“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ภูมิแพ้อาหารแฝง เป็นแบบไหน ? เกิดขึ้นได้อย่างไร ชวนสังเกตและดูแลสุภาพตัวเอง
เชื่อว่าทุกคนรู้จักอาการแพ้อาหารกันมาก่อน แพ้อาหาร มีอะไรบ้าง ? อย่างบางคนก็แพ้อาหารทะเล แพ้ไข่ แพ้ถั่ว แพ้นมวัว และอื่นๆ เนื่องจากร่างกายแพ้สารบางชนิดที่อยู่ในอาหารนั้นๆ เมื่อรับประทานเข้าไปจึงทำให้เกิดอาการแพ้ บางคนก็มีอาการไม่รุนแรงมาก แต่บางคนก็มีอาการรุนแรงจนถึงขั้นอันตรายต่อชีวิตได้เลยทีเดียว ทั้งนี้ มีการแพ้อาหารอีกรูปแบบหนึ่งที่แม้จะมีอาการไม่หนักมาก แต่ก็ส่งผลต่อสุขภาพได้ ซึ่งก็คือ ภูมิแพ้อาหารแฝง นั่นเอง อาการเป็นยังไง อันตรายมากมั้ย จะสังเกตตัวเอง ดูแลตัวเองได้อย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
ภูมิแพ้อาหารแฝง คืออะไร อันตรายมากมั้ย ? มารู้จักให้มากขึ้นกัน
ภูมิแพ้อาหารแฟง หรือ Food Intolerance คืออาการที่เกิดจากภูมิคุ้มกัน (Antibody) ชนิด IgG (Immunoglobulin G) ถูกร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อต่อต้านอาหารที่รับประทานเข้าไป ซึ่งเป็นอาการแพ้อาหารคนละแบบกับการแพ้อาหารแบบเฉียบพลันหรือ Food Allegy โดยส่วนมากแล้วจะมีอาการไม่รุนแรง และจะไม่เกิดขึ้นในทันทีที่กินอาหารเข้าไป แต่อาการจะเกิดขึ้นหลังจากนั้นอีกหลายชั่วโมง หรืออาจข้ามวันเลยก็ได้ ทำให้หลายๆ คนมองข้ามการแพ้อาหารแบบแฝงไป
เกร็ดสุขภาพ : ภูมิแพ้อาหาร กับ ภูมิแพ้อาหารแฝง ต่างกันอย่างไร ? การแพ้อาหารหรือ Food Allergy ส่วนใหญ่จะแสดงอาการแบบเฉียบพลัน หรืออาจเกิดขึ้นภายใน 2 – 4 ชั่วโมง หลังกินอาหารที่แพ้เข้าไป อาการแพ้ที่เกิดขึ้นคือ เป็นผื่นลมพิษ ตาบวม ปากบวม แน่นหน้าอก หายใจลำบาก จนถึงขั้นหมดสติหรือมีอันตรายถึงชีวิตได้ แต่ถ้าเป็นการแพ้อาหารแบบแฝง หรือ Food Intolerance จะไม่แสดงอาการแพ้ในทันทีทันใด แต่จะมีอาการเมื่อกินอาหารชนิดนั้นในปริมาณมากๆ หรือกินบ่อยๆ ซึ่งอาการส่วนใหญ่จะเกิดหลังจากกินอาหารชนิดนั้นไปแล้ว 48 ชั่โมง
สาเหตุของการเกิดภูมิแพ้อาหารแฝง
การแพ้อาหารแบบแฝง เกิดจากการที่ร่างกายขาดเอนไซม์ในการย่อยอาหารชนิดนั้น ทำให้ย่อยอาหารได้ไม่ดีเท่าที่ควร ร่างกายก็ดูดซึมเอาไปใช้ได้ไม่ดี โมเลกุลจากอาหารจึงสามารถหลุดลอดเข้าไปในกระแสเลือดได้ และทำให้ร่างกายมีปฏิกิริยาต่อต้าน ด้วยการสร้างอิมมูโนโกบูลินชนิด IgG ออกมาต่อต้านอาหารชนิดนั้น และค่อยๆ ทำให้เกิดอาการแพ้ตามมานั่นเองค่ะ
อาการของภูมิแพ้อาหารแฝง เป็นอย่างไร
- เป็นไมเกรนบ่อย ปวดศีรษะเรื้อรัง
- มีอาการคล้ายหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล
- เป็นผื่นลมพิษเรื้อรัง
- เป็นสิวเรื้อรัง
- ท้องเสีย ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก มีแก๊สในกระเพาะอาหาร
- ลำไส้แปรปรวน สำไส้ระคายเคือง ลำไส้อักเสบ
- น้ำหนักขึ้นง่าย
- ปวดกล้ามเนื้อ หรือปวดตามข้อต่างๆ
- เป็นสิวอักเสบตามร่างกาย หรือตามใบหน้า
- ปวดท้องประจำเดือนผิดปกติ
