“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
กระวานเขียว คืออะไร ? กระวานมีกี่แบบ ชวนรู้จักสรรพคุณกระวานในแบบต่างๆ
เวลาพูดถึง กระวาน จะหมายถึงพืชสองชนิดที่มีความใกล้เคียงกัน 2 สกุล คือ กระวานเทศ (สกุล Elettaria) และกระวานไทย (สกุล Amomum) ทั้งสองสกุลเป็นพืชท้องถิ่นในอินเดีย เนปาล และภูฏาน ในปัจจุบัน กัวเตมาลาเป็นแหล่งปลูกและส่งออกกระวานที่สำคัญของโลก รองลงมาคืออินเดีย ในบทความนี้จะมาแนะนำเกี่ยวกับกระวานชนิดต่างๆ ทั้งกระวานเทศ กระวานเขียว กระวานไทย ให้รู้ว่าทุกชนิดของกระวาน สรรพคุณเป็นอย่างไร
กระวานเขียว กระวานเทศ กระวานไทย เหมือนหรือไม่ ต่างอย่างไร มารู้กัน
ชนิดของกระวาน
• กระวานไทย (Round Siam cardamom)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ Amomum krervanh Pierre เป็นเครื่องเทศที่พบในป่าดิบชื้นทางจังหวัดจันทบุรีและตราด มีความสูงประมาณ 3 เมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดิน ผลมีลักษณะกลมเป็นพวง เปลือกผิวเกลี้ยง เป็นพูๆ มีสีออกนวลๆ ผลกระวานจะแก่ช่วงเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน เมล็ดกระวานไทยมีขนาดเล็ก สีน้ำตาลแก่ มีจำนวนมาก ทั้งผลและเมล็ดมีกลิ่นหอมฉุนคล้ายกับการบูร จัดเป็นสมุนไพรไทย รักษาโรคชนิดหนึ่ง
• กระวานเทศ (cardamom)
จัดเป็นกระวานแท้ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Elettaria cardamomum (L.) Maton เป็นเครื่องเทศที่มีการซื้อขายมากที่สุด ทำให้มีราคาสูงมาก ลักษณะเด่นของกระวานเทศ คือ ผลกระวานที่มีลักษณะยาวรี รูปไข่ หัวท้ายแหลม โดยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 เซนติเมตร ผลแก่จะมีสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม มีกลิ่นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อผลแก่จะแตกตามยาวเป็น 3 ส่วน แต่ละผลมีเมล็ด 15-20 เมล็ด มีสีน้ำตาลอมดำ รูปร่างเป็นสามเหลี่ยมแบน แข็ง ขนาดประมาณ 5 มิลลิเมตร มีเยื่อหุ้มเมล็ด เมล็ดมีกลิ่นหอมฉุน รสเผ็ดร้อน นิยมปลูกในประเทศอินเดีย กัวเตมาลา ศรีลังกา และแทนซาเนีย
• กระวานเขียว (Green Cardamom)
