X

ตาแห้ง อาการเป็นอย่างไร? รู้ไว แก้ไขได้ทัน !

เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡

ตาแห้ง อาการเป็นอย่างไร? รู้ไว แก้ไขได้ทัน !

ทุกคนเคยรู้สึกว่าตาแห้ง แสบตาหลังจากใช้คอมพิวเตอร์ หรือเล่นโทรศัพท์เป็นเวลานานๆ หรือเปล่า ถ้าคุณเคย แสดงว่าคุณอาจเป็นอีกหนึ่งคนที่มีความเสี่ยงในการเกิด ภาวะตาแห้ง ซึ่งอาจเกิดขึ้นบ่อยๆ จนทำให้รู้สึกชินชากับอาการนั้น และปล่อยปะละเลยไป แน่นอนว่าการทำแบบนี้ ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพของดวงตาอย่างแน่นอน ดังนั้น วันนี้เราจึงนำข้อเกี่ยวกับภาวะตาแห้งมาฝากทุกๆ คน เพื่อให้ทุกคนได้ทราบถึงว่าตาแห้ง คืออะไร ตาแห้ง อาการเป็นอย่างไรบ้าง รวมไปถึงตาแห้ง รักษาหรือป้องกันอย่างไรอีกด้วย

ภาวะตาแห้ง คืออะไร?

ภาวะตาแห้งอาการ, ตาแห้ง รักษา

ภาวะตาแห้ง หรือ Dry eye disease คือ ภาวะที่มีปริมาณน้ำตามาหล่อเลี้ยงกระจกตาดำไม่พอ ทำให้กระจกตาดำเกิดความไม่ชุ่มชื้น จึงทำให้เกิดระคายเคืองของตา ซึ่งอาการนี้ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกับคนที่ต้องใช้สายตาอย่างหนักในแต่ละวัน หรือคนที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ และภาวะตาแห้ง อาการเริ่มต้นอาจจะแค่ก่อให้ความไม่สบายตาเพียงเท่านั้น แต่หากปล่อยปะละเลยไว้ อาจก่อให้เกิดแผลที่กระจกตา ผิวของกระจกตาเกิดการอักเสบ แต่อาจติดเชื้อจนทำให้ตาบอดได้

เกร็ดสุขภาพ : ถึงแม้ว่าจะชื่อ ภาวะตาแห้ง แต่จริงๆ แล้ว ภาวะตาแห้ง อาการสามารถเกิดได้อีกแบบนั่นคือ มีน้ำตาเยอะจนเกินไป นั่นเป็นเพราะว่า เมื่อตาของเราแห้งจนเกินไป ร่างกายจะเกิดการผลิตน้ำตาออกมาเป็นจำนวนมากเพื่อไปหล่อเลี้ยงกระจกตาดำให้เพียงพอ ซึ่งในบางครั้งก็มากจนเกินไป จนเกิดอาการตาแฉะตามมา

  • สาเหตุการเกิดภาวะตาแห้ง

ภาวะตาแห้งอาการ, ตาแห้ง รักษา

สาเหตุของการเกิดอาการนี้ สามารถเกิดได้ทั้งจากปัจจัยภายในร่างกายของเรา กิจวัตรประจำวัน หรือแม้กระทั่งปัจจัยอื่นๆ ภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้

  1. การใช้ตาอย่างผิดวิธี หรือการใช้สายตาในการทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป ทำให้ปริมาณน้ำตาเกิดอาการแห้ง เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์เป็นเวลานาน
  2. การทำงานของเปลือกตาที่เกิดความบกพร่อง เช่น เปลือกตามีลักษณะที่ผิดรูปที่จะทำให้ไม่สามารถหลับตาได้สนิท การกระพริบตาที่น้องจนเกินไป
  3. เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น การทำงานของระบบต่างในร่างกายของเราก็ย่อยถดถอยลง ซึ่งแน่นอนว่าการผลิตน้ำตาก็ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงทำให้ขาดน้ำตาไปเลี้ยงกระจกตาดำ
  4. การสวมใส่คอนแทคเลนซ์ที่ไม่เหมาะสมกับดวงตา หรือเป็นคอนแทคเลนซ์ที่ไม่มีคุณภาพ อาจส่งผลทำให้ดวงตาเกิดการระคายเคือง และนำไปสู่ภาวะตาแห้ง อาการต่างๆ ได้
  5. การรับประทานน้ำที่น้อยจนเกินไป ก็อาจส่งผลระทบต่อดวงตา และก่อให้เกิดภาวะตาแห้ง อาการต่างๆ ได้
  6. การรับประทานยาบางชนิดที่ส่งผลต่อการสร้างน้ำตา และทำให้ตาแห้งได้ เช่น ยาลดน้ำมูก ยาโรคหัวใจ ยาคลายเครียด
  7. สิ่งแวดล้อมก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลทำให้ตาแห้ง แสบตาได้ นั่นคือ สภาพอากาศที่มีฝุ่นละอองเป็นจำนวนมาก มีหมอกหนา มีควัน เกิดลมพัดแรง รวมถึงการอยู่ในสถานที่ที่มีแสงแดดที่จ้าจนเกินไป และไม่สวมใส่เครื่องป้องกันดวงตา

