“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡

10 สัญญาณเตือนว่าผอมเกินไป เช็กดีๆ เราผอมเกินไปหรือเปล่านะ ?!

เชื่อว่าส่วนใหญ่แล้ว คนเราต่างก็อยากที่จะมีรูปร่างสมส่วนและมีสุขภาพแข็งแรง และไม่น้อยเลยที่กังวลกับความอ้วนหรือกลัวว่าจะมีน้ำหนักเกินเกณฑ์ กังวลว่าจะมีไขมันส่วนเกินที่อาจทำให้สูญเสียความมั่นใจได้ แต่ในทางกลับกัน บางคนก็เจอกับปัญหาน้ำหนักน้อยเกินเกณฑ์หรือถูกคนรอบข้างทักอยู่บ่อยๆ ว่าผอมเกินไปหรือเปล่า ? ในบทความนี้ เพื่อสุขภาพจะพาไปสำรวจสุขภาพตัวเองกันดีกว่าค่ะว่า ณ ขณะนี้ เรามีน้ำหนักน้อยเกินไปหรือไม่ สัญญาณเตือนว่าผอมเกินไป มีอะไรบ้าง มาเช็กกันค่ะ

10 สัญญาณเตือนว่าผอมเกินไป ชวนสำรวจเพื่อดูแลตัวเองให้มากขึ้นกัน

เราอาจจะคุ้นชินกับปัญหาสุขภาพที่ว่า อ้วนเกินไปหรือมีน้ำหนักมากเกินเกณฑ์มากกว่าคนที่จะบ่นว่า “ผอมเกินไป” แต่ความจริงแล้ว การมีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์นั้นก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ไม่ต่างกัน เช่น เสี่ยงต่อการเกิดโรคไทรอยด์เป็นพิษ หรืออาจเป็นโรคขาดสารอาหาร อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ผอมเกินเกณฑ์นั้นก็มีอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน เช่น รับประทานอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ออกกำลังกายอย่างหนัก เป็นโรคเบื่ออาหาร มีภาวะทางสุขภาพจิตทำให้ไม่อยากอาหาร เช่น เป็นโรคซึมเศร้า หรือเป็นโรคการกินผิดปกติอย่าง บูลีเมีย (Bulimia Nervosa) หรือ อะนอร์เร็กเซีย เนอร์โวซา (anorexia nervosa) หรืออาจเกิดจากกรรมพันธ์ุ เป็นต้น ซึ่งสัญญาณเตือนว่าผอมเกินไป มีดังนี้ค่ะ

1. มีค่าดัชนีมวลกายต่ำกว่า 18. 5

ค่าดัชนีมวลกายหรือค่า BMI คือค่าดัชนีที่ใช้ชี้วัดความสมดุลของน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) และส่วนสูง (เซนติเมตร) ซึ่งสามารถระบุได้ว่าตอนนี้รูปร่างของเรานั้นอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือมีน้ำหนักมากเกินไป – น้อยเกินไป ซึ่งมีเกณฑ์ดังนี้

• น้อยกว่า 18.5 = น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์
• 18.5-22.9 = สมส่วน
• 23.0-24.9 = น้ำหนักเกิน
• 25.0-29.9 =โรคอ้วน
• มากกว่า 30 = โรคอ้วนอันตราย

เราจะใช้สูตรง่ายๆ ด้วยการใช้การคำนวณจากส่วนสูงและน้ำหนักตัว คือ น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หารด้วย ส่วนสูง (เมตร) ยกกำลังสอง เช่น หากคุณมีน้ำหนัก 40 กิโลกรัม และสูง 150 ซม.  จะมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) = 40/(1.5X1.5) = 17.77 นั่นแปลว่าน้ำหนักของเราต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนว่าผอมเกินไปค่ะ (ใครไม่อยากคิดให้ยุ่งยาก ลองคำนวณที่เว็บนี้ได้เลยนะคะ)

