“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ครอบแก้ว คือ อะไร ? ชวนรู้จักวิธีบำบัดโรค ตามแพทย์แผนจีน !
เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินเกี่ยวกับการครอบแก้วกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งการครอบแก้วนั้นเป็นวิธีการรักษาแบบแพทย์แผนจีนอย่างหนึ่งที่ช่วยรักษาโรคได้หลายอย่าง โดยเฉพาะการบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อและปรับสมดุลร่างกาย สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักว่าการ ครอบแก้ว คือ อะไร และครอบแก้ว ช่วยรักษาอะไรได้บ้าง ก็ตามมาดูกันได้เลยค่ะ
ครอบแก้ว คือ อะไร ? ทำความรู้จักการรักษาโรคตามศาสตร์แพทย์แผนจีน !
ครอบแก้ว คือการรักษาตามศาสตร์แพทย์แผนจีนวิธีหนึ่ง โดยการทำแก้วให้ร้อนเพื่อไล่อากาศออก จากนั้นจึงครอบแก้วลงบนผิวหนัง ซึ่งจะเกิดแรงดูดจากสุญญากาศ ทําให้เกิดเลือดคั่งขึ้นในบริเวณนั้น อุปกรณ์ครอบจะติดแน่นกับบริเวณผิว และดึงกล้ามเนื้อ เส้นประสาท เส้นเลือด ที่อยู่ภายใต้บริเวณที่ครอบ ทําให้เกิดการกระตุ้นระบบประสาท ฮอร์โมน และทําให้ระบบหมุนเวียนเลือดสมดุล ครอบแก้ว ช่วยอะไรได้บ้าง ? การครอบแก้วช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด ลดการอักเสบ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย รวมไปถึงการขับสารพิษออกจากร่างกาย หลังจากการครอบแก้วแล้วอาจจะทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเป็นสีแดงได้ โดยจะใช้เวลาในการทำประมาณ 10 – 15 นาที ต่อครั้งและรอยช้ำที่เกิดขึ้นจะหายไปได้เองภายใน 2 – 10 วัน
ประเภทของการครอบแก้วมีอะไรบ้าง ?
1. การครอบแก้วแบบทิ้งไว้บนผิวหนัง (หลิวก้าน)
เป็นการครอบแก้วโดยทิ้งไว้บนผิวหนังตามเส้นลมปราณ ใช้เวลาประมาณ 5 – 15 นาที แล้วค่อยดึงออก โดยวิธีนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีอาการปวดเฉพาะจุดและอาการปวดเกิดจากการที่ร่างกายเสียสมดุล เช่น อาการปวดหลังหรือปวดเอว
2. การครอบแก้วแบบเคลื่อนไหวหรือการเดินถ้วย (โจ่วก้วน)
เป็นการใช้น้ำมันสมุนไพรทาลงบนผิวหนังก่อนทำการครอบแก้วเพื่อให้ผิวมีความลื่น จากนั้นจึงนำแก้วครอบลงบนผิวหนังในลักษณะเคลื่อนที่ขึ้นลงหรือซ้ายขวา เหมาะกับการรักษาอาการปวดจากลมหรือความชื้น
3. การครอบแก้วแบบดึงเร็ว (ส่านก้วน)
การครอบแก้วด้วยวิธีนี้เป็นการครอบแก้วที่คล้ายกับการครอบแก้วทิ้งไว้บนผิวหนังแต่จะต่างกันตรงที่ระยะเวลาที่ทิ้งไว้ การครอบแก้วแบบส่านก้วนจะเป็นการดึงแก้วออกอย่างรวดเร็วและทำซ้ำเรื่อยๆ จนผิวเปลี่ยนเป็นสีแดง เหมาะกับคนที่มีอาการชา ปวดที่ผิวหนัง หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