เกร็ดสุขภาพ : อีกปัจจัยของภาวะตาแห้ง อาการต่างๆ ที่หลายคนอาจมองข้ามไป นั่นคือ การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ซึ่งการพักผ่อนน้อยนั้น จะทำให้ร่างกายทำงานได้ประสิทธิภาพที่น้อยลง และทำให้การสร้างน้ำตาเพื่อไปหล่อเลี้ยงดวงนั้นมีจำนวนน้อยลงตามไปด้วย ซึ่งเราอาจสงสัยว่า คนเราต้องนอนกี่ชั่วโมงถึงจะสามารถเรียกได้ว่าพักผ่อนเพียงพอ คำตอบคือ ในวัยเด็กนั้นควรนอนให้ครบ 9 – 12 ชั่วโมง ในวัยผู้ใหญ่ควรนอนให้ได้ 7 – 8 ชั่วโมง และในผู้สูงอายุอาจใช้เวลานอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมงต่อวัน

  • ตาแห้ง อาการเป็นอย่างไร?

ภาวะตาแห้ง อาการ, ตาแห้ง รักษา

ตาแห้ง อาการนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายอย่าง ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน

  1. รู้สึกตาแห้ง แสบตา คันที่ตา และมีอาการระคายเคืองตาเมื่อต้องใช้สายตาเป็นเวลานาน
  2. รู้สึกเหมือนกับว่ามีฝุ่นละออง หรือมีสิ่งแปลกปลอมที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองอยู่ในตา
  3. ดวงตาเกิดอาการมองเห็นได้ไม่ชัดเจน รู้สึกมัวๆ
  4. เกิดการบวมแดง และรู้สึกแสบตรงบริเวณรอบๆ ดวงตา
  5. ในบางราย อาจมีอาการน้ำตาไหลเยอะผิดปกติ และก่อให้เกิดเมือกเหนียวบริเวณดวงตา
  • ภาวะตาแห้ง รักษา หรือป้องกันอย่างไร?

ภาวะตาแห้ง อาการ, ตาแห้ง รักษา
  1. การรักษา

ภาวะตาแห้งรักษาได้ด้วยหลากหลายวิธี นั่นคือ อาจจะเริ่มจากการใช้น้ำตาเทียมเพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา ซึ่งวิธีการนี้ มักจะถูกใช้ในภาวะตาแห้ง อาการไม่หนัก สามารถใช้ได้ทันทีเมื่อเกิดอาการตาแห้ง แต่ข้อควรระวังของการน้ำตาเทียมคือ หากเป็นน้ำตาเทียมชนิดมีสารกันบูด ไม่ควรใช้เกินวันละ 4 – 5 ครั้ง ส่วนในกลุ่มที่มีอาการตาแห้งชนิดร้ายแรง เช่น อาจทำให้ตาบอด จะมีวิธีการรักษาอีกรูปแบบ นั่นคือ การอุดรูระบายน้ำตา เพื่อให้ดวงตาสามารถกักเก็บน้ำตาได้นานยิ่งขึ้น

  1. การป้องกัน

การป้องกันภาวะตาแห้งนั้น สามารถทำได้โดยการหลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพอากาศที่เอื้อให้เกิดตาแห้ง หรือถ้ามีความจำเป็น ควรใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น แว่นตากันแดด เมื่อต้องใช้สายตาทำงาน ควรหมั่นกระพริบตาให้ได้ 10 – 15 ครั้งต่อนาที อย่างหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลย นั่นคือการดื่มน้ำให้เพียงพอ การเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพของตา เช่น ใบแมงลัก ซึ่งประโยชน์ของใบแมงลักคือช่วยในการมองเห็น และบำรุงสายตาอีกด้วย

การปล่อยภาวะตาแห้งทิ้งไว้ ไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน เราควรเริ่มดูแลสุขภาพของดวงตาของเราให้ดี ให้เวลาพักผ่อนกับสายตาบ้าง หมั่นตรวจเช็คว่าเราดื่มน้ำวันละกี่ลิตร ดื่มน้ำพอหรือยัง และที่สำคัญอย่าลืมป้องกันสายตาหากอยู่ในสภาวะที่เสี่ยงที่จะก่อให้เกิดตาแห้งได้ ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : thonburihospital.com, rama.mahidol.ac.th

ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ

ติดต่อโฆษณา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้การวิเคราะห์

    เราขออนุญาติใช้คุกกี้นี้เก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดีขึ้นให้กับคุณ

Save