“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
แพ้ยุง ตุ่มใส เป็นอะไรหรือเปล่า ? ชวนสังเกตอาการแพ้ยุง พร้อมวิธีดูแลตัวเองกัน !
โดนยุงกัดกันบ่อยมั้ยคะ ? แล้วเวลาโดนยุงกัด ทำยังไงกันบ้าง ? บางคนก็ปล่อยๆ ไป บางคนก็หายามาทา บางคนก็ใช้เล็บจิกเป็นกากบาท สำหรับใครที่โดนยุงกัดแล้วเกิดอาการคันเฉยๆ พอทายาก็หายก็อาจจะไม่เป็นกังวลอะไร แต่ก็จะมีบางคนที่เกิดอาการแพ้ยุงขึ้นมา บางคมบวมแดง บางคนเป็นตุ่มใส ในบทความนี้ เพื่อสุขภาพก็เลยอยากจะมานำเสนอเรื่องแพ้ยุง อาการต่างๆ พร้อมวิธีการจัดการให้ทุกคนดูแลสุขภาพได้ดีมากขึ้นไปกว่าเดิมกันค่ะ
แพ้ยุง อาการเป็นยังไง ? แพ้ยุง ตุ่มใส เป็นอะไรหรือเปล่า หาคำตอบกัน !
แพ้ยุง (mosquito allergy) คือ ปฏิกิริยาภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นจากการถูกยุงกัด โดยมีสาเหตุมาจากน้ำลายของยุงที่ฉีดเข้าสู่ร่างกายในขณะที่ยุงกัดดูดเลือด ซึ่งจะทำให้เกิดอาการคัน และปวดบวมแดงไปจนถึงเป็นลม เจ็บหน้าอก หายใจลำบากจนช็อกกันเลยทีเดียว แพ้ยุง อาการเป็นยังไงบ้าง ตามมาทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ
ยุงกัด ทำไมถึงคัน ?
เมื่อถูกยุงกัด เราจะรู้สึกคันและมีอาการบวมแดงบริเวณที่ถูกกัด ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการคันนั้นเกิดจากปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันของร่างกาย ได้แก่
- น้ำลายยุงมีสารก่อภูมิแพ้ เมื่อยุงฉีดน้ำลายผสมกับเอนไซม์ลงในร่างกายขณะกัดหรือดูดเลือด ร่างกายจะตอบสนองโดยปล่อยสารฮิสตามีน ทำให้เกิดการบวมแดงและคัน
- สารก่อภูมิแพ้ในน้ำลายยุง จะกระตุ้นให้เกิดการหลั่งสารประสาทส่งผ่านประสาทรับความรู้สึก ทำให้เส้นประสาทในผิวหนังส่งสัญญาณคันไปยังสมอง
- ผู้ที่เคยถูกยุงกัดมาก่อน ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันไว้รับมือกับน้ำลายยุง ทำให้การตอบสนองต่อการกัดครั้งต่อไปมีอาการรุนแรงขึ้น
ดังนั้น อาการคันจากการถูกยุงกัด เป็นผลจากกลไกการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันเพื่อต่อต้านสารแปลกปลอมที่ยุงนำเข้ามา ตัวยุงกัดไม่เจ็บปวด แต่ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นกลับทำให้เกิดอาการคันรบกวนได้นั่นเอง
เกร็ดสุขภาพ : ยุงตัวร้ายมีทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่ ยุงลาย ที่เรารู้จักกันดี ที่เป็นพาหะของโรคไข้เลือดออก ยุงรำคาญ เป็นพาหะของโรคเท้าช้าง และโรคไข้สมองอักเสบ ยุงลายเสือ เป็นพาหะของโรคเท้าช้าง และยุงก้นปล่อง ซึ่งเป็นพาหะของไข้มาลาเรีย
น้ำลายยุง ทำให้คันจริงหรอ ?
