“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
7 วิธีการวิ่งที่ถูกต้อง วิ่งยังไงให้เหนื่อยน้อย ไม่บาดเจ็บ
หลายคนเริ่มเขาสู่วงการวิ่ง ไม่ว่าจะวิ่งลดน้ำหนัก หรือวิ่งเพื่อสุขภาพก็ตาม แต่อาจจะรู้สึกว่าทำไมยิ่งวิ่งยิ่งเหนื่อย ปวดเมื่อยอีกต่างหาก หรือเราจะวิ่งไม่ถูกวิธีกันนะ ? จริงๆ แล้วการปรับปรุงวิธีการวิ่งของตัวเองสามารถช่วยให้วิ่งได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพขึ้น และรู้สึกสบายขึ้นได้ ทั้งยังช่วยลดความเครียดในร่างกายและลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บอีกด้วย หากเราวิ่งอย่างถูกวิธีและเหมาะสมจะช่วยลดความเหนื่อยล้า และช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการวิ่ง เพราะฉะนั้น มาดู วิธีการวิ่งที่ถูกต้อง ที่สามารถนำไปทำตาม เพื่อให้การวิ่งของคุณสมบูรณ์แบบกันค่ะ
7 วิธีการวิ่งที่ถูกต้อง เทคนิคดีๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง
การเรียนรู้รูปแบบวิธีการวิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสมนั้นมีประโยชน์อย่างมาก ไม่ว่าคุณจะเป็นนักวิ่งมือสมัครเล่น หรือเป็นนักแข่งก็ตาม การเรียนรู้รูปแบบการวิ่งนั้นไม่เพียงแต่จะช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ แต่ยังอาจนำไปสู่การวิ่งอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย และเพื่อเอาใจสายวิ่ง เรามาดูเทคนิคดีๆ นี้กันเลยค่ะ
1. มองไปข้างหน้า
วิธีการวิ่งที่ถูกต้องนั้น ให้มองตรงไปข้างหน้า และอย่าก้มมองที่เท้า ควรเพ่งไปที่พื้นข้างหน้าประมาณ 3 – 6 เมตร การมองตรงไปข้างหน้านั้นไม่เพียงแต่เป็นรูปแบบการวิ่งที่เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่ปลอดภัยในการวิ่งอีกด้วย เพราะสามารถเห็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นข้างหน้าและหลบเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้ทัน และหลีกเลี่ยงการล้มได้ ทั้งนี้ อย่ายื่นคอไปข้างหน้าขณะวิ่งเพราะจะทำให้กล้ามเนื้อคอและไหล่เกร็ง แต่ควรใช้ทั้งลำตัวส่วนบนโน้มไปข้างหน้าเล็กน้อย เพราะจะทำให้การเคลื่อนไหวทำได้สะดวกรวดเร็วมากกว่าการแอ่นไปข้างหลัง
2. แกว่งแขน และวางมือไว้ที่ระดับเอว
วิธีการวิ่งคือ พยายามให้มืออยู่ที่ระดับเอว และแขนควรงอเป็นมุม 90 องศา ผู้ที่เริ่มต้นวิ่งบางคนมักจะยกมือขึ้นมาที่ระดับหน้าอก ซึ่งวิธีการวิ่งแบบนี้อาจทำให้รู้สึกเหนื่อยมากขึ้น และจะเริ่มรู้สึกตึงที่ไหล่และคอ รวมถึงควรแกว่งแขนไปข้างหน้าและข้างหลังอย่างเป็นธรรมชาติ และอย่าให้แขนโดนลำตัว
3. ผ่อนคลายมือ
ในขณะที่วิ่ง วิธีการวิ่งที่ถูกต้องคือแขนและมือจะต้องผ่อนคลายมากที่สุด หลีกเลี่ยงการกำมือให้เป็นหมัด หากคุณกำลังกำมือ ความตึงของกล้ามเนื้อจะส่งไปที่ไหล่และคอ ทำให้รู้สึกเมื่อยได้ ดังนั้น ควรผ่อนคลายมือด้วยการกำมือหลวมๆ จะทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ไม่เกร็ง และรู้สึกสบายขณะวิ่งมากยิ่งขึ้น
เกร็ดสุขภาพ : สิ่งสำคัญในการวิ่งคือ การทำท่ายืดก่อนวิ่ง เพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อ เพิ่มความแข็งแรง การทรงตัว และความมั่นคง และยังช่วยลดโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บด้วยค่ะ
