“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
เม็ดแมงลัก แช่กี่นาที ? สรรพคุณ และโทษของเม็ดแมงลักคืออะไร ? บทความนี้มีคำตอบ
เชื่อว่าหลายๆ คนรู้จักเม็ดแมงลักเป็นอย่างดี โดยเฉพาะใครที่ชอบไปกินขนมไทยอย่างรวมมิตรหรือน้ำแข็งใส เม็ดแมงลักก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่มักจะเอาใส่ในขนมหวานต่างๆ โดยทั่วไปแล้วไม่มีรสชาติ แต่ทำให้ขนมหวานถ้วยนั้นๆ มีความหลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ บางคนอาจจะเอามาแช่น้ำดื่มเป็นของว่างระหว่างวันเพราะช่วยให้อยู่ท้องเป็นอย่างดี ทั้งยังให้พลังงานต่ำ สำหรับใครที่อยากจะลองทำดูบ้างก็คงจะมีคำถามว่า เม็ดแมงลัก แช่กี่นาที ? สามารถรับประทานแบบไหนได้บ้าง มีประโยชน์และโทษต่อร่างกายอย่างไร เรามีคำตอบมาให้แล้วค่ะ
เม็ดแมงลัก แช่กี่นาที ? มาดูวิธีการเตรียมเม็ดแมงลัก และสรรพคุณดีๆ ที่มีต่อร่างกายกัน
ก่อนจะไปดูวิธีกินเม็ดแมงลัก เรามารู้จักเม็ดแมงลักให้มากขึ้นกันก่อนค่ะ แมงลักเป็นพืชล้มลุกในสกุลกะเพรา – โหระพา ต้นของแมงลักนั้นจะมีลักษณะคล้ายต้นกะเพรา แต่กลิ่นและใบจะมีสีอ่อนกว่า ซึ่งใบแมงลักนั้นก็นิยมรับประทานเช่นกัน เป็นผักพื้นบ้านที่เอามาใส่ในแกงหรือเอามากินกับลาบ ส่วนเม็ดแมงลักที่เรารู้จักกันนั้น เป็นในส่วนของผลนั่นเองค่ะ นิยมเอามาแช่น้ำและนำไปใส่ในของหวานหรือเครื่องดื่มต่างๆ สำหรับใครที่สงสัยว่า เม็ดแมงลัก แช่กี่นาที โดยทั่วไปแล้วจะแช่เม็ดแมงลักในน้ำสะอาดประมาณ 20 – 30 นาที เพื่อให้เม็ดแมงลักพองตัวเต็มที่ วิธีการเตรียมเม็ดแมงลักทำได้อย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ
- เตรียมเม็ดแมงลัก 2 ช้อนชา แช่กับน้ำเปล่า 1 แก้วใหญ่ แล้วเม็ดแมงลัก แช่กี่นาที ? แนะนำว่าควรแช่ไว้ 20 – 30 นาที จนกว่าจะพองเต็มที่ จึงจะสามารถรับประทานได้
- แช่เม็ดแมงลัก 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำร้อน 1 ถ้วยตวง เป็นเวลา 20 นาที หรือจนกว่าจะพองเต็มที่ หลังจากนั้นสามารถเอาไปผสมในเครื่องดื่ม น้ำเต้าหู้ นมสด หรือของหวานได้ตามต้องการ
เกร็ดสุขภาพ : เม็ดแมงลัก แช่กี่นาที ? โดยทั่วไปแล้วจะแช่ในน้ำสะอาดประมาณ 20 – 30 นาที หรือถ้าเม็ดแมงลักยังไม่พองตัวเต็มที่ ก็สามารถแช่ได้นานถึง 45 นาที ทั้งนี้ เม็ดแมงลัก สรรพคุณ โทษ ไม่ควรกินแบบดิบๆ และควรแช่น้ำให้เม็ดแมงลักพองตัวเต็มที่ก่อน เพราะถ้าไม่พองตัวเต็มที่ หากรับประทานเข้าไปอาจทำให้ท้องผูกและท้องอืดได้ และไม่ควรกินแทนมื้ออาหาร เพราะอาจจะทำให้ขาดสารอาหารได้ ทั้งยังไม่ควรกินเม็ดแมงลักกับยา เพราะจะทำให้ร่างกายดูดซึมยาได้น้อยลงค่ะ
สรรพคุณดีๆ ของเม็ดแมงลัก มีอะไรบ้าง ?