ถูกต้อง น้ำลายของยุงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการคันหลังจากถูกยุงกัด ซึ่งเหตุผลที่น้ำลายยุงก่อให้เกิดอาการคัน มีดังนี้ค่ะ
- น้ำลายยุงประกอบด้วยสารเคมีหลายชนิด เช่น เอนไซม์และสารก่อภูมิแพ้ ร่างกายจะตอบสนองโดยการหลั่งสารฮิสตามีน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการบวม แดง และคันบริเวณที่ถูกกัด
- สารโปรตีนบางชนิดในน้ำลายยุง จะกระตุ้นการหลั่งสารเคมีอย่าง ซึ่งนำไปสู่อาการคันรุนแรง
- น้ำลายยุงมีฤทธิ์ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด และขยายหลอดเลือด เพื่อให้ยุงกัดและดูดเลือดได้สะดวก แต่กลไกนี้กลับกระตุ้นให้เกิดอาการบวมและคัน
- ในผู้ที่เคยถูกยุงกัดมาก่อน ร่างกายจะสร้างแอนติบอดี้สะสมไว้ เมื่อถูกยุงกัดอีก จะเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้รุนแรงมากขึ้น ทำให้คันมากขึ้น
แพ้ยุง อาการ มีกี่แบบ ?
อาการแพ้ยุง สามารถแบ่งได้เป็น 3 แบบหลัก ตามระดับความรุนแรงของอาการ ดังนี้
- แพ้ยุงระดับเล็กน้อย (Mild Mosquito Allergy) : มีอาการบวม แดง คัน เฉพาะบริเวณที่ถูกยุงกัดเท่านั้น ซึ่งอาการจะไม่รุนแรงมากนัก และอาจหายเองได้ในไม่กี่วัน
- แพ้ยุงระดับปานกลาง (Moderate Mosquito Allergy) : แพ้ยุง อาการในแบบนี้จะมีผื่นแดง บวม คัน กระจายไปทั่วร่างกาย แม้ไม่ได้ถูกกัดบริเวณนั้นก็ตามอาจมีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ต้องรักษาด้วยยาแก้แพ้ จึงจะทุเลาอาการลงได้
- แพ้ยุงระดับรุนแรง (Severe Mosquito Allergy) : เป็นภาวะแพ้รุนแรง หรือที่เรียกว่า “Skeeter Syndrome” จะมีอาการแพ้ยุง ตุ่มใส มีอาการตุ่มพองน้ำ ลามไปทั่วร่างกาย มีไข้สูง บางรายรุนแรงถึงขั้นช็อก แพ้ยุง อาการแบบนี้ต้องรักษาด้วยยากดภูมิแพ้ ซึ่งแพทย์อาจให้รับประทานระยะยาว
ขยายความเพิ่มเติมในกรณีที่แพ้ยุง ตุ่มใสเกิดขึ้นหลังจากถูกยุงกัดซึ่งเป็นอาการของ “ผื่นจากการแพ้ยุง” หรือ “สิว-ผื่นจากยุง” (skeeter syndrome) ซึ่งเป็นปฏิกิริยาภูมิแพ้รุนแรงที่พบได้บ่อยในผู้ที่แพ้ยุง โดยลักษณะของตุ่มใสที่เกิดจากการแพ้ยุงนั้น มีดังนี้
- แพ้ยุง เป็นตุ่มนูนใส บวมแดง คล้ายสิวน้ำ หรือผื่นพุพองน้ำ ขนาดตั้งแต่เล็กจนถึงใหญ่กว่า 1 นิ้ว
- ตุ่มจะเริ่มขึ้นหลังจากถูกยุงกัดประมาณ 4-6 ชั่วโมง บางรายอาจรุนแรงถึงขั้นมีไข้ร่วมด้วย
- อาการแพ้ยุง ตุ่มใสเหล่านี้มักจะคัน และแห้งเป็นสะเก็ดหลังจากนั้น
- อาจพบตุ่มกระจายไปทั่วร่างกาย ไม่เพียงแค่บริเวณที่ยุงกัดเท่านั้น
- อาการแพ้ยุง ตุ่มใสจะค่อยๆ ดีขึ้นในระยะ 2-3 สัปดาห์ แต่อาจหลงเหลือผื่นนูนแดงบางส่วน
ตุ่มใสดังกล่าวเกิดจากปฏิกิริยาภูมิแพ้รุนแรงต่อน้ำลายของยุง ผู้ป่วยอาจต้องรับประทานยาแก้แพ้หรือยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ เพื่อบรรเทาอาการ และควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการมากจนทำกิจวัตรประจำวันไม่ได้
จัดการยังไง เมื่อมีอาการแพ้ยุง ?
