“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
แก้เหา ยังไง ให้เห็นผล ? รวมวิธีแก้เหา หายเร็ว หายไว เห็นผลจริง !
ตอนเด็กๆ มีใครเคยเป็นเหาบ้างมั้ยคะ ? เหานั้นติดกันได้โดยเฉพาะในเด็กๆ แต่ผู้ใหญ่ก็เป็นได้ และถ้าเป็นเหา อาการที่ตามมาคือ จะรู้สึกคัน แล้วก็เกา ถ้าเกามากๆ ก็อาจเกิดแผลที่หนังศีรษะได้เลย และอาการคันยังทำให้ดูเสียบุคลิกภาพ อยู่ที่ไหนก็เกา ทำให้ดูไม่น่าเข้าใกล้จนต้องหาวิธี แก้เหา เพราะถ้าเป็นเหานานๆ ไปก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพเส้นผมและหนังศรีษะได้ วิธีแก้ทำได้อย่างไร มาดูกันเลยค่ะ
รวม 7 วิธี แก้เหา เห็นผลจริง เหาหายเกลี้ยง
เหาเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกแมลงที่มีขนาดเล็กมาก มีขนาดประมาณ 3 – 5 มิลลิเมตรเท่านั้น ทั้งยังเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว เกาะเกี่ยวเส้นผมได้ดี ทำให้พบเหาที่เส้นผมได้นั่นเอง ซึ่งบางคนนั้นเป็นเหาบ่อยมาก แม้จะรักษาความสะอาดแล้วก็ตาม นั่นเป็นเพราะว่าเหานั่นติดกันง่ายมาก แค่อยู่ใกล้กัน นั่งกินอาหารร่วมกัน ใช้หวีร่วมกับผู้อื่น การสวมหมวกใบเดียวกัน หรือนอนเตียงเดียวกัน นอนติดกัน ก็มีโอกาสติดเหาจากกันได้ แล้ววิธีแก้เหาทำได้อย่างไร มาดูกันเลยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : เหาเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีมากกว่า 3,000 ชนิด โดยจะมีทั้งเหาที่เป็นปรสิตของสัตว์และปรสิตของคน ซึ่งเหาที่อยู่ในคนนั้นมี 3 ชนิดคือ เหาที่ศีรษะ โดยจะอาศัยอยู่บริเวณศีรษะและดูดเลือดเป็นอาหาร เหาที่ลำตัว ซึ่งจะมีขนาดใหญ่กว่าเหาที่ศีรษะ อาศัยอยู่บริเวณรอยตะเข็บผ้าหรือรอยเย็บ สามารถติดต่อกันได้ผ่านการใส่เสื้อผ้าร่วมกัน หรืออยู่ใกล้ชิดกันมากๆ ส่วนเหาชนิดสุดท้ายคือ เหาที่อวัยวะเพศ หรือเรียกว่าตัวโลน ซึ่งเป็นเหาตัวเล็กๆ ที่เกาะติดอยู่ตามเส้นขนบริเวณอวัยวะเพศหรือตามขนรักแร้ มักติดต่อกันผ่านการมีเพศสัมพันธ์ การใส่เสื้อผ้าร่วมกัน การใช้ห้องน้ำร่วมกัน เป็นต้น
1. ใช้เบนซิล แอลกอฮอล์
เบนซิล แอลกอฮอล์ (Benzyl Alcohol) เป็นแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาทำยาแก้เหา ซึ่งตัวยาจะออกฤทธิ์ฆ่าเหา แต่ไม่สามารถกำจัดไข่เหาได้ ทั้งนี้ ใช้ได้กับเด็กที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป สตรีมีครรภ์และแม่ให้นมบุตรก็สามารถใช้ได้ ทำได้ดังนี้ค่ะ
สิ่งที่ต้องเตรียม :
- เบนซิล แอลกอฮอล์ (สามรถหาซื้อได้ตามร้านขายยา หรือจากแพทย์สั่ง)
- แชมพูสระผมปกติ
วิธีทำ :
- สระผมตามปกติแล้วเป่าให้แห้ง
- ชโลมเบนซิล แอลกอฮอล์ลงบนเส้นผมให้ทั่วทั้งศีรษะ ทิ้งไว้ 10 นาที
- ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ควรใช้อย่างระมัดระวัง อย่าให้ยาเข้าตาเข้าจมูกเข้าปาก
