“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
น้ำเหลืองไม่ดี รักษายังไง ? เกิดจากอะไร ? ดูแลตัวเองได้ยังไงได้บ้าง มาอ่านกัน !
มีใครที่เป็นแผลง่าย เวลาโดนแมลงกัดต่อยบ้างไหมคะ ? ไม่ว่าจะเป็นยุงกัด หรือโดนแมลงชนิดอื่นๆ กัดตามผิวหนังแล้วเกิดเป็นตุ่มแผล บ้างก็มีอาการบวม คัน เป็นรอยอย่างชัดเจน และถึงแม้แผลจะหายดีแล้วก็ยังทิ้งรอยแผลเป็นไว้อยู่ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรอยดำตามผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณแขน ขา ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจน โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับเด็กๆ เนื่องจากมีผิวบอบบาง แต่ผู้ใหญ่บางคนก็มีอาการแบบนี้อยู่ และมักจะบอกว่าเป็นแบบนี้เพราะน้ำเหลืองไม่ดี น้ำเหลืองเสีย ว่าแต่ น้ำเหลืองไม่ดีคืออะไร ? น้ำเหลืองไม่ดี รักษายังไง ? มาทำความเข้าใจให้มากขึ้นกันค่ะ
น้ำเหลืองไม่ดี คืออะไร ? น้ำเหลืองไม่ดี รักษายังไง ? ชวนทำความเข้าใจให้มากขึ้น
ในคนที่มีผิวบอบบาง มีผิวแพ้ง่าย ไม่ว่าจะอยู่ในวัยเด็กหรือวัยผู้ใหญ่ เมื่อเจอแมลงสัตว์กัดต่อยก็มักจะเกิดอาการแพ้ เป็นผื่นแดง บ้างก็มีอาการบวม คัน และใช้เวลานานกว่าจะหาย บางคนก็เป็นเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ มีตุ่มเป็นหนอง แผลแห้งช้า ผิวหนังไวต่อพิษและเกิดการลุกลามได้ง่าย และเมื่อแผลหายแล้วก็ทิ้งรอยแผลเป็นเป็นรอยดำๆ เอาไว้ ทำให้สีผิวดูไม่สม่ำเสมอกัน เป็นรอยกระด่างกระดำ และอาจสร้างความไม่มั่นใจให้กับผู้ที่เป็นได้ โดยเฉพาะในคุณสาวๆ ซึ่งอาการแบบนี้ มักจะเรียกกันว่า เป็นโรคน้ำเหลืองไม่ดี หรือน้ำเหลืองเสียนั่นเอง
แต่ทราบมั้ยคะว่า ในทางการแพทย์แล้ว โรคน้ำเหลืองไม่ดีไม่มีอยู่ในทางการแพทย์ แต่เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง หรือเรียกว่า Impetigo ซึ่งเกิดจากแบคทีเรียที่ชื่อว่า Staphylococcus aureus และ Streptococcus pyogenes ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่การลุกลามและการเกิดโรคอย่างเรื้อรังในแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาแต่ละราย ทั้งนี้ ก็มักจะคุ้นหูกันในชื่อโรคน้ำเหลืองไม่ดี แล้วอาการน้ำเหลืองไม่ดี รักษายังไงได้บ้าง ? ไปดูกันต่อเลยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง เกิดจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคที่อยู่ตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งคนๆ นั้นอาจเดินผ่านหรือสัมผัส เช่น อยู่ตามพงหญ้า หนองน้ำ บ่อโคลน ในทราย อยู่ในสนามเด็กเล่น มาจากแมลงบางชนิด หรืออาจอยู่ตามลานซักล้างในบ้านของเรา ซึ่งยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ในชีวิตประจำวัน และถ้าติดเชื้อแบคทีเรีย ก็ทำให้ผิวหนังอักเสบและเกิดอาการแพ้ได้นั่นเอง
อาการของโรคน้ำเหลืองไม่ดี เป็นยังไง ?
เพื่อไม่ใช้เกิดความสับสนกับโรคผื่นผิวหนังแบบอื่นๆ เช่น โรค 4s ที่มักพบบ่อยในเด็กๆ เช่นเดียวกัน เรามาดูกันดีกว่าว่า อาการของภาวะติดเชื้อแบคทีเรีย Impetigo หรือที่เรียกกันคุ้นปากว่าโรคน้ำเหลืองไม่ดี เป็นอย่างไร จะได้เอาไปสังเกตตัวเอง หรือเอาไปสังเกตลูกๆ หลานๆ กันได้
- เป็นตุ่ม ผื่นแดง และบวมที่บริเวณผิวหนัง เมื่อโดนแมลงสัตว์กัดต่อยจะเป็นตุ่มคันขนาดใหญ่ หรือเป็นผื่นแดงลุกลาม
- แผลมีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เกิดแผลบริเวณรอบๆ ได้โดยง่าย
- มีอาการปวด รู้สึกเจ็บ หรือคัน และมีอาการรุนแรงขึ้น
- ตุ่มหรือผื่นคันมีอาการบวมตามมา อาจรู้สึกปวดแผลได้ในบางคน ถ้าเกาแรงๆ อาจเกิดการอักเสบที่ผิวหนังได้
- บางคนมีของเหลวไหลออกจากแผล และกลายเป็นสะเก็ดสีเหลืองปกคลุมแผลเอาไว้
- แผลหายช้า เป็นแผลนาน
- ทำให้เป็นแผลเป็นถาวร และสีผิวบริเวณแผลเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น มีสีคล้ำขึ้น สีเข้มขึ้น เกิดเป็นรอยดำ เป็นต้น
ปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคน้ำเหลืองไม่ดี มีอะไรบ้าง
- อายุ การติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้พบได้บ่อยในเด็กที่มีอายุระหว่าง 2 – 5 ปี
- การสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด การติดเชื้อแบคทีเรียเกิดขึ้นได้ง่ายในสถานที่แออัด เช่น ในโรงเรียนและศูนย์เด็กเล็ก หรือการเล่นกีฬาที่ต้องสัมผัสตัวกัน
- สภาพอาการที่ร้อนชื้น ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
- ผิวหนังเกิดแผลบ่อยๆ เช่น โดนแมลงกัดบ่อยๆ หรือมีผดผื่นคัน ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ผิวหนังได้ง่าย
- มีปัญหาทางสุขภาพอื่นๆ อาทิ เป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนัง กลาก เกลื้อน รวมถึงผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน หรือผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอก็เสี่ยงที่จะติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย และมีอาการทางผิวหนังตามมา
น้ำเหลืองไม่ดี รักษายังไง ?