ได้ทราบกันไปแล้วว่า เม็ดแมงลัก แช่กี่นาที ซึ่งก่อนจะรับประทานนั้น จำเป็นจะต้องเอามาแช่น้ำสะอาดก่อนทุกครั้งนะคะ เพื่อป้องกันอาการท้องอืด เมื่อพร้อมใช้แล้วก็สามารถนำไปผสมในขนมหวาน น้ำเต้าหู้ นมสด หรือเครื่องดื่มอื่นๆ ได้ตามต้องการ มาดูกันดีกว่าว่า เม็ดแมงลักมีสรรพคุณดีๆ อะไรบ้าง ซึ่งขอบอกว่าดีต่อร่างกายเลยทีเดียวค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : เมล็ดแมงลักมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ ยังมีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน และใยอาหารอีกด้วย ที่สำคัญคือให้พลังงานต่ำมาก ไม่ทำให้อ้วน จึงดีต่อผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เป็นอาหารว่างที่ทำให้อยู่ท้องและอิ่มนานอีกด้วย
1. ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก
เราทราบไปแล้วว่า เม็ดแมงลัก แช่กี่นาที ซึ่งการแช่เม็ดแมงลักในน้ำสะอาดนั้น จะทำให้พองตัวและมีลักษณะคล้ายเจลลี่ เมื่อบริโภคเข้าไปก็จะเป็นการเพิ่มใยอาหารในสำไส้ ทั้งยังช่วยหล่อลื่นลำไส้ได้ดี ทำให้อุจจาระไม่อุดตันในลำไส้ ช่วยให้ขับถ่ายสะดวกมากขึ้น ใครที่มีปัญหาว่า ท้องผูกต้องกินอะไร แนะนำว่าให้ลองกินเม็ดแมงลักดูค่ะ ขับถ่ายสะดวกขึ้นแน่นอนค่ะ
2. ช่วยลดคอเลสเตอรอล
เม็ดแมงลักมีส่วนช่วยในการขับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (LDL) ออกจากร่างกายได้ เพราะเส้นใยของเม็ดแมงลักช่วยดูดซับไขมันเอาไว้และขับออกจากร่างกายไปพร้อมๆ กัน จึงทำให้ระดับคอเลสเตอรอลลดลง ซึ่งดีต่อหัวใจ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจไปด้วยค่ะ
3. มีสารต้านอนุมูลอิสระ
ในเม็ดแมงลักมีสารประกอบจากพืชที่สำคัญอยู่หลายชนิด เช่น ฟลาโวนอยด์และโพลีฟีนอล เช่นเดียวกับใบแมงลัก สรรพคุณที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเช่นกัน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยปกป้องเซลล์จากสารอนุมูลอิสระที่ทำให้เซลล์เกิดการอักเสบและเสียหาย ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ รวมถึงโรคมะเร็งอีกด้วย
4. ดีต่อสุขภาพผิวของเรา
สารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในเมล็ดแมงลักช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากมลภาวะและแสงแดด อาจช่วยในการรักษาสุขภาพผิว ช่วยลดการอักเสบ และป้องกันริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามวัย
5. มีฤทธิ์เย็น ช่วยดับร้อนในร่างกาย
เมล็ดแมงลักเป็นสมุนไพรฤทธิ์เย็น ช่วยดับร้อนในร่างกายในช่วงที่อากาศร้อนได้ดี ทำให้ร่างกายเย็นลง และมีฤทธิ์เป็นยาธรรมชาติสำหรับผู้ที่มีกรดในกะเพาะอาหารและอาการจุกเสียดเสียดท้อง มักใช้ในการแพทย์อายุรเวชและแพทย์แผนจีนแผนโบราณ