2. หาไซส์เสื้อผ้ายาก

นอกจากหนุ่มๆ สาวๆ พลัสไซส์ที่หาซื้อเสื้อผ้าได้ยากแล้ว คนที่มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ก็หาเสื้อผ้าใส่ได้ยากเหมือนกัน สัญญาณเตือนว่าผอมเกินไปก็คือ เราใส่เสื้อผ้าไซส์เล็กสุดของร้านแล้วยังรู้สึกหลวมเกินไป ไม่ว่าจะหลวมตรงเอว หลวมตรงสะโพก หลวมตรงต้นขา หลวมตรงช่วงอก เป็นต้น เพราะเสื้อผ้าส่วนใหญ่นั้นทำไซส์มาให้กับคนทั่วไปที่มีรูปร่างสมส่วนปกติ ถ้าเกิดสมมติว่าไปลองกางเกงยีนส์แบรนด์ไหนแล้วไซส์เล็กสุดยังใส่ไม่ได้ ใส่แล้วหลวมไม่สวย นั่นอาจหมายความว่าเรากำลังผอมเกินไปก็ได้นะคะ

3. คนรอบข้างเริ่มทักว่าผอมเกินไป

สัญญาณเตือนว่าผอมเกินไป ที่สังเกตได้ง่ายอีกอย่างหนึ่งก็คือ คนใกล้ตัวของเราเริ่มทักเหมือนๆ กันว่าเราดูผอมเกินไป และทักมากกว่า 5 คนขึ้นไป ยิ่งถ้าเป็นคนที่อยู่ในชีวิตเรามาสักระยะหนึ่งอย่างเพื่อนที่ทำงาน คนในครอบครัว คนรัก เพื่อนสนิท ญาติๆ ที่เห็นเราบ่อยๆ และวันหนึ่งมาบอกเราว่า เราดูผอมเกินไปหรือผอมลงผิดหูผิดตา หากเราไม่ได้กำลังลดน้ำหนักอยู่ละก็ ลองวัดค่า BMI ของตัวเองหรือลองไปตรวจสุขภาพดูก็ได้นะคะ เพราะการผอมลงอย่างผิดปกตินั้นนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนทางภาวะสุขภาพบางอย่างก็ได้ค่ะ

4. ประจำเดือนขาดหาย

สำหรับคุณสาวๆ นั้น สัญญาณเตือนอีกอย่างก็คือ ประจำเดือนขาดหาย ในกรณีที่ไม่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์แต่ประจำเดือนขาดหายและกำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก สันนิษฐานเอาไว้ก่อนเลยว่า เรากำลังลดน้ำหนักจนผอมเกินไปและส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน เป็นเหตุให้ประจำเดือนขาดหาย และถ้าในบางคนประจำเดือนขาดหาย ผมร่วง เล็บเปราะหักง่าย มีผื่นคันขึ้นตามตัว นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเรากำลังขาดสารอาหารอยู่ค่ะ

5. รู้สึกไม่ค่อยมีแรง

ถ้าแต่ละวันเรารู้สึกไม่ค่อยมีเรี่ยวมีแรง รู้สึกไม่สดชื่น ไม่กระปรี้กระเปร่า วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าเราได้รับพลังงานไม่เพียงพอ ซึ่งอาจจะมาจากพฤติกรรมการกินที่กินน้อยเกินไป ได้รับพลังงานน้อยกว่าที่ร่างกายต้องใช้ในแต่ละวัน ซึ่งอาจมาจากการที่เรามีน้ำหนักตัวที่น้อยเกินไปนั่นเอง

6. มีถุงใต้ตา

ถุงใต้ตามักเป็นสัญญาณของการอดนอน เหนื่อยล้าเพราะพักผ่อนน้อย แต่อย่างไรก็ตาม การลดน้ำหนักยังสามารถทำให้ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาหย่อนยาน และส่งผลให้ถุงใต้ตาเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะหากเราผอมจนเกินไป

7. อารมณ์แปรปรวน

หากรู้สึกว่าตัวเองหงุดหงิดบ่อยหรืออารมณ์แปรปรวนง่าย นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าผอมเกินไป เพราะความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากความหิวอันเป็นผลข้างเคียงจากการกินอาหารไม่เพียงพอ โดยเฉพาะบางคนที่จำกัดการกินของตัวเองก็อาจรู้สึกคับข้องใจและหงุดหงิดได้มากขึ้น ซึ่งการรับประทานอาหารที่เพียงพอและทำให้อิ่มท้องจะทำให้ระบบการทำงานของร่างกายทำงานอย่างสมดุล รวมถึงในส่วนของอารมณ์ของเราด้วย  ดังนั้น การลดน้ำหนักก็เชื่อมโยงกับอารมณ์ที่แกว่งไปแกว่งมาด้วยเช่นกัน