น้ำเหลืองไม่ดี แท้จริงแล้วเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังและมีการอีกเสบเกินขึ้น เพราะฉะนั้น ในการรักษา แพทย์อาจสั่งยาปฏิชีวนะเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย หากใครมีสะเก็ดแผลอยู่ ควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดสะเก็ดแผลออกให้หมดก่อน เพื่อให้ยาซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดียิ่งขึ้น และปิดแผลด้วยผ้าก๊อชเพื่อป้องกันการติดเชื้อเพิ่มเติม และถ้าหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 – 3 วัน แพทย์อาจให้รับประทานยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดเชื้อภายในร่างกาย ซึ่งผู้ป่วยจะต้องรับประทานยาติดต่อกันจนหมด และรับประทานยาตามที่หมอสั่งอย่างต่อเนื่องแม้ว่าแผลจะหายดีแล้ว เพื่อป้องกันการดื้อยานั่นเองค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : น้้ำเหลืองไม่ดี รักษายังไงให้แผลหายไว ? สิ่งสำคัญในการรักษาโรคนี้คือ การดูแลรักษาความสะอาด ควรตัดเล็บให้สั้น ดูแลร่างกายให้สะอาดสะอ้าน อาบน้ำเป็นประจำทุกวัน ไม่แคะแกะเกาแผล เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบและหายช้ากว่าเดิม นอกจากนี้ ควรทำความสะอาดแผลเป็นประจำด้วยการถูสบู่และเปิดน้ำไหลผ่าน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อที่รุนแรงขึ้น ทั้งนี้ หากแผลไม่รุนแรงอาจใช้ยาฆ่าเชื้อเฉพาะที่ ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป เช่น มิวพิโรซิน (Muprirocin) และปิดแผลด้วยผ้าก๊อซเพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าไป
น้ำเหลืองไม่ดี รักษายังไงได้อีกบ้าง ชวนดูวิธีดูแลตัวเองที่ทำตามได้ไม่ยาก
น้ำเหลืองไม่ดี รักษายังไงในทางการแพทย์ก็ได้ทราบกันไปแล้ว ใครมีอาการดังกล่าวก็ไม่ต้องกังวลใจไป แม้จะสร้างความไม่สบายตัวให้กับผู้ที่เป็น แต่ก็ไม่ใช่โรครุนแรง สามารถรักษาได้ ทั้งนี้ เราสามารถดูแลตัวเองได้อย่างไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
- อาบน้ำเป็นประจำทุกเช้าเย็นเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคที่อยู่ตามผิวหนัง ถูสบู่ให้สะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ ตัดเล็บให้สั้น หลีกเลี่ยงการเกาตามบริเวณแผล เพราะอาจทำให้แผลลุกลามได้
- หากเป็นตุ่มคันธรรมดาๆ อาจใช้ยาหม่องหรือบาล์มแก้ผื่นคันทาบริเวณผิวหนังเพื่อบรรเทาอาการคันได้
- ซักเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว และผ้าปูที่นอนด้วยน้ำร้อนทุกวัน เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่อาจจะเกาะอยู่ตามเสื้อผ้าและของใช้
- สวมถุงมือก่อนทายาปฎิชีวนะที่แผล หรือใช้สำลี คอตตอนบัด หลีกเลี่ยงการเอามือสัมผัสบริเวณแผลโดยตรง และล้างมือให้สะอาดทั้งก่อนและหลังทายาทุกครั้ง
- ทายาและรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
โรคน้ำเหลืองไม่ดี คืออะไร โรคน้ำเหลืองไม่ดี รักษายังไง ? ตอนนี้ก็ได้ทราบกันไปแล้วนะคะ แท้จริงแล้วโรคนี้คือการติดเชื้อจากแบคทีเรียที่อาจอยู่ตามพงหญ้า พื้นดิน หรือมากับแมลง เมื่อสัมผัสโดนผิวหนังของเราก็ทำให้เกิดแผลเป็นตุ่ม เป็นผื่นคันตามมาได้ ถ้าไม่รักษาให้ดีก็อาจทิ้งแผลเป็นไว้ในระยะยาว นอกจากการดูแลความสะอาดอย่างสม่ำเสมอแล้ว ในผู้ที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ก็ควรมีวิธีสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง เช่น กินอาหารเสริมภูมิต้านทาน นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ และออกกำลังกายเป็นประจำ จะได้ไม่ป่วยง่าย หากดูแลตัวเองดีๆ ป้องกันแมลงสัตว์กัดต่อย และรักษาความสะอาดบริเวณผิวหนังเป็นประจำ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียได้ค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : paolohospital.com, mayoclinic.org, my.clevelandclinic.org, cdc.gov
Featured Image Credit : freepik.com/marinademidiuk
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ
