“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
น้ำลายขม เกิดจาก อะไร ? แก้ยังไง มาทำความเข้าใจกัน !
ปัญหาเกี่ยวกับน้ำลายในปากของเรานั้นมีหลากหลาย เพราะสามารถบ่งบอกถึงอาการต่างๆ ของสุขภาพทั้งภายในร่างกาย และภายในช่องปากของเราได้ อย่างเช่น กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ ที่อาจบ่งบอกถึงการเป็นภูมิแพ้ ไข้หวัด คออักเสบ โรคกรดไหลย้อน และการติดเชื้อต่างๆ ได้ แล้วหากว่าเรามีน้ำลายรสขมล่ะ นั่นหมายถึงเรากำลังมีปัญหาสุขภาพหรือไม่ ? หากคุณเคยสังเกตตนเองว่ามีรสขมในปาก โดยที่ไม่ได้เกิดจากอาหารที่กินนั้น มาดูกันค่ะว่า น้ำลายขม เกิดจาก อะไรได้บ้าง กับ 5 สาเหตุของอาการน้ำลายขม ที่อาจหมายถึงปัญหาสุขภาพช่องปากของคุณได้ด้วยนะคะ
รู้จักอาการ น้ำลายขม เกิดจาก อะไรบ้าง พร้อมวิธีในการแก้ไข
รสขมในปาก เป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นได้เมื่อกินอาหารที่มีรสฉุนหรือรสเปรี้ยว หรือเกิดหลังจากที่เราแปรงฟัน แต่ถ้ารสชาติขมนั้นอยู่นานหรือเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุก็อาจเป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะน้ำลายขม เกิดจากปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงการมีสุขภาพฟันที่ไม่ดี ปากแห้ง หรือแม้แต่การตั้งครรภ์ เรามารู้จักถึงสาเหตุหลักๆ ของน้ำลายขม เกิดจากอะไรกันดีกว่า เพื่อที่จะได้สังเกตตนเอง และหาวิธีรักษาได้อย่างถูกต้องกัน
1. ปากแห้ง
ปากแห้งหรือที่เรียกว่าซีโรสโตเมีย (Xerostomia) เกิดขึ้นเมื่อปากผลิตน้ำลายไม่เพียงพอ เนื่องจากน้ำลายช่วยลดแบคทีเรียในปาก การมีน้ำลายน้อยลงจะทำให้มีแบคทีเรียในช่องปากของเรามากขึ้น และผู้ที่เป็นโรคซีโรสโตเมียจะรู้สึกเหนียวและแห้งในปาก ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น อายุที่มากขึ้น การใช้ยาบางชนิด ความผิดปกติที่มีอยู่ก่อน โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือการสูบบุหรี่ จึงทำให้มีอาการปากแห้งและน้ำลายขมได้ นอกจากนี้ การขาดน้ำลายอาจทำให้กลืนหรือพูดได้ยาก และผู้ที่มีอาการนี้อาจสังเกตเห็นฟันผุและเหงือกอักเสบมากขึ้นด้วย
2. ปัญหาของช่องปาก
น้ำลายขม เกิดจากปัญหาสุขอนามัยทางช่องปากที่ไม่ดีได้ นอกจากนี้ ยังอาจทำให้ฟันผุ เกิดการติดเชื้อ และมีโอกาสเป็นโรคเหงือกอักเสบเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งปัญหาทางสุขภาพช่องปากทั่วไปสามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ หรือใช้ที่ขูดลิ้นก็ช่วยบรรเทาอาการบางอย่างได้ ทั้งนี้ การใช้น้ำยาบ้วนปากต้านเชื้อแบคทีเรียระหว่างการแปรงฟัน อาจช่วยลดแบคทีเรียที่มีกลิ่นเหม็นได้ค่ะ
3. การตั้งครรภ์
รสขมหรือรสโลหะในปากเป็นปัญหาที่พบบ่อยในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ เพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ผันผวนในระหว่างตั้งครรภ์สามารถเปลี่ยนแปลงรสชาติได้ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อความรู้สึก ซึ่งอาจทำให้เกิดความอยากอาหารบางอย่าง และก็อาจทำให้อาหารหรือกลิ่นบางอย่างกระตุ้นให้รู้สึกอยากอาเจียนได้เช่นกัน ซึ่งน้ำลายขม เกิดจากตั้งครรภ์นั้น มักจะหายไปในช่วงหลังของการตั้งครรภ์ หรือหลัง
คลอดนั่นเองค่ะ
4. วัยหมดประจำเดือน
ผู้หญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนก็อาจมีน้ำลายขมได้ ซึ่งเกิดจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายที่ลดลง ซึ่งนำไปสู่อาการแสบร้อนในช่องปาก ที่อาจเป็นเพราะปากแห้งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ตรงบริเวณใดบริเวณหนึ่งในปากหรือทั่วปาก โดยสาเหตุยังไม่แน่ชัด แต่อาจเกิดจากความเสียหายของเส้นประสาทในปาก หรืออาจเชื่อมโยงกับภาวะแวดล้อมหรือการรักษาภาวะต่างๆ เช่น เบาหวาน มะเร็ง และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงวัยหมดประจำเดือน
5. กรดไหลย้อน
กรดไหลย้อนหรือที่เรียกว่า GERD เกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อหูรูดส่วนล่างของหลอดอาหารคลายตัว ทำให้อาหารและกรดในกระเพาะเคลื่อนจากกระเพาะขึ้นไปที่หลอดอาหารและปาก และน้ำลายขม เกิดจากโรคกรดไหลย้อนนั้นเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของการมีรสขมในปาก นอกจากนี้แล้วยังมีอาการอื่นๆ ได้แก่ แสบร้อนที่หน้าอกหลังจากกินอาหารไม่กี่ชั่วโมง มีปัญหาในการกลืน มีอาการไอแห้งเรื้อรัง เป็นต้น
เกร็ดสุขภาพ : นอกจากนี้ ยาและอาหารเสริมบางชนิดอาจทำให้ปากมีรสขมได้ เพราะสารเคมีในยาถูกขับออกทางน้ำลาย เช่น ยาปฏิชีวนะบางชนิด ยารักษาโรคหัวใจบางชนิด วิตามินที่มีแร่ธาตุหรือโลหะ เช่น ทองแดง เหล็ก หรือสังกะสี เป็นต้น
ดูแลตัวเองอย่างไร เมื่อน้ำลายขม
เราสามารถดูแลตัวเองง่ายๆ ที่บ้านได้ เพื่อช่วยบรรเทาและป้องกันรสขมในปาก ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
- ดื่มน้ำมากๆ และเคี้ยวหมากฝรั่งที่ปราศจากน้ำตาลเพื่อช่วยเพิ่มการผลิตน้ำลาย
- รักษาสุขอนามัยทางช่องปากให้ดี ด้วยการแปรงฟันเบาๆ เป็นเวลา 2 นาที วันละสองครั้ง และใช้ไหมขัดฟันทุกวัน รวมถึงควรพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือนเพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก
- ลดโอกาสในการเป็นโรคกรดไหลย้อนโดยการรักษาน้ำหนักให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสเผ็ดหรือไขมันสูง ไม่สูบบุหรี่หรือผลิตภัณฑ์ยาสูบ จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ และแบ่งกินอาหารมื้อเล็กๆ บ่อยๆ แทนการกินอาการมื้อใหญ่ ซึ่งจะทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้
การรักษาอาการน้ำลายขม
การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้คุณได้สัมผัสกับรสขม ซึ่งแพทย์จะถามเกี่ยวกับอาการของคุณก่อน โดยดูประวัติทางการแพทย์และยาที่คุณใช้ การรักษาน้ำลายที่ขมในปากนั้นจะรักษาตามต้นเหตุ หรือสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดรสขม เช่น หากกรดไหลย้อนทำให้เกิดรสขมในปาก แพทย์อาจให้ยาลดกรด หรือหากยาบางชนิดที่คุณกินทำให้เกิดรสขม แพทย์อาจสั่งจ่ายยาตัวอื่นแทน เป็นต้น ส่วนถ้าใครพบว่าตนเองมีน้ำลายหวานนั้น แนะนำให้อ่านเพิ่มเติมเรื่องน้ำลายหวาน วิธีรักษาค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : อาการเจ็บป่วยและโรคบางชนิดอาจมีรสขมในปากร่วมด้วย เช่น ไซนัสอักเสบ หวัด เบาหวาน รวมถึงผู้ที่กำลังรับการรักษาโรคมะเร็ง อาจได้รับรสชาติในปากที่ขมมากกว่าปกติเมื่อกินอาหารหรือดื่มเครื่องดื่ม
การมีรสขมในปากแม้ว่าคุณจะไม่ได้กินหรือดื่มอะไรที่มีรสขมนั้น ก็เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยเช่นกัน โดยส่วนใหญ่นั้นรักษาได้ เพราะน้ำลายขม เกิดจากสาเหตุต่างๆ ที่ไม่ได้อันตรายต่อชีวิต เมื่อเรารู้ถึงสาเหตุแล้ว ก็สามารถดูแลตัวเองและรักษาให้อาการน้ำลายขมนั้นหายไปได้ โดยที่ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว ส่วนคนที่มีปัญหาในเรื่องของน้ำลายอื่นๆ เช่น ชอบนอนน้ำลายไหลนั้น ต้องอ่านบทความนอนน้ำลายไหล เกิดจากอะไร เพื่อจะได้รู้ถึงสาเหตุและวิธีแก้ไขกันนะคะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : medicalnewstoday.com, healthline.com, universaldentaldfw.com
Featured Image Credit : freepik.com/cookie_studio
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