เกร็ดสุขภาพ : นอกจากจะมีตัวเหาแล้ว ยังมีไข่เหาอีกด้วย ไข่เหาจะมีขนาดเล็กมาก มองเห็นเป็นจุดสีขาวหรือสีเหลืองเข้ม มีขนาดประมาณ 1 มิลลิเมตร สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไข่เหามักจะยึดติดแน่นอยู่ตามเส้นผมหรือโคนผม บางคนอาจสงสัยว่าไข่เหากับรังแคต่างกันยังไง ? ถ้าเป็นรังแคนั้น จะสามารถหลุดออกจากเส้นผมได้ผ่านการหวีหรือการจับออก ในขณะที่ไข่เหาจะยึดแน่นกับเส้นผม ไม่หยุดออกไปง่ายๆ ไม่สามารถหวีให้หลุดออกไปได้ ต้องใช้หวีซี่ถี่มากๆ หรือใช้หวีเสนียดเท่านั้นถึงจะหวีออกได้
2. ใช้ใบน้อยหน่า
การแก้เหาด้วยใบน้อยหน่า เป็นภูมิปัญญาไทยโบราณที่มีมาเนิ่นนาน ในใบน้อยหน่ามีสารที่สามารถฆ่าเหาได้ ทั้งยังเป็นยาสมุนไพร ปลอดสารเคมี แต่ระวังอย่าให้เข้าตาหรือโดนบริเวณผิวหนัง เพราะอาจเกิดการระคายเคืองได้ นอกจากฆ่าเหาได้แล้ว ยังช่วยแก้กลากเกลื้อน ใช้รักษาฝี แผลพุพอง เป็นหนองได้ด้วย
สิ่งที่ต้องเตรียม :
- ใบน้อยหน่าสดประมาณ 10 ใบ
- เหล้าขาวเล็กน้อย
วิธีทำ :
- ตำใบน้อยหน่ากับเหล้าขาวจนเป็นเนื้อเดียวกัน
- นำมาคั้นเอาแต่น้ำ แล้วชโลมให้ทั่วศีรษะ
- ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วใช้หวีซี่ถี่ๆ สางออก ตัวเหาที่ตายแล้วจะติดออกมาด้วย
3. ใช้กระเทียมและน้ำมะนาว
สรรพคุณกระเทียมสดนั้นมีหลายประการ นอกจากจะบำรุงสุขภาพแล้ว ยังใช้แก้เหาได้ด้วย เพราะกระเทียมนั้นมีกลิ่นแรง ช่วยไล่เหาได้ดี แล้วก็ยังมีคุณสมบัติช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียด้วยค่ะ
สิ่งที่ต้องเตรียม :
- กระเทียม 8 -10 กลีบ
- น้ำมะนาว
วิธีทำ :
- บดกระเทียมให้ละเอียด จากนั้นเติมน้ำมะนาวลงไป ผสมให้เข้ากัน
- นำมาชโลมลงบนศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
- ใช้หวีซี่ถี่ๆ สางผมเพื่อกำจัดเหา และสระผมตามปกติด้วยน้ำอุ่น
4. ใช้มะกรูด
มะกรูดก็ใช้กำจัดเหาได้เหมือนกัน ในมะกรูดนั้นมีน้ำมันหอมระเหยที่มีฤทธิ์กำจัดเหาได้ ทั้งยังมีกลิ่นหอมไม่แสบจมูกอีกด้วย นอกจากนี้ มะกรูด สรรพคุณยังช่วยขจัดรังแค ช่วยลดอาการผมร่วง และช่วยลดอาการคันได้ด้วยนะคะ
สิ่งที่ต้องเตรียม :
- มะกรูด 3 – 4 ผล
วิธีทำ :
- นำเอาผลมะกรูดมาย่างไฟจนสุก โดยเลือกเอาผลมะกรูดที่มีความแก่จัดๆ
- ปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น เมื่อเย็นแล้ว นำมาคลึงเพื่อให้มีน้ำมากๆ
- นำมาผ่าครึ่งและบีบน้ำมะกรูดลงบนศีรษะแล้วขยี้ให้ทั่ว
- ใช้หวีเสนียดหรือหวีซี่ถี่ๆ สางเส้นผม จะทำให้เหาและไข่เหาตกลงมา
- ทำอาทิตย์ละครั้ง และทำติดต่อกัน 3 อาทิตย์ จะทำให้หายเป็นเหาได้
5. ใช้นำมันสะเดา
น้ำมันสะเดา ก็เป็นวิธีแก้เหาตามแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน ด้วยเพราะมีกลิ่นเฉพาะตัว มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยกำจัดไข่เหาได้อยู่หมัด และกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์นี้ยังช่วยไล่เหาได้ดี ทั้งนี้ ใบสะเดายังเป็นสมุนไพรรักษาเชื้อราบนหนังศีรษะอีกด้วยนะคะ