4. การครอบแก้วที่ประสานกับการใช้เข็มปลอดเชื้อ (ซื่อลั้วป๋าก้วน)
เป็นการครอบแก้วร่วมกับการใช้วิธีฝังเข็มช่วยในการรักษา โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะนำเข็มมาฝังในบริเวณที่ต้องการจะครอบแก้ว จากนั้นจึงนำแก้วลงไปครอบบริเวณที่มีเข็มปักอยู่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาให้มากขึ้น เหมาะกับคนที่เป็นโรคผิวหนัง เช่น ฝีหนอง โรคหืด หรือสิว
เกร็ดสุขภาพ : สีจากการครอบแก้วสามารถบ่งบอกถึงสุขภาพได้ เมื่อทำการรักษาโดยการครอบแก้วเสร็จแล้ว บริเวณผิวหนังที่โดนครอบแก้วจะปรากฏรอยจ้ำขึ้นมาเป็นสีม่วงๆ โดยความเข้มอ่อนของสีแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งความเข้มของรอยจ้ำดังกล่าวนี่เองที่บอกถึงลักษณะอาการปวดในบริเวณนั้นๆ และยิ่งมีสีเข้มมากเท่าไหร่ ก็หมายความว่าเป็นบริเวณที่มีอาการปวดมากเป็นพิเศษ แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ ไม่ว่าจะรอยจ้ำเข้มแค่ไหนก็สามารถจางหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์พร้อมกับอาการปวดที่หายไปด้วย
การครอบแก้ว ช่วยอะไรได้บ้าง ?
การครอบแก้วนั้น นอกจากจะช่วยเรื่องอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้แล้ว ยังช่วยในการรักษาโรคอื่นๆ ได้อีกมากมายเลยค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีการรักษาแบบอื่นนอกเหนือจากการใช้ยา การครอบแก้ว คือตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ โดยประโยชน์ของการครอบแก้วมีดังนี้
- รักษาโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด ปอดบวม ปวดอักเสบ ภูมิแพ้อากาศ
- รักษาโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น อาหารไม่ย่อยเนื่องจากกรดเกินในกระเพาะ
- รักษาโรคทางกระดูกและข้อต่อ เช่น ปวดศอก ปวดข้อไหล่สะบัก ปวดเอว อาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
- รักษาโรคระบบหมุนเวียนโลหิต เช่น ความดันโลหิตสูง โลหิตจาง
- รักษาโรคระบบประสาท เช่น ปวดหัว ปวดไมเกรน ภาวะซึมเศร้า โรควิตกกังวล
ก่อนครอบแก้วต้องเตรียมตัวอย่างไร ?
ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนมาทำครอบแก้วนั้นง่ายมากเลยค่ะ โดยผู้ที่เข้ารับการรักษาสามารถกินอาหารได้ตามปกติ เพียงแต่ควรกินก่อนเข้ามารับบริการประมาณ 1 – 2 ชั่วโมงและไม่ควรกินจนอิ่มจนเกินไป แต่ผู้ที่มีผิวหนังอักเสบหรือเป็นแผลอยู่ในบริเวณที่ครอบแก้วควรงดใช้บริการไปก่อน เพื่อความปลอดภัยนะคะ
ครอบแก้ว ที่ไหนดี ?