เกร็ดสุขภาพ : ภูมิแพ้อาหารแฝงที่พบได้บ่อยคือ แพ้แลกโตส ซึ่งจะย่อยนมวัวไม่ได้ ทำให้ท้องอืด ท้องเสีย บางคนก็เป็นสิว หรือแพ้แอลกอฮอล์ โดยจะมีอาการตัวแดง หน้าแดง ร้อนตามตัว แพ้น้ำตาลฟรักโทสในผลไม้ แพ้กลูเตนในขนมฟัง พาสต้า แพ้คาเฟอีน ซึ่งในบางรายดื่มชา กาแฟแล้วจะปวดหัว เป็นไมเกรน หรือแพ้ monosodium glutamate ที่อยู่ในผงชูรส เป็นต้น
จะรู้ได้อย่างไรว่าเรามีภาวะภูมิแพ้อาหารแฝง
หากเกิดความผิดปกติทางร่างกาย หรือมีอาการตามที่กล่าวมาข้างต้น ให้ลองสังเกตตัวเองดูว่า เกิดจากการกินอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไปหรือเปล่า หรืออาหารบางอย่างที่ไม่ได้กินบ่อยนัก แต่กินทุกครั้งก็มักจะมีอาการแพ้ทุกครั้ง เช่น คนที่มีอาการแพ้อาหารแบบแฝงกับผลิตภัณฑ์นมต่างๆ ซึ่งจะทำให้เป็นสิวอยู่บ่อยๆ เป็นต้น หรือกินอาหารบางชนิดแล้วมักจะท้องอืด ท้องเสียเป็นประจำ หรือมีลมในท้องบ่อยๆ เพราะย่อยได้ไม่ดี ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะแพ้อาหารชนิดนั้นๆ ค่ะ
ทั้งนี้ เราสามารถรู้ผลได้อย่างชัดเจนว่าเราแพ้อาหารชนิดไหน ด้วยการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงกับโรงพยาบาล ซึ่งจะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ เพราะถ้าเราไม่รู้และกินอาหารชนิดนั้นไปเรื่อยๆ อาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้ ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคแพ้ภูมิตนเอง หรือ SLE และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้ด้วย
ภูมิแพ้อาหารแฝง รักษาได้อย่างไร ?
จะเห็นว่าอาการของภูมิแพ้อาหารแบบแฝงนั้นเป็นอาการที่ไม่หนักมาก และไม่เฉียบพลันเหมือนภูมิแพ้อาหารที่ทำให้เกิดการแพ้อย่างรุนแรงและจะต้องนำส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ซึ่งการรักษาภูมิแพ้อาหารแบบแฝงนั้น ทำได้โดยการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่เป็นสาเหตุของการแพ้ประมาณ 3 – 6 เดือน และถ้ากลับมารับประทานอาหารชนิดนั้น ก็จะไม่ทำให้เกิดการแพ้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะสามารถรับประทานได้ ก็ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม หากบริโภคในปริมาณมากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้อีกเช่นกัน
ภูมิแพ้อาหารแบบแฝงนั้น แม้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายแบบฉับพลัน แต่ก็อาจสร้างความรำคาญหรือสร้างความกังวลใจให้กับผู้ที่เป็นได้ อย่างบางคนก็ท้องเสียบ่อยๆ หรือเป็นสิวเรื้อรัง เป็นไมเกรนเรื้อรัง เป็นต้น และถ้าแพ้เป็นเวลานานก็อาจจะกระตุ้นให้เกิดโรคแพ้ภูมิตัวเองได้ด้วย หากใครมีอาการผิดปกติเวลากินอาหารบางชนิดอยู่เป็นประจำ จะเข้ารับการตรวจภาวะภูมิแพ้อาหารแบบแฝงที่โรงพยาบาลก็ได้เช่นกัน เพื่อให้รู้อย่างแน่ชัดว่าตัวเองแพ้อาหารชนิดใด จะได้ระมัดระวังการกินให้มากขึ้น อันจะส่งผลต่อการมีสุขภาพดีในระยะยาวค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : bangkokhospital-chiangrai.com, synphaet.co.th, phyathai.com, medicalnewstoday.com, nhs.uk
Featured Image Credit : freepik.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