กระวานเขียวเป็นที่นิยมกันในประเทศอินเดีย มาเลเซีย ลูกและเมล็ดจะมีกลิ่นคล้ายการบูร รสชาติเผ็ดร้อน นิยมนำมาทำเป็นอาหารมากมาย เช่น แกงเผ็ด แกงมัสมั่น หรือใช้แต่งกลิ่น เช่น ชาอินเดีย ขนมปัง ขนมหวาน เค้ก คุกกี้ แฮม และอื่น ๆ
• กระวานดำ (Black Cardamom หรือ Greater Cardamom)
กระวานดำ (Amomum subulatum) หรือที่รู้กันในอีกชื่อว่า ชะโกหรือเฉ่าโก่ว (ลูกเฉาก๊วย) เครื่องเทศรสเผ็ดร้อน ที่นิยมใส่ในเมนูอาหารที่คนคุ้นเคย อย่างพะโล้ ข้าวซอย แกงเผ็ด เพื่อให้มีกลิ่นหอม รสชาติอร่อย ผลเป็นจะมีลักษณะแห้งแตกสีม่วงหรือน้ำตาลแดง เส้นผ่านศูนย์กลาง 2–2.5 เซนติเมตร จะออกดอกในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน และออกผลในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน โดยต้นกระวานดำต้นจะพบมากในป่าดิบชื้นที่มีความสูง 300–1,300 เมตร นิยมปลูกในประเทศจีน และยังสามารถพบได้ในประเทศบังคลาเทศ ทางเหนือของอินเดีย ภูฏาน พม่าและเนปาล
ไอเดียเมนูกระวาน
1. ขนมโมทกะ
ขนมโมทกะนี้มีส่วนประกอบเป็นกระวานเขียวด้วย และทำเพื่อถวายพระพิฆเนศ
วัตถุดิบ :
- แป้งถั่วลูกไก่ 2 ถ้วยตวง
- เนยกี 5 ช้อนโต๊ะ
- นมจืด 1 กล่อง
- นมข้นหวาน 1 ชอต หรือเพิ่มปริมาณหากชอบหวาน
- น้ำเปล่าเล็กน้อย
- งาขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- เม็ดทานตะวันอบน้ำผึ้ง 1 ซอง
- กระวานเขียว บด 5 เม็ด
- สีผสมอาหาร : สีเหลือง สีเขียว สีแดง
วิธีทำ :
- ใส่เนยกีลงกระทะและใส่แป้งถั่วลูกไก่ 2 ถ้วยตวง ผัดให้เข้ากันเติมน้ำเปล่าเล็กน้อย จากนั้นใส่นมจืดและนมข้นหวาน
- เติมนมและแป้งเหลว ใส่สีผสมอาหารและตะล่อมให้เข้ากัน หากแป้งเหลวสามารถเติมแป้งโรยได้เล็กน้อย ผัดจนแห้ง แล้วเติมงาหรือเมล็ดทานตะวันตามใจชอบ จากนั้นใส่เม็ดกระวานเขียวลงผัดไปเรื่อยๆ โดยใช้ไฟอ่อน
- ผัดให้เป็นเนื้อเดียว จากนั้นพักแป้งให้เย็น
- เมื่อแป้งเย็นแล้ว นำพิมพ์ขนมทาด้วยเนยเล็กน้อยเพื่อไม่ให้แป้งติดปั้นเป็นกลมๆ และใส่แป้งในพิมพ์ กดแบบพิมพ์ให้แน่น แกะออกอย่างเบามือ ดันก้นพิมพ์หลุดเป็นทรงขนมสวยงาม
- เก็บขนมเข้าตู้เย็น เก็บไว้ได้นาน 3 อาทิตย์
2. ข้าวอบเนื้อมะสะล่า
เมนูข้าวอบเนื้อมะสะล่านี้ก็ใช้กระวานเขียว ถ้าคนชอบแนวอาหารแขก หอมเครื่องเทศ ข้าวก็มันกะทิ เมนูนี้อร่อยเลย
