“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ต่อมบาร์โธลินอักเสบ กี่วันหาย อันตรายหรือไม่ ? ชวนระวังและสังเกตสุขภาพของน้องสาว ที่สาวๆ ไม่ควรมองข้าม
สำหรับคุณสาวๆ แล้ว ปัญหาที่ชวนกังวลใจ คงหนีไม่พ้นสุขภาพของน้องสาวหรือระบบสืบพันธ์ุของคุณผู้หญิงนั่นเอง แถมยังต้องใส่ใจมากๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความสะอาดและความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดความผิดปกติ หรือเกิดโรคติดต่อ STDs หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็มีหลายกลุ่มอาการที่เกิดจากความผิดปกติภายใน ทำให้เกิดเป็นโรคต่างๆ ขึ้นมาได้ เช่น โรคฝีต่อมบาร์โธลิน (Bartholin’s cyst) หรืออาการต่อมบาร์โธลินอักเสบที่บริเวณปากช่องคลอด ที่แม้จะเป็นโรคไม่คุ้นหูกันนัก แต่ก็สร้างความกังวลใจให้กับคุณสาวๆ ได้เหมือนกัน ต่อมบาร์โธลินอักเสบ คืออะไร รักษายังไง ต่อมบาร์โธลินอักเสบ กี่วันหาย ? เรามีคำตอบมาให้แล้วค่ะ
ต่อมบาร์โธลินอักเสบ คืออะไร ? มารู้จักให้มากขึ้นกัน
ก่อนจะไปพูดถึงวิธีการรักษา และระยะเวลาการรักษา ต่อมบาร์โธลินอักเสบ กี่วันหาย เรามารู้จักกับต่อมบาร์โธลินกันก่อนค่ะ ต่อมบาร์โธลิน (Bartholin Gland) เป็นต่อมที่ผลิตสารคัดหลั่งในช่องคลอด อยู่บริเวณข้างซ้ายและข้างขวาของรอยต่อข้างในแคม มีลักษณะเป็นต่อมขนาดเล็ก รูปร่างคล้ายเม็ดถั่ว โดยทั่วไปแล้ว ต่อมบาร์โธลินจะคลำไม่พบ แต่ถ้ามีความผิดปกติกับต่อมบาร์โธลิน ก็อาจทำให้ต่อมบาร์โธลินอักเสบ และเป็นก้อนบวมหรือเป็นถุงน้ำจนสามารถคลำได้ แล้วต่อมบาร์โธลินอักเสบ เกิดจากอะไร ? มีสาเหตุดังนี้ค่ะ
- ต่อมบาร์โธลินอุดตัน เป็นอาการที่พบได้บ่อยในสตรีวัยเจริญพันธ์ุ โดยเกิดการอุดตันในต่อมบาร์โธลินข้างใดข้างหนึ่งเนื่องจากมีการเสียดสี ที่อาจเกิดจากการสวมกางเกงคับจนเกินไป การนั่งนานๆ หรืออาจเกิดจากการปั่นจักรยานบ่อยๆ ก็ได้เช่นกัน เมื่อเกิดการอุดตัน เมือกที่สร้างขึ้นก็จะเกิดการสะสมอยู่ในต่อม ทำให้เกิดเป็นถุงน้ำขึ้นมาได้
- ต่อมบาร์โธลินอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อ เมื่อต่อมบาร์โธลินอุดตันเป็นถุงน้ำขึ้นมา ก็อาจจะมีเชื้อโรคต่างๆ เข้าไปสะสมอยู่ในถุงน้ำนั้น ทำให้มีการอักเสบ บวมแดง ปวด และเป็นหนองขึ้นมาได้
- เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ได้รับเชื้อโรคจากหนองในแท้ ก็ทำให้เกิดการอักเสบได้
อาการแบบไหน ? ถึงเรียกได้ว่า ต่อมบาร์โธลินอักเสบ
ตอนนี้ก็ได้ทราบแล้วว่า ต่อมบาร์โธลินอักเสบ เกิดจากอะไร แล้วอาการแบบไหนถึงเข้าค่ายต่อมบาร์โธลินอักเสบ เพื่อที่จะได้สังเกตตัวเองและไปพบแพทย์ ใครที่กังวลว่า ต่อมบาร์โธลินอักเสบ กี่วันหาย การไปโรงพยาบาลเพื่อให้คุณหมอวินิจฉัยประเมินอาการ ก็จะทำให้รักษาได้อย่างตรงจุด เพื่อให้อาการดีขึ้นในเร็ววัน ซึ่งอาการจะมีดังนี้
- คลำเจอก้อนที่ปากช่องคลอด ที่อาจจะรู้สึกเจ็บ ปวด หรือไม่ปวดก็ได้
- ก้อนมีขนาดใหญ่ รู้สึกระคายเคือง
- หากมีการอักเสบรุนแรง ก้อนถุงน้ำจะมีลักษณะบวม แดง เป็นหนอง รู้สึกแสบร้อน และปวดอย่างรุนแรง บางรายอาจมีไข้และหนาวสั่นร่วมด้วย
- เจ็บระหว่างขา ขณะทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
- หากอักเสบจนถุงน้ำแตก มีหนองออกมา จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น
เกร็ดสุขภาพ : ในช่วงแรกๆ สาวๆ อาจสังเกตได้ว่า มีตุ่มเล็กๆ ขึ้นที่น้องสาวบริเวณแคมใกล้ปากช่องคลอด ก่อนจะมีการอักเสบเป็นถุงน้ำขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม การเป็นตุ่มขึ้นที่อวัยวะเพศนั้น เกิดได้หลายปัจจัยด้วยกัน อาทิ เป็นตุ่มแดงๆ คล้ายสิว ซึ่งเกิดจากรูขุมขนอักเสบ หรือต่อมไขมันอักเสบ ทำให้เกิดเป็นตุ่มได้ หรืออาจเกิดจากการแพ้ผ้าอนามัย แพ้สารระคายเคือง ซึ่งการใส่ผ้าอนามัยนานๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มีตุ่มขึ้นบริเวณน้องสาวได้บ่อยที่สุด นอกจากนี้ การเป็นตุ่มที่อวัยวะเพศอาจเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างเริมหรือหิดได้ด้วยเช่นกัน หากมีความผิดปกติใดๆ ในบริเวณน้องสาวของเรา ไม่ว่าจะเป็นตุ่ม หรือมีอาการตกขาวมากผิดปกติ ควรไปพบสูตินารีแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย จะได้รักษาได้อย่างตรงจุดนะคะ
ต่อมบาร์โธลินอักเสบ กี่วันหาย ? รักษาอย่างไรได้บ้าง
หากพบความผิดปกติเกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธ์ุ คลำดูแล้วพบก้อนร่วมกับมีอาการปวด รู้สึกระคายเคือง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อที่จะได้รับการวินิจฉัยได้อย่างตรงจุด เพราะอาจเป็นความผิดปกติอื่นๆ ที่ไม่ใช่ต่อมบาร์โธลินอักเสบก็ได้ หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นต่อมบาร์โธลินอักเสบ แพทย์จะทำการรักษาดังนี้
- หากพบว่าเป็นถุงน้ำบวม ไม่มีอาการปวด แสบร้อนแต่อย่างใด และมีขนาดเล็ก แพทย์อาจแนะนำให้ปะคบร้อนหรือแช่น้ำอุ่นวันละ 2 – 3 ครั้ง ครั้งละ 20 นาที จะช่วยให้ถุงน้ำยุบลงได้ หากเป็นลักษณะนี้ ต่อมบาร์โธลินอักเสบ กี่วันหาย ? ประมาณ 3 วันหรือไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ ถุงน้ำก็จะยุบไปเองค่ะ
- หากพบว่าเป็นก้อนขนาดเล็กและมีอาการปวด แสบร้อนร่วมด้วย แพทย์อาจจ่ายยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะเพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อมากขึ้น ในลักษณะนี้ ต่อมบาร์โธลินอักเสบ กี่วันหาย ? โดยปกติแพทย์จะจ่ายยาให้ไม่เกิน 1 สัปดาห์ เพื่อดูอาการว่ากินยาแล้วก้อนจะยุบหรือไม่ ทั้งนี้ ไม่ควรบีบหนองออกเอง เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
- หากพบว่าถุงน้ำมีขนาดใหญ่ บวม และปวดมาก มีอาการปวด แสบร้อน แพทย์จะทำการกรีดผนังถุงน้ำเพื่อเอาหนองออก และเย็บแผล ซึ่งจะทำให้ถุงน้ำยุบตัวลง ถ้าหากจำเป็นจะต้องกรีดระบายหนองออก ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ 7 วันภายหลังการทำหัตการ หมั่นรักษาความสะอาดอยู่เสมอ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
เกร็ดสุขภาพ : มีในบางกรณีที่เกิดการอักเสบจนถุงน้ำในต่อมบาร์โธลินแตกเองได้เช่นกัน ซึ่งมีโอกาสที่หนองจะกระจายไปยังอวัยวะส่วนต่างๆ และอาจทำให้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ถุงน้ำแตกแล้วไม่ไปล้างแผล ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อลุกลามมากขึ้นได้ เพราะฉะนั้น หากมีอาการผิดปกติใดๆ ที่บริเวณอวัยวะสืบพันธ์ุ ควรไปพบแพทย์จะดีที่สุดค่ะ
ต่อมบาร์โธลินอักเสบ ป้องกันได้หรือไม่ ?
สำหรับผู้ที่กังวลว่า ต่อมบาร์โธลินอักเสบ กี่วันหาย ? รักษาได้หรือไม่ ก็น่าจะคลายความกังวลไปได้บ้างแล้วนะคะ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าต่อมบาโธลินอักเสบจะรักษาให้หายได้ แต่ป้องกันไว้ก่อนก็น่าจะดีกว่า เพื่อสุขอนามัยจุดซ่อนเร้นของคุณสาวๆ โดยสามารถป้องกันได้ดังนี้ค่ะ
- ทำความสะอาดอวัยวะเพศเป็นประจำ โดยทำความสะอาดทุกวันขณะอาบน้ำ และหลังการมีเพศสัมพันธ์ด้วยการใช้น้ำสะอาดล้างภายนอกบริเวณปากช่องคลอด ไม่ควรล้างสวนอวัยวะเพศ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือเกิดการระคายเคืองได้
- หากมีประจำเดือน ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ ทุกๆ 3 – 4 ชั่วโมง เพื่อลดการอับชื้น
- ไม่สวมกางเกงชั้นในที่คับจนเกินไป รวมถึงกางเกงที่รัดๆ หรือสวมเสื้อผ้าที่อึดอัด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เพราะทำให้เกิดความอับชื้น ไม่สบายตัว ทำให้เกิดการหมักหมมของเหงื่อ และเสี่ยงต่อการอุดตันของต่อมบาร์โธลินได้
- ไม่นั่งท่าเดิมนานๆ ให้ลุกขึ้นยืนหรือเคลื่อนไหวบ่อยๆ
- มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ควรใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การดูแลสุขภาวะจุดซ่อนเร้นของคุณผู้หญิงนั้น มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการดูแลสุขภาวะส่วนอื่นๆ ในร่างกาย หากมีความผิดปกติใดๆ การไปพบแพทย์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพื่อที่จะได้รับการวินิจฉัยได้อย่างถูกโรค และรักษาได้อย่างตรงจุด อย่างการเป็นต่อมบาร์โธลินอักเสบ กี่วันหาย หากได้รับคำแนะนำจากสูตินารีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็จะช่วยคลายความกังวลใจให้กับคุณสาวๆ ได้ ทั้งนี้ ในสาวๆ ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้วอย่างน้อย 3 ปี ควรตรวจภายในเป็นประจำทุกปี เพื่อตรวจดูความผิดปกติของระบบสืบพันธ์ุ รวมถึงคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เพื่อสุขภาพของคุณสาวๆ เองนะคะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : petcharavejhospital.com, sriphat.med.cmu.ac.th, my.clevelandclinic.org, nhs.uk
Featured Image Credit : vecteezy.com/Stefan Amer
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