หากว่าคุณเข้าข่ายว่ามีอาการแพ้ยุง มีวิธีการจัดการและบรรเทาอาการ ยังไงบ้าง ลองมาดูกันต่อค่ะ
- หลีกเลี่ยงการถูกยุงกัด โดยใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันยุง เช่น สเปย์นนวด ครีมกันยุง หรือแผ่นกันยุงติดเสื้อผ้า
- หลังถูกยุงกัด ให้ล้างบริเวณนั้นด้วยน้ำสบู่อุ่น เพื่อกำจัดน้ำลายยุงที่อาจตกค้างและลดการระคายเคือง
- ทายาแก้แพ้ที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ที่จะช่วยลดอาการบวม แดง คัน เช่น ยาทากอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดละลายได้ในน้ำ
- รับประทานยาแก้แพ้ เพื่อให้ช่วยบรรเทาอาการได้ระดับหนึ่ง เช่น ยาคลอร์เฟนิรามีน
- พักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากความเครียด และการนอนไม่พอจะทำให้อาการภูมิแพ้แย่ลง
- ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ เพราะหากร่างกายขาดน้ำแล้ว จะกระตุ้นทำให้อาการภูมิแพ้รุนแรงขึ้น
- หากมีอาการรุนแรงอื่นๆ เช่น หายใจลำบาก เป็นลม ให้รีบพบแพทย์ทันที เพื่อได้รับการฉีดยากดภูมิคุ้มกันหรือฮอร์โมนสเตียรอยด์เข้าหลอดเลือด
เกร็ดสุขภาพ : ยุงกัด คันไม่หาย ทำยังไงดี ? เริ่มจากอย่าเกา ให้ล้างด้วยน้ำสบู่แทนเพื่อลดการระคายเคือง หรือหาน้ำแข็งประคบก็สามารถบรรเทาอาการคันได้เช่นกันค่ะ นอกจากนี้ยังใช้พวกน้ำมันหอมระเหย ยาหม่องต่างๆ ทาบรรเทาอาการได้เช่นกัน
สมุนไพรไล่ยุง มีอะไรบ้าง ?
มีสมุนไพรหลายชนิดที่สามารถใช้ไล่ยุงได้ จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันค่ะ
- กานพลู : เป็นสมุนไพรยอดนิยม มีฤทธิ์ไล่แมลง กลิ่นฉุนช่วยไล่ยุงได้ดี สามารถนำใบสดมาต้มดม หรือใช้น้ำมันหอมระเหยมาพรมที่นอนก็ได้
- กระเจี๊ยบแดง : มีสารไพรีทรินส์ออกฤทธิ์ไล่ยุง สามารถนำมาต้มน้ำพรมตามมุมห้องได้
- มะนาว : สารจากผิวมะนาวมีฤทธิ์ไล่ และป้องกันยุง สามารถนำมาคั้นแล้วเอาน้ำมะนาวมาทาผิวหนังได้
- ตะไคร้หอม : สารจากต้นตะไคร้ที่มีกลิ่นฉุนไล่ยุง สามารถนำมาต้มน้ำพรมบริเวณรอบบ้านได้
- สะระแหน่ : มีกลิ่นฉุนและมีฤทธิ์ป้องกันยุงได้ดี สามารถนำใบสดมาทุบพอแหลกแล้วนำไปวางในบริเวณที่ยุงชุมได้
- โหระพา : มีสารเคมีในธรรมชาติไล่ยุง สามารถต้มน้ำหรือนำไปผสมน้ำมันไล่ยุง
- พริกไทย : พริกไทยดิบสามารถนำมาปั่นผสมน้ำเป็นน้ำพ่นไล่ยุงได้
- ขิง : มีสารไล่ยุงได้ดี สามารถนำมาชง หรือต้มน้ำไล่ยุง
สมุนไพรเหล่านี้มีกลิ่นฉุนและสารสกัดไล่ยุงตามธรรมชาติ สามารถนำมาใช้ได้ตามความเหมาะสม เพื่อป้องกันและกำจัดยุง สำหรับใครที่สนใจสมุนไพรไล่ยุง วิธีทำใช้เองเพิ่มเติม ลองอ่านเพิ่มได้เลยนะคะ
แพ้ยุง ตุ่มใส เป็นอาการแพ้ยุงระดับรุนแรง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาแก้แพ้ หลีกเลี่ยงการถูกยุงกัด ป้องกันตัวเองด้วยการทาโลชั่นกันยุง สวมใส่เสื้อผ้าสีไม่เข้มจะได้ไม่ดึงดูดยุง อยู่ในที่ไม่มืด การป้องกันเบื้องต้นเหล่านี้จะช่วยคุณลดความเสี่ยงจากการถูกยุงกัดได้ค่ะ
Featured Image Credit : vecteezy.com/nugrahithaadit
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