วัตถุดิบ :
- เนื้อเสื้อร้องไห้ 1 ชิ้น ประมาณ 150 กรัม
- ผงมะสะล่า 1 ช้อนชา ซึ่งเป็น 1 ในเมนูขมิ้น
- กะทิสำเร็จรูป 1 กล่อง
- ข้าวสารหอมมะลิ 1 ถ้วยตวง
- ลูกกระวานเขียว 5 ลูก
- เกลือ ½ ช้อนชา
- มันฝรั่ง 2 หัว
- เนย 1 ก้อนเล็กๆ
- น้ำมันสำหรับทอดมันฝรั่ง
วิธีทำ :
- หั่นเนื้อเป็นชิ้นพอคำ หมักกับผงมะสะล่าไว้ก่อน
- ปอกเปลือกมันฝรั่ง หั่นเป็นลูกเต๋าขนาดพอดี นำลงไปทอดในน้ำมันจนเหลือง แล้วพักไว้
- นำหม้ออีกใบตั้งไฟ ใส่เนยลงไปละลาย ใส่ลูกกระวานเขียว ตามด้วยเนื้อผัดจนสุกหอม ใส่กะทิลงไปหมดกล่อง ต้มให้เนื้อเปื่อย ประมาณ 20 นาที
- หลังจากเนื้อเปื่อยดีแล้ว นำมันฝรั่งที่ทอดไว้ใส่ลงไป เติมเกลือ ใส่ข้าวสาร แล้วผัดประมาณ 5 นาที จากนั้นใส่น้ำร้อนให้ท่วมข้าวประมาณ 1 นิ้ว ปิดฝาหม้อ และปรับเป็นไฟอ่อน หมั่นเปิดฝาเช็คข้าว ต้องคอยกลับล่างขึ้นบน ด้วยการตะล่อม ข้าวจะได้ไม่หัก หากข้าวยังไม่สุก สามารถเติมน้ำได้เล็กน้อย รอจนข้าวสุกจึงปิดไฟ ปิดฝาให้ข้าวระอุ
- เสิร์ฟข้าวอบเนื้อมะสะล่าพร้อมโยเกิร์ต หรือคู่กับอาจาดก็อร่อย
เกร็ดสุขภาพ : กระวานนั้นถูกนำมาใช้ในการแพทย์แผนโบราณ และปัจจุบันการวิจัยทางการแพทย์ก็พบประโยชน์ของกระวาน สรรพคุณต่อสุขภาพมีหลายประการ ได้แก่
– มีคุณสมบัติต้านจุลชีพ ซึ่งช่วยต้านการติดเชื้อ ในขณะที่ยาปฏิชีวนะสมัยใหม่พบว่าอาจสร้างผลข้างเคียง เช่น ไปยับยั้งแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ แม้ว่าเครื่องเทศอย่างกระวานอาจไม่ได้มีประสิทธิภาพสม่ำเสมอ แต่ก็ยับยั้งเฉพาะจุลินทรีย์ที่ติดเชื้อ ไม่ใช่โปรไบโอติกที่เป็นประโยชน์
– ต่อต้านการอักเสบ เพราะมีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าสารบางชนิดในกระวานเขียวมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง
– ควบคุมน้ำตาลในเลือด โดยกระวานจะควบคุมระดับกลูโคสและอินซูลินผ่านการยับยั้งเอนไซม์ย่อยอาหาร เมื่อเอนไซม์เหล่านี้หยุดทำงาน ก็ทำให้การย่อยแป้งและโปรตีนลดลง
3. ไก่ต้มกระวาน
เมนูนี้เป็นการนำเอากระวานไทยมาใช้เป็นวัตถุดิบ โดยจะใช้ต้นกระวานอ่อนเเละสด
วัตถุดิบ :
- เนื้อไก่ติดกระดูก 1 ก.ก.