สิ่งที่ต้องเตรียม :
- น้ำมันสะเดา
- แชมพูสระผมปกติ
วิธีทำ :
- หยดน้ำมันสะเดาลงในแชมพูสระผมของเราประมาณ 2 – 3 หยด
- สระผมตามปกติ แต่อย่างเพิ่งล้างออก ให้ทิ้งไว้ 20 – 30 นาที
- ใช้หวีซี่ถี่ๆ สางผมเพื่อกำจัดเหาและไข่เหา
- ล้างผมตามปกติด้วยน้ำสะอาด
6. ใช้น้ำมันยูคาลิปตัส
น้ำมันยูคาลิปตัส นอกจากจะมีกลิ่นหอมและช่วยบรรเทาอาการเป็นหวัดคัดจมูกได้แล้ว ยังช่วยแก้เหาได้ด้วย ด้วยเพราะมีสารบางอย่างที่ช่วยกำจัดเหาได้ และทำให้เหาหลุดออกจากเส้นผมได้ง่าย
สิ่งที่ต้องเตรียม :
- น้ำมันยูคาลิปตัส
- น้ำมันมะกอก 60 มิลลิลิตร
วิธีทำ :
- ผสมน้ำมันยูคาลิปตัสประมาณ 15 – 20 หยดกับน้ำมันมะกอกให้เข้ากัน
- นำมาชโลมให้ทั่วทั้งศีรษะ
- ใส่หมวกอาบน้ำคลุมไว้ หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 12 ชั่วโมง
- เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วให้ใช้หวีซี่ถี่ๆ หวีให้ตัวเหาหลุดออกจากเส้นผม
- สระผมตามปกติให้สะอาด
7. ใช้หอมแดง
วิธีแก้เหาด้วยสมุนไพรพื้นบ้านอีกวิธีหนึ่งคือ ใช้หอมแดงนั่นเองค่ะ หอมแดงนั้นมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา และยังช่วยแก้เหา ช่วยกำจัดไข่เหาออกจากเส้นผมได้ดีด้วย จะทำได้อย่างไร ไปดูกันค่ะ
สิ่งที่ต้องเตรียม :
- หอมแดง
- น้ำเปล่าสะอาด
วิธีทำ :
- ปอกเปลือกหอมแดง นำไปล้างให้สะอาด
- สับเป็นชิ้นเล็กๆ และนำเข้าเครื่องปั่น ผสมกับน้ำสะอาด ปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน
- กรองเอาแต่น้ำ
- ชโลมน้ำหอมแดงที่ได้ลงบนศีรษะ จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง
- ใช้หวีซี่ถี่ๆ สางเอาตัวเหาและไข่เหาออก
- สระผมตามปกติ ทำซ้ำทุกๆ 3 – 4 วัน เพื่อให้หายจากการเป็นเหา
และนี่ก็เป็นวิธีการแก้เหาทั้ง 7 วิธีด้วยกัน จะเห็นได้ว่าสิ่งที่ใช้นั้น หาได้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ บางอย่างก็มีอยู่ในครัวที่บ้าน อย่างมะกรูด มะนาว กระเทียม หอมแดง ซึ่งสามารถเอามาใช้ได้โดยที่ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด ทั้งนี้ ควรทำด้วยความระมัดระวัง ป้องกันไม่ให้เข้าตา เข้าจมูก เพราะอาจทำให้แสบตาและเกิดการระคายเคืองได้ แต่วิธีแก้เหาได้อย่างถาวรนั้นคือการรักษาความสะอาด ควรสระผมเป็นประจำและไม่ควรใช้ของร่วมกับผู้อื่น อย่างเช่นหวี หมวก ผ้าเช็ดผม ที่มัดผม เป็นต้น เพราะอาจทำให้ติดเหามาได้ ที่สำคัญคือ หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นเหา เพราะจะทำให้ติดเหามาได้ง่ายมากๆ ถ้าดูแลสุขอนามัยดีๆ และรักษาความสะอาดอยู่เสมอ ก็ปลอดภัยจากเหาได้ค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : pr.moph.go.th, tm.mahidol.ac.th
Featured Image Credit : freepik.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