าย
Cape Gooseberry เป็นอาหารที่มีไฟเบอร์สูง อุดมไปด้วยเส้นใยเพกตินที่ช่วยเพิ่มกากอาหารในลำไส้ของเรา เพื่อให้ขับถ่ายง่ายขึ้น ช่วยป้องกันอาการท้องผูก และยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม หากกินอาหารที่มีเส้นใยสูง ต้องดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อช่วยให้ขับถ่ายสะดวกมากขึ้นด้วยนะคะ
8. ช่วยต้านการอักเสบ
ในเคปกูสเบอร์รี่อุดมไปด้วยแอนโธไซยานิน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยป้องกันการอักเสบที่เกิดจากอาการปวด บวม แดง และยังมีสารโพลีฟีนอล รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ ที่อาจช่วยรักษาความผิดปกติต่างๆ เช่น โรคหอบหืด สาเหตุเกิดจากการอักเสบของหลอดลมนั่นเองค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : การรับประทานเคปกูสเบอร์รี่ ควรรับประทานผลสุกจะดีที่สุด โดยผลสุกจะมีสีเหลืองไปจนถึงสีส้ม ไม่ควรรับประทานผลดิบที่ยังเป็นสีเขียว เพราะอาจมีสารโซลานีนซึ่งเป็นสารพิษตามธรรมชาติในพืชตระกูลนี้ หากรับประทานเข้าไปอาจทำให้ท้องเสีย อาเจียน หายใจลำบาก และทำให้ชีพจรเต้นช้าลง หากได้รับในปริมาณมาก อาจทำให้เสียชีวิตได้
ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมคะว่า ผลไม้รูปร่างแปลกตาอย่างโทงเทงฝรั่งหรือ Cape Gooseberry จะมีประโยชน์มากมายขนาดนี้ ทั้งยังมีรสชาติอร่อย กินแล้วสดชื่น กินได้ทั้งแบบสดๆ หรือจะเอาไปทำเป็นแยม ทำเป็นซอส เป็นไส้พาย พุดดิ้งกวน ไอศกรีม หรือเอาใส่ในสลัด เป็นสลัดผลไม้ เอาไปทำสมูทตี้ จุ่มน้ำผึ้ง จุ่มกับฟองดูช็อกโกแลตก็ได้ด้วย นอกจากกินได้หลากหลาย มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว การกินเคปกูสเบอร์รี่ยังช่วยให้เกษตรกรทางภาคเหนือในมูลนิธิโครงการหลวงมีอาชีพและมีรายได้ที่ยั่งยืนอีกด้วยนะคะ ถ้าใครอยากลองกินผลไม้ชนิดนี้ สามารถหาซื้อได้ที่ร้านโครงการหลวง หรือตามซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่งก็ได้เช่นกันค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : healthline.com, technologychaoban.com, health.clevelandclinic.org, food.ndtv.com
Featured Image Credit : vecteezy.com/pinkomelet111962
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