- ต้นกระวานอ่อนเเละสด 3 ต้น
- ใบมะกรูด 4 ใบ
- พริกขี้หนู 1 ขีด
- มะขามเปียก 2 ขีด
- หอมเเดง 1 ลูก
- น้ำปลา 2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ :
- นำต้นกระวานล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นท่อนๆ ใบมะกรูดฉีกเส้นกลางใบออก พริกขี้หนูทุบ หอมเเดงปอกเปลือกและทุบ
- นำหม้อมาใส่น้ำสะอาด ตั้งไฟ และต้มน้ำให้เดือด
- เมื่อน้ำเดือด นำวัตถุดิบทุกอย่างที่เตรียมไว้ลงไปในหม้อ แล้วต้มทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง โดยดูเป็นระยะๆ
- หลังจากไก่ได้ที่แล้ว จึงปิดไฟ เเละยกลง เมนูไก่ต้มกระวานก็พร้อมเสิร์ฟ
4. เนื้อตุ๋นสไตล์ฮ่องกง
เนื้อตุ๋นสูตรนี้ใช้กระวานเทศ จะกินกับข้าวสวยร้อนๆ หรือบะหมี่ลวกก็ได้
วัตถุดิบ :
- ส่วนที่ 1 ได้แก่ เนื้อวัวส่วนสำหรับตุ๋น 1.5 ก.ก. ลูกกระวาน 10 เม็ด ใบกระวาน 3-4 ใบ หอมหัวใหญ่ 1 หัว ข่าแห้ง 2 ชิ้น ขิงแก่ 3-4 ชิ้น น้ำสะอาด เกลือเล็กน้อย
- เครื่องเทศ ส่วนที่ 2 ได้แก่ ลูกกระวาน 10 เม็ด ใบกระวาน 3-4 ใบ อบเชย 2 แท่ง โป๊ยกั๊ก 8 ดอก กานพลู 5 ก้าน เปราะหอม พริกไทยขาว 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะ พริกหอม 1 ช้อนโต๊ะ รากผักชี 5 ราก
- เครื่องปรุง ได้แก่ ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ ซอสฮอยซิน 2 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ งาบดของจีน 2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ เหล้าจีน 1/2 ถ้วย เต้าหู้ยี้ 2 ก้อนเล็ก น้ำเต้าหู้ยี้ เล็กน้อย เซเลอรี่ 3 ก้าน แครอท 1 หัวเล็ก
- สำหรับเสิร์ฟ ได้แก่ แป้งข้าวโพดเล็กน้อยละลายน้ำ แตงกวา ผักชี ขิงดอง น้ำมันงา ซีอิ๊วขาว น้ำผึ้ง
วิธีทำ :
- ล้างทำความสะอาดเนื้อ ลวกน้ำเดือดทิ้ง 1 ครั้ง
- ใส่เนื้อลงในหม้อ เติมน้ำจนท่วม ใส่ส่วนผสมในส่วนที่ 1 รอเดือด ช้อนฟองแล้วเคี่ยวไฟอ่อน 2 – 3 ชั่วโมง
- ตุ๋นเนื้อจนได้ความเปื่อยที่ชอบแล้ว นำขึ้นน็อคน้ำแข็ง แล้วกรองส่วนผสมในส่วนที่ 1 ออก เก็บน้ำต้มเนื้อไว้ เมื่อเนื้อเย็นแล้วหั่นเป็นชิ้น
- เตรียมเครื่องเทศในส่วนที่ 2 ล้างของแห้งผ่านน้ำเร็วๆ แล้วใส่ถุงผ้าเตรียมไว้
- หั่นแครอทกับเซเลอรี่เป็นชิ้นเล็ก ใส่ลงโถปั่น เติมน้ำประมาณ 1 ถ้วย แล้วปั่นให้ละเอียด
- เตรียมเครื่องปรุงโดยผสม งาบด ซอสหอยนางรม ซอสฮอยซิน ในกระทะใบเล็ก ตั้งไฟกลาง คนให้เข้ากันดีแล้วใส่เหล้าจีน ตั้งไฟต่อจนแอลกอฮอล์ระเหย ใส่เต้าหู้ยี้บด น้ำแครอทเซเลอรี่ปั่น ผสมจนเข้ากัน
- เมื่อน้ำซอสเข้ากันดีแล้ว ผสมรวมกับน้ำต้มเนื้อ ขั้นตอนนี้ค่อยๆ เติมน้ำต้มเนื้อจนได้รสที่พอใจ แล้วใส่เนื้อที่หั่นไว้ ใส่เครื่องเทศ เคี่ยวต่อ 45 นาที – 1 ชั่วโมง น้ำต้มเนื้อที่เหลือแช่แข็งเก็บไว้เป็นน้ำสต็อกเนื้อได้
- ครบเวลาแล้วแบ่งส่วนที่จะเสิร์ฟ ออกมาในหม้อเล็ก ตั้งไฟกลางให้น้ำซอสงวดลงและข้นขึ้น ใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำเล็กน้อย น้ำมันงา ปรุงรสน้ำราดเพิ่มตามชอบ คนจนข้นขึ้น ตักใส่จาน โรยด้วยผักชี กินคู่กับแตงกวา ขิงดอง
5. ซี่โครงทอด
เมนูใช้กระวานเทศนี้เป็นฟิงเกอร์ฟู้ดระหว่างพักผ่อนได้ดี ใช้เวลา 15 นาที ก็ทำทัน
วัตถุดิบ :
- ซี่โครงหมู ½ ก.ก.
