X

แพทย์เผยคนอายุน้อยเสี่ยงเป็น “หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น” มากขึ้น

เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡

แพทย์เผยคนอายุน้อยเสี่ยงเป็น “หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น” มากขึ้น

แพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังเตือน วัยทำงานมีความเสี่ยงเป็น “หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น” พบอายุน้อยที่สุด 24 ปี แนะรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยให้ตรงจุด หากรักษาช้าเสี่ยงพิการได้

หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น
Image Credit : freepik.com

นพ.ณฐพล ลิตติรานนท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ เผยว่า จากประสบการณ์การรักษาผู้ป่วยที่มีอาการหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น ตั้งแต่ปี 2560 ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีอายุประมาณ 50 ปีขึ้นไป และจะมาด้วยอาการปวดหลังร้าวลงขา ชาและอ่อนแรงร่วมด้วย หากเปรียบเทียบกับในช่วงปัจจุบัน ผู้ป่วยกลุ่มผู้สูงวัยยังมีจำนวนเท่าเดิม แต่ในทางกลับกันพบว่า กลุ่มคนที่มีอายุน้อยลงกลับมีอาการเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น

ขายยกลัง! Lifree ไลฟ์รี่ ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ กางเกงซึมซับสบาย ไซส์ L (18 ชิ้น) จำนวน 3+1 ห่อ (รวม 4 ห่อ)

ส่วนสาเหตุที่พบในกลุ่มคนวัยทำงานหรือกลุ่มคนที่มีอายุน้อย ที่เริ่มเป็นโรค หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น มากขึ้นเพราะ ผู้ป่วยในกลุ่มนี้มักจะทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น ยกของหนัก ,นั่งนาน ,ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ หรือก้มตัวยกของ

นพ.ณฐพล ยังเผยอีกว่าหมอนรองกระดูกปลิ้นกดทับเส้นประสาท หรือหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท เกิดจากหมอนรองกระดูกที่อยู่ระหว่างกระดูกทั้ง 2 ข้อ ปลิ้นออกมากดทับเส้นประสาทไขสันหลัง ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกปวดคอหรือหลัง หากมีการกดทับมากอาจเสี่ยงต่อความพิการได้ ส่วนอาการที่พบได้บ่อยคือ ปวดคอ ปวดหลังส่วนล่าง ปวดบริเวณก้น หรือสะโพกร้าวลงขา (บริเวณเส้นประสาทไซแอ็ททิค Sciatic nerve ซึ่งเป็นเส้นประสาทที่ยาวที่สุดในร่างกายของมนุษย์)  ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการชา หรือเสียวเหมือนไฟช็อต ร้าวลงขา หรือแขน ข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง ส่งผลให้ขณะก้มยกของหรือทรงตัวมีปัญหา หากเส้นประสาทถูกกดทับเป็นเวลานานจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง รวมถึงระบบขับถ่ายมีปัญหา

หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น

อย่างไรก็ตามการรักษาผู้ป่วยหมอนรองกระดูกปลิ้นในกลุ่มคนที่อายุน้อย นพ.ณฐพล ยังเผยอีกว่า เมื่อผู้ป่วยมีอาการปวดหลังและหากรับประทานยาแก้ปวดนานเกิน 1 เดือน แต่อาการยังไม่ดีขึ้น แพทย์จะพิจารณาส่งตรวจ X-ray และ MRI เพื่อประเมินระดับความรุนแรงของหมอนรองกระดูกปลิ้น หรือหมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับเส้นประสาท ซึ่งการรักษาอาการปวดจากภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นหรือหมอนรองกระดูกเคลื่อน จะเริ่มจากการฉีดยาระงับการอักเสบที่บริเวณโพรงเส้นประสาทไขสันหลัง หากหมอนรองกระดูกเริ่มปูดนูน หรือปลิ้นออกมาไม่มาก แพทย์อาจจะพิจารณาทำการรักษาด้วยการจี้เลเซอร์ในบริเวณที่มีปัญหา

STRONKA โปร 2 แถม 1 นวัตกรรม Collagen Undenatured type 2 บำรุงเข่าและข้อ เพิ่มมวลกระดูก แคลเซียมแอลทรีโอเนต