6. อาจช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด
การศึกษาบางชิ้นแนะนำว่าเม็ดแมงลัก สรรพคุณ โทษ อาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วยโรคเบาหวานจำเป็นต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนใช้เป็นอาหารเสริมสำหรับการจัดการโรคเบาหวาน หากบริโภคมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดโทษต่อร่างกายได้ค่ะ
7. ช่วยเรียกน้ำนมได้
สำหรับใครที่เป็นคุณแม่มือใหม่หรือเพิ่งคลอดลูกมาใหม่ๆ การรับประทานเม็ดแมงลักจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมให้กับคุณแม่ได้ และยังช่วยเพิ่มปริมาณสารอาหารในน้ำนมที่คุณแม่ส่งต่อให้ลูกน้อย และยังช่วยแก้อาการน้ำนมคัดได้ด้วย
ข้อควรระวังในการบริโภคเม็ดแมงลัก
- แช่เมล็ดอย่างถูกต้อง: ควรแช่เมล็ดแมงลักในน้ำอย่างน้อย 20 – 30 นาทีก่อนบริโภค ซึ่งจะทำให้เม็ดแมงลักพองตัวเป็นวุ้น ช่วยให้ย่อยง่ายขึ้นและไม่ทำให้ท้องอืดด้วยค่ะ
- บริโภคในปริมาณที่เหมาะสม : แม้ว่าเมล็ดแมงลักจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ ทั้งนี้ เม็ดแมงลัก สรรพคุณ โทษ หากบริโภคมากเกินไปก็อาจทำให้ท้องอืดหรือท้องเสียได้ค่ะ
- อาการแพ้ : หากบางคนมีอาการแพ้พืชในตระกูลกะเพรา ก็อาจมีโอกาสแพ้เม็ดแมงลักหรือใบแมงลักได้เช่นกัน ควรรับประทานทีละน้อยๆ และสังเกตร่างกายตัวเอง หากมีความผิดปกติใดๆ ให้รีบปรึกษาแพทย์ค่ะ
- อาจดูดซึมน้ำจากร่างกาย : เนื่องจากเม็ดแมงลักจะดูดน้ำเพื่อให้เกิดการพองตัว หากบริโภคมากไปก็อาจทำให้เม็ดแมงลักดูดซึมน้ำจากในร่างกายของเราไปด้วย ดังนั้น หากกินเม็ดแมงลักก็ควรดื่มน้ำตามมากๆ เพื่อลดการสูญเสียน้ำค่ะ
แม้ว่าเม็ดแมงลักจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพแต่ก็ไม่ควรรับประทานมากเกินไป หรือกินแทนมื้ออาหาร เพราะอาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ นอกจากนี้ การเลือกซื้อเม็ดแมงลักก็สำคัญ ควรเลือกซื้อเม็ดแมงลักที่มีบรรจุภัณฑ์ปิดมิดชิด มีความสะอาดได้มาตรฐาน เพราะอาจมีการปนเปื้อนของฝุ่น เชื้อรา และสารพิษได้ และในผู้ที่รักสุขภาพ ต้องการจะควบคุมปริมาณน้ำตาลหรือควบคุมน้ำหนัก อาจเลือกรับประทานเม็ดแมงลักกับน้ำสมุนไพรที่ไม่เติมน้ำตาล น้ำเต้าหู้หวานน้อย นมสดไม่หวาน หรือเครื่องดื่มอื่นๆ ที่มีน้ำตาลต่ำ ควรหลีกเลี่ยงการกินเม็ดแมงลักกับของหวานต่างๆ เพราะอาจจะทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไปซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : inmu2.mahidol.ac.th, mgronline.com, vichaiyut.com
Featured Image Credit : vecteezy.com/Ika Rahma
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