8. กำฝ่ามือไว้รอบต้นแขนได้

คนส่วนใหญ่จะมีเนื้อบริเวณต้นแขน แต่สำหรับคนผอมแห้ง ถ้าไม่ใช่เพราะพันธุกรรมก็มาจากนิสัยการกินที่ไม่เหมาะสม จึงทำให้ต้นแขนเล็กจนสามารถกำฝ่ามือโอบรอบต้นแขนได้ แม้ว่าเป็นเรื่องปกติที่เราจะกำฝ่ามือไว้รอบข้อมือของตัวเองได้ แต่หากเรากำฝ่ามือรอบต้นแขนตัวเองได้ นี่คือสัญญาณเตือนว่าผอมเกินไปค่ะ

9. มีปัญหาในการนอนหลับ

อีกหนึ่ง สัญญาณเตือนว่าผอมเกินไป ก็คือ มีปัญหาในการนอนตอนกลางคืน อาการนอนไม่หลับเป็นอาการของหลายๆ ภาวะ รวมทั้งมีน้ำหนักน้อยด้วย เนื่องจากรู้สึกขาดพลังงาน และมักเกิดอาการกระสับกระส่ายในเวลากลางคืน อาจเป็นเพราะเรากินอาหารน้อยเกินไป จำเป็นจะต้องกินอาหารให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ เพื่อให้นอนหลับสนิทในตอนกลางคืน และไม่หิวกลางดึก

10. มองเห็นซี่โครงและกระดูก

การมีซี่โครงที่มองเห็นได้เล็กน้อยเป็นเรื่องปกติสำหรับคนผอม แต่ถ้าเห็นซี่โครงสี่ซี่หรือมากกว่านั้นได้ชัดเจน นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าผอมเกินไป รวมถึงสังเกตได้ว่าต้นขามีกล้ามเนื้อและไขมันน้อย โดยเฉพาะสาวๆ ที่ส่วนนี้จะมีความกลมกลึงเนื่องจากเป็นสรีระของผู้หญิง แต่ถ้าใครต้นขาเล็กจนดูเหมือนมีแต่ผิวหนังหุ้มกระดูก นั่นแสดงว่าผอมเกินไปมากๆ ค่ะ

เกร็ดสุขภาพ : ในบางคนที่มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์อาจรู้สึกหนาวได้ง่ายกว่าคนทั่วไปเพราะมีไขมันน้อย ซึ่งไขมันในร่างกายคนเรานั้นทำหน้าที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ใครที่มีไขมันน้อยกว่าปกติก็อาจจะรู้สึกหนาวได้ง่ายกว่าคนทั่วไป เพราะมีไขมันให้ความอบอุ่นร่างกายไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละคนนะคะ ในบางคนที่ตัวเล็กหรือผอมก็อาจจะขี้ร้อนกว่าคนที่ตัวใหญ่กว่าหรืออ้วนกว่าก็ได้ค่ะ

น้ำหนักน้อยเกินไป ควรทำอย่างไรดี ?

หากเราสังเกตตัวเองได้ว่าผอมเกินไป โดยเฉพาะการคำนวณค่า BMI แล้วผลออกมาว่ามีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ และมีปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา อาจลองปรึกษาแพทย์เพื่อให้ตรวจสุขภาพ เพราะอาจเกิดจากโรคต่างๆ ได้ เช่น มะเร็ง ไทรอยด์ ปัญหาทางเดินอาหาร เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสาเหตุทางพฤติกรรมที่ทำให้น้ำหนักน้อยเกินไปอย่างความเครียดหรือภาวะซึมเศร้า แต่ถ้าหากเรามีน้ำหนักน้อยเกินไปเนื่องจากพันธุกรรม มีไลฟ์สไตล์ที่ต้องใช้พลังงานมาก อยู่ในช่วงลดน้ำหนักอย่างหักโหม หรือกินน้อยเกินไป กินอาหารไม่เพียงพอ ก็สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อเพิ่มน้ำหนักให้กลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติได้ ซึ่งทำได้ดังนี้ค่ะ 

1. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่อย่างสมดุล โดยการกินแบบ Balanced Diet ในปริมาณแคลอรี่ที่มากกว่าปกติ เช่น กินโปรตีนให้มากขึ้น เพิ่มคาร์โบไฮเดรตและไขมันวันละ 300 – 500 แคลอรี่ต่อวัน แต่ควรเลือกเป็นไขมันที่ดี และเป็นคาร์บจำพวกธัญพืชไม่ขัดสี เพื่อการมีสุขภาพที่ดี 
2. รับประทานพืชตระกูลถั่วให้มากขึ้น โดยเฉพาะถั่วเปลือกแข็งเพราะให้พลังงานสูง เช่น อัลมอนด์ ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ วันละ 1 กำมือ ทั้งนี้ อาจเพิ่มของว่างอื่นๆ ระหว่างมื้อด้วย เช่น นม ผลไม้ ธัญพืช และควรเลือกเป็นของว่างที่ดีต่อสุขภาพ แม้ว่าจะเพิ่มน้ำหนักแต่ถ้ากินของที่ไขมันสูง น้ำตาลสูง ก็อาจทำให้ได้โรคเบาหวาน – ไขมันสูงแถมมาด้วยนะคะ 
3. ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ ใครว่าคนผอมไม่ต้องออกกำลังกาย การออกกำลังกายอย่างการเล่นบอดี้ เวท เทรนนิ่งนั้น จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้หุ่นของเราดูสมส่วนมากขึ้น และน้ำหนักขึ้นแบบสุขภาพดีค่ะ 
4. นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพราะการนอนหลับอย่างเพียงพอและเข้านอนก่อนเที่ยงคืนนั้นจะทำให้ฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายทำงานอย่างเป็นปกติ ซึ่งส่งผลต่อน้ำหนักตัวของเราด้วย
5. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ เพราะสารเสพติดบางชนิดอาจส่งผลต่อความรู้สึกหิวของเรา ทำให้เราไม่อยากอาหารหรือความอยากอาหารลดลง ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เรากินน้อยและน้ำหนักลดได้

เกร็ดสุขภาพ : การเพิ่มน้ำหนักและรักษาน้ำหนักให้คงที่นั้นไม่ใช่การทำระยะสั้นๆ แต่คือการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เช่นเดียวกับการลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน ซึ่งก็คือปรับเปลี่ยนการกิน การพักผ่อน และการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม อย่าลืมละเลยในเรื่องของสุขภาพใจและอารมณ์ ซึ่งอาจส่งผลต่อพฤติกรรมการกินที่จะส่งผลต่อน้ำหนักตัวของเราด้วยค่ะ

ใครที่สงสัยว่าตัวเองผอมเกินไปหรือเปล่า ก็ลองเช็กจากสัญญาณเตือนเหล่านี้ดูนะคะ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญกว่ารูปร่างของเราก็คือการมีสุขภาพที่ดี ในบางคนที่อาจมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์ปกติเล็กน้อยแต่ยังคงมีสุขภาพแข็งแรง ดูเฮลท์ตี้ มีเรี่ยวมีแรง สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้เป็นปกติ การที่เรามีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ปกติก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอะไร แต่ถ้าบางคนผอมเกินไปจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ไม่ค่อยแข็งแรง เจ็บป่วยบ่อยๆ หรือมีหลายๆ คนทักเรื่องรูปร่างจนรู้สึกสูญเสียความมั่นใจ และตัวเราเองก็เห็นด้วยว่าเราผอมไปจริงๆ และอยากจะเพิ่มน้ำหนักก็อาจจะปรับเปลี่ยนการกินโดยกินให้มากขึ้นและออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อให้มากขึ้น ก็จะทำให้เรามีรูปร่างที่สมส่วนมากขึ้นได้ค่ะ

ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ

pueasukkapab ผอมเกินไป สัญญาณเตือนว่าผอมเกินไป เพื่อสุขภาพ