แต่เมื่อใดก็ตามที่หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น หรือเคลื่อนกดทับเส้นประสาทในปริมาณที่มาก แพทย์จะทำการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดกระดูกสันหลังด้วยกล้องเอ็นโดสโคป หรือการเจาะรูส่องกล้อง ด้วยเทคนิค PSLD (Percutaneous Stenoscopic Lumbar Decompression) ที่บริเวณส่วนหลัง หรือ เทคนิค PSCD (Percutaneous Stenoscopic Cervical Decompression) ที่บริเวณส่วนคอ

ทั้งนี้ นพ.ณฐพล ยกตัวอย่างผู้ป่วยที่มีอายุน้อยที่สุดที่เคยเข้ารับการรักษา คืออายุ 24 ปี โดยผู้ป่วยรายนี้ประกอบอาชีพเป็นพนักงานออฟฟิศ มีพฤติกรรมนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน บางครั้ง 3 – 4 ชั่วโมงติดต่อกัน ผู้ป่วยเข้ามาพบแพทย์ด้วยอาการปวดสะโพกร้าวลงต้นขา มีประวัติการรักษามาจากที่อื่น เคยทานยาและทำกายภาพมาก่อนและอาการดีขึ้นบางส่วน แต่เมื่อหยุดยา หยุดทำกายภาพอาการปวดก็กลับมา และในวันที่ผู้ป่วยรายนี้เข้ามารับการรักษา คือไม่สามารถเดินและนอนได้ เบื้องต้นจึงส่งผู้ป่วยรายนี้ทำ X-ray ร่วมกับการทำ MRI เมื่อผลการตรวจยืนยันว่าพบหมอนรองกระดูกเคลื่อน จึงได้วางแนวทางการรักษาด้วยการเจาะรูส่องกล้องเพื่อนำสิ่งที่กดทับเส้นประสาทออก

หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น

หลังการผ่าตัดผู้ป่วยอาการดีขึ้นมาก สามารถลุกขึ้นเดินได้ตั้งแต่วันแรกหลังการผ่าตัด เขายังบอกด้วยว่า “ดีใจที่เขาดีขึ้น ขาที่เคยชาก็ดีขึ้น และเดินทรงตัวได้ดีขึ้น”      นั่นหมายถึงผู้ป่วยได้คุณภาพชีวิตที่ดีของเขากลับคืนมา  

ขณะที่ผู้ป่วยรายนี้เปิดใจว่า อาการปวดเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือประมาณช่วงมหาวิทยาลัย ขณะนั้นมีอาการปวดหลังจึงกินยาแล้วนอนพัก ทำแบบนี้จนกระทั่งล่าสุดมีอาการปวดหลังร้าวลงขาไปถึงบริเวณหัวเข่าจนขยับไม่ได้ ใช้ชีวิตลำบากมาก ผู้ป่วยรายนี้ยังบอกอีกว่ารู้สึกหดหู่ใจ เพราะมองว่าตัวเองอายุเพียงแค่ 24 ปีเท่านั้น ไปหาหมอมาหลายที่จนชินกับคำตอบของหมอว่าให้ออกกำลังกาย จนกระทั่งได้เข้ามารักษาที่ รพ.เอส สไปน์ รพ.เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง ซึ่งคุณหมอณฐพลได้ทำการรักษาด้วยการส่องกล้องช่วยในการผ่าตัด ปัจจุบันกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

Amado Silver II Collagen Type II Plus Calcium Vitamin B – อมาโด้ ซิลเวอร์ ทู คอลลาเจน ไทป์ ทู 1 กระป๋อง (100g)

อย่างไรก็ตาม นพ.ณฐพล กล่าวทิ้งท้ายว่า เราเน้นการรักษาโรคที่ต้นเหตุ ทำให้คุณได้ทราบถึงสาเหตุของอาการก่อนการตัดสินใจรักษา เพื่อการหายที่ยั่งยืน ถ้าหาก “ปวดไม่หาย มาหาเรา” ซึ่งเรามีเทคนิคการรักษาแบบ “แผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว” ทำให้ 95% ของผลการรักษาของผู้ป่วยที่โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ นั้นนอนเพียง 1 คืน ก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมได้เร็วขึ้น

โรงพยาบาลเอส สไปน์ โรงพยายาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง ปรึกษา โทร.02 034 0808

ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ

ติดต่อโฆษณา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้การวิเคราะห์

    เราขออนุญาติใช้คุกกี้นี้เก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดีขึ้นให้กับคุณ

Save