4. จังหวะการวิ่ง
วิธีการวิ่งที่ถูกต้องนั้น สิ่งสำคัญคือต้องหาระยะก้าวที่ไม่ยาวเกินไปและไม่สั้นจนเกินไป อาจทำได้โดยการใช้วิธีการนับก้าวต่อนาที สำหรับนักวิ่งระยะไกล นักวิ่งเร็วและนักวิ่งที่วิ่งอย่างมีประสิทธิภาพจะมีก้าวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 180 ก้าวต่อนาที ในขณะนักวิ่งที่วิ่งช้าจะมีจำนวนก้าวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 160 ก้าวต่อนาที
5. วางเท้าให้ถูกต้อง
วิธีการวิ่งที่ลงเท้าแบบถูกต้อง จะแตกต่างกันไปตามความเร็วที่ต้องการ แต่ถ้าเป็นการวิ่งออกกำลังเพื่อสุขภาพทั่วไป หรือการวิ่ง Jogging ตำแหน่งการวางเท้าที่เหมาะสมคือ ส้นเท้าควรจะสัมผัสพื้นก่อน จากนั้นจึงค่อยวางฝ่าเท้าและปลายเท้าตามลงมา พร้อมๆ กับการส่งตัวให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า ขณะเดียวกัน ส้นเท้าจะยกขึ้น ตามด้วยการงอเข่านิดๆ และไม่ควรยกเข่าสูงเกินไป เพื่อสุขภาพที่ดีของข้อเข่าและข้อเท้านั่นเองค่ะ
6. อย่าบิดตัวมากเกินไป
การวิ่งเป็นการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเป็นเส้นตรง แม้ว่าการเคลื่อนไหวร่างกายในแต่ละข้อต่อและส่วนต่างๆ จะต้องหมุนเพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง แต่ร่างกายก็ไม่ควรบิดหรือหมุนจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งมากเกินไป เพราะจะทำให้เสียพลังงาน เสียการทรงตัว และทำให้การวิ่งไม่มีประสิทธิภาพ
7. กำหนดลมหายใจ
ร่างกายของเราจะใช้ออกซิเจนเป็นเชื้อเพลิงในขณะที่วิ่ง การหายใจให้ยาวขึ้น ช้าลง และลึกขึ้น จะช่วยเติมออกซิเจนให้กับร่างกาย วิธีการวิ่งที่ถูกต้องคือ หายใจเข้าทางจมูก และหายใจออกทางปาก ซึ่งจัดว่าเป็นวิธีหายใจขณะวิ่งที่มีประสิทธิภาพ การหายใจให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในเทคนิคการวิ่ง และควรได้รับการฝึกฝน
เกร็ดสุขภาพ : เพื่อหลีกเลี่ยงจากอาการบาดเจ็บ ควรหยุดพักเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมหากคุณมีอาการปวดกล้ามเนื้อหรือได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกิดซ้ำหรือเป็นเวลานาน และควรสวมรองเท้าวิ่งที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงรองเท้าที่กันกระแทกมากเกินไป และควรเปลี่ยนรองเท้าบ่อยๆ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากรองเท้าที่สึกหรอด้วยค่ะ
การรักษาฟอร์มการวิ่งที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ได้ผลในระยะยาว ด้วยวิธีการวิ่งที่ถูกต้องทั้งหมดนี้ ทั้งท่ายืนตรง ระยะก้าวย่าง การแกว่งแขนอย่างแข็งแรง และการหายใจที่ถูกต้อง หากมีการพัฒนาและฝึกฝนบ่อยๆ นั้น ก็จะทำให้คุณเข้าใจวิธีการวิ่งได้อย่างถูกต้องมากขึ้น นอกจากจะช่วยให้การวิ่งมีประสิทธิภาพแล้ว ยังทำให้คุณวิ่งแบบสบายมากขึ้น เหนื่อยน้อยลง และไม่บาดเจ็บ ใครที่รักในการวิ่งก็ลองนำเอาเทคนิควิธีเหล่านี้ไปฝึกฝนและปรับปรุงกันดูนะคะ เพื่อจะได้เพลิดเพลินไปกับการวิ่งออกกำลังกายของคุณค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : kinetic-revolution.com, greatist.com, verywellfit.com, shape.com
Featured Image Credit : freepik.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