ในปัจจุบันนี้ การครอบแก้ว คือการรักษาอย่างหนึ่งที่เริ่มนิยมอย่างแพร่หลายจากไลฟ์สไตล์การทำงานที่นั่งอยู่หน้าคอมกันมากขึ้น ทำให้มีคนป่วยเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม ปวดคอ บ่า ไหล่เพิ่มมากขึ้นด้วย และสำหรับใครที่อยากได้สถานที่ครอบแก้วดีๆ เราก็มีมาฝากกันด้วยค่ะ
1. ศูนย์การแพทย์แผนจีนโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่น
ศูนย์การแพทย์แผนจีนของทางโรงพยาบาลเกษมราษฏร์เป็นสถานที่ครอบแก้วที่มีความพร้อมด้วยบุคลากรทางการแพทย์และสมุนไพรจีนครบวงจร มีการรักษาด้วยแพทย์แผนจีนเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การครอบแก้ว การฝังเข็ม นวดทุยหนา โดยแพทย์จะทำการวินิจฉัยก่อนที่จะทำการรักษาให้เหมาะสมตามอาการ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่เคยเข้ารับบริการครอบแก้วมาก่อน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ศูนย์การแพทย์แผนจีนโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่น
ราคาโดยประมาณ : 600 บาท/ครั้ง
แผนที่ :
2. โรงพยาบาลยันฮี แพทย์แผนจีน
โรงพยาบาลยันฮี ถือว่าเป็นโรคพยาบาลอีกแห่งที่ได้มาตรฐานสำหรับการบริการด้านแพทย์แผนจีน และด้วยความที่เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ จึงมีความพร้อมในการให้บริการที่หลากหลาย โดยจะมีแพทย์วินิจฉัยโรคจากการวัดชีพจรหรือการแมะก่อนครอบแก้ว ซึ่งผู้เข้ารับบริการจะได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตลอดการรักษา รับประกันในเรื่องของความปลอดภัยได้เลยค่ะ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : โรงพยาบาลยันฮี แพทย์แผนจีน
ราคาโดยประมาณ : 570 บาท/ครั้ง
แผนที่ :
3. หัวเฉียวแพทย์แผนจีน
คลินิกการแพทย์แผนจีนของหัวเฉียวเป็นคลินิกที่ถูกและดีอีกหนึ่งแห่งที่หลายคนแนะนำ เปิดให้บริการมานานกว่า 25 ปีแล้วและมีแพทย์แผนจีนหลากหลายรูปแบบ พร้อมทั้งดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ มีการรักษาโรคที่ได้มาตรฐานในระดับสากล ใครต้องการครอบแก้วในราคาย่อมเยา แนะนำเป็นที่นี่เลยค่ะ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : หัวเฉียวแพทย์แผนจีน
ราคาโดยประมาณ : 200 บาทต่อครั้ง
แผนที่ :
การดูแลตัวเองหลังครอบแก้ว
หลังจากครอบแก้วเสร็จแล้ว ควรเลี่ยงการดื่มน้ำเย็น โดยให้ดื่มเป็นน้ำอุณหภูมิห้องแทน เพื่อช่วยให้ร่างกายขับของเสียได้ง่ายขึ้น งดอาบน้ำและอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลา 2 ชั่วโมงหลังครอบแก้วเสร็จทันที และหากมีอาการผิดปกติเช่น ปวด บวม หรือรู้สึกแสบร้อนมากกว่าปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์
เกร็ดสุขภาพ : ข้อห้ามในการครอบแก้ว คือห้ามสตรีมีครรภ์ในช่วง 1 – 4 เดือนเข้ารับการรักษา เพราะเด็กในครรภ์ยังไม่แข็งแรงอาจจะเจอความร้อนจากการครอบแก้วแล้วมีผลกระทบที่ทำให้เกิดการแท้งได้ และผู้ที่ติดเชื้อบริเวณผิวหนังหรือขึ้นผื่นคันตามตัวควรหลีกเลี่ยงการครอบแก้วไปก่อน เนื่องจากอาจไปกระตุ้นเชื้อโรคให้เจริญเติมโตดีขึ้น และควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะทำครอบแก้วค่ะ
เมื่อได้รู้กันไปแล้วว่าครอบแก้ว คืออะไรและครอบแก้ว ช่วยอะไรได้บ้าง ก็อยากลองใช้บริการขึ้นมาเลยใช่มั้ยคะ ? แต่อย่าลืมนะคะว่าการครอบแก้วก็เป็นวิธีการรักษารูปแบบหนึ่ง ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น รวมทั้งต้องอยู่ในสถานที่ที่สะอาดและมีมาตรฐานความปลอดภัยด้วยเพื่อลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงและการติดเชื้อที่เป็นอันตราย แต่ถ้าใครมีโรคที่เกี่ยวกับกระดูกโดยตรงก็แนะนำให้หาคลินิกจัดกระดูกใกล้ฉันจะตอบโจทย์มากกว่าค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : th.yanhee.net, huachiewtcm.com, cmed.hcu.ac.th, webmd.com
Featured Image Credit : freepik.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