- พริกไทยดำ ตามชอบ
- ซอสแม็คกี้ ตามชอบ
- น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
- โรสแมรี่ 3-4 ช่อ
- ลูกกระวาน 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันทอด 1/3 ขวด
วิธีทำ :
- นำซี่โครงคลุกซอสแม็กกี้ พริกไทยดำ โรสแมรี่และลูกกระวาน 2 นาที แล้วคลุกน้ำมันงา น้ำมันงานอกจากหอมแล้วช่วยจับกลิ่นและรสของเครื่องเทศเครื่องปรุงทุกอย่างให้ติดกับหมู หมักต่อระหว่างตั้งเตาไฟฟ้า 1600 วัตต์ ให้น้ำมันร้อน (ประมาณ 2-3 นาที)
- เมื่อน้ำมันร้อนแล้วลดไฟเหลือ 500 วัตต์ ใส่ซี่โครงลงไปพร้อมลูกกระวาน ทอด 2 นาที ใส่โรสแมรี่ตามลงไป ทอดต่ออีก 1-2 นาที
- หากซี่โครงเนื้อไม่หนามาก แค่ 3-4 นาที สุกทั่วได้ สังเกตฟองน้ำมันเริ่มเล็กลงก็เริ่มพลิกให้ซี่โครงสุกทั่วทุกด้าน กลางกระดูกเริ่มดำและเนื้อหดร่นจากขอบกระดูกคือสุกพอดี นานกว่านั้นอาจสุกไป (เนื้อจะแข็ง)
- นำขึ้นสะเด็ดน้ำมันบนตะเเกรง นำมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ
เกร็ดสุขภาพ : กระวาน สรรพคุณในแง่ของจิตใจก็คือ ช่วยผ่อนคลาย เชื่อกันว่ากระวานมีคุณสมบัติต้านอาการซึมเศร้า เพราะน้ำมันหอมระเหยที่พบในกระวานชนิดต่างๆ รวมถึงกระวานเขียวคือหนึ่งในน้ำมันหลักที่ใช้ในการบำบัดด้วยกลิ่นหอม และเมื่อนำมาวิจัยในมนุษย์ก็พบว่าเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับสภาวะที่ตึงเครียดได้ดี
เครื่องเทศและสมุนไพรที่พบในชีวิตประจำวันนั้นมีอยู่มากมาย ควรใช้อย่างถูกต้องเเละบริมาณที่เหมาะสมเพื่อไม่ก่อให้เกิดโทษของสมุนไพร หรือเเม้เเต่สมุนไพรอื่นๆ ตัวอย่างเช่นมะรุม หากเลือกส่วนไม่ถูกต้องมาใช้บริโภคก็อาจก่อให้เกิดโทษได้ คือ โทษของมะรุมที่มาจากส่วนของราก (สามารถไปอ่านต่อถึงสมุนไพรชนิดนี้ในเว็บไซต์ของเราได้ค่ะ) อย่างไรก็ตามกระวานแม้ว่าจะมีหลายชนิด แต่ทุกชนิดก็มีคุณค่าไม่แพ้กัน สามารถใช้เป็นเครื่องเทศในการประกอบอาหารทั้งอาหารแนวอินเดีย แนวจีนฮ่องกง หรือแบบไทยๆ ก็ได้รสชาติที่อร่อย แถมยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายได้ด้วย
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : cookpad.com, thespruceeats.com
Featured Image Credit : freepik.com/azerbaijan_stockers
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