“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ประโยชน์ของโยคะ คืออะไร ? ฝึกแล้วได้อะไร ? มารู้จัก “โยคะ” ให้มากกว่าเดิมกัน !
การออกกำลังกายมีหลายประเภทด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่คนเราก็มักจะออกกำลังกายเพื่อให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง แต่โยคะนั้นเป็นการออกกำลังกายที่ได้ประโยชน์มากกว่าด้านกายภาพ เพราะเป็นการฝึกสติ ทำให้จิตใจผ่อนคลายได้ด้วย แถมยังช่วยให้ร่างกายมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และช่วยให้มีบุคลิกภาพทีดีขึ้นอีกต่างหาก นอกจากนี้ การเล่นโยคะยังเป็นการออกกำลังกายที่ถูกใจสาวๆ อย่างแน่นอน เพราะไม่ต้องเล่นหนักให้เหงื่อออกเยอะๆ แต่เป็นการออกกำลังกายที่เคลื่อนไหวน้อย ได้ประโยชน์มาก เราจะพาไปดู ประโยชน์ของโยคะ ให้มากขึ้นกันค่ะ
ประโยชน์ของโยคะ คืออะไร ? ทำความรู้จักกับการฝึกโยคะให้มากขึ้น !
โยคะมีต้นกำเนิดขึ้นมาจากประเทศอินเดีย และมีการพัฒนาฝึกฝนกันต่อเนื่องมายาวนานหลายพันปีแล้ว ทั้งมีการต่อยอดดัดแปลงฝึกท่าทางในรูปแบบต่างๆ จนกลายเป็นที่นิยมในปัจจุบัน หัวใจหลักของโยคะคือ การฝึกร่างกายและจิตใจ ด้วยท่าทางที่ออกแบบมาเพื่อการพัฒนาความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย พร้อมกับการฝึกกำหนดลมหายใจ ทำให้เกิดความผ่อนคลายและทำให้มีสมาธิมากขึ้น ประโยชน์ของโยคะจึงเป็นการฝึกฝนทั้งร่างกายและจิตใจให้มีความสมดุลกัน ทำให้มีการพัฒนาทั้งทางกายและใจไปพร้อมๆ กันเลยในคราวเดียว
ลักษณะเฉพาะของการฝึกโยคะ
ถึงแม้การเล่นโยคะจะไม่ใช่การออกกำลังกายที่ใช้แรงเยอะ แต่โยคะ คือการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออย่างหนึ่งเช่นกัน เนื่องจากต้องใช้พละกำลังของร่างกายในการควบคุมและทรงตัวให้อยู่ในท่าต่างๆ ที่สมดุล จึงช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกายได้ นอกจากนี้ ท่าโยคะยังช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อได้ด้วย ทำให้ลดโอกาสการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญคือ ประโยชน์ของโยคะเป็นการออกกำลังกายที่ไม่ทำให้เกิดแรงกระแทกต่อข้อต่อ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเยอะ และผู้ที่มีปัญหาเรื่องข้อต่อจึงสามารถเล่นได้สบายเลยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : โยคะในปัจจุบันมีมากกว่า 100 ประเภท โดยแต่ละประเภทจะมีจุดเด่นและการฝึกที่แต่งต่างกันออกไปในด้านความรวดเร็ว ท่วงท่าและการกำหนดลมหายใจ แต่โดยหลักๆ แล้วจะเน้นไปที่การฝึกร่างกายให้แข็งแรงและฝึกการหายให้จิตใจสงบ อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถบอกได้ว่าโยคะประเภทไหนดีที่สุดเพราะในแต่ละประเภทก็มีข้อดีต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนว่าเหมาะกับการเล่นโยคะประเภทไหนมากกว่า แต่ประโยชน์ของโยคะทุกประเภทต่างก็ส่งผลดีต่อผู้เล่นทั้งสิ้น
หลักในการเล่นโยคะ
การเล่นโยคะมีหลักการโดยทั่วไปอยู่ 3 ข้อ ได้แก่
- การวางท่า หมายถึง ท่าทางชุดการเคลื่อนไหวหรือท่าที่ค้างไว้เพื่อฝึกความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของร่างกาย
- การหายใจ หมายถึง การควบคุมการหายใจเข้าออกในแต่ละท่าให้ถูกวิธี ซึ่งสิ่งนี้เป็นหัวใจสำคัญของโยคะเลยก็ว่าได้ ช่วยให้สามารถควบคุมร่างกายและกล้ามเนื้อต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งช่วยให้จิตใจสงบขึ้นด้วย
- ทำสมาธิและการผ่อนคลาย หมายถึง การฝึกร่วมกันระหว่างร่างกายและจิตใจ โดยการทำสมาธิจะช่วยให้เรามีสติและมีความรู้สึกอยู่กับปัจจุบันตลอดเวลา
ประโยชน์ของการเล่นโยคะ ช่วยอะไรบ้าง?
1. เพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย
ประโยชน์ของโยคะนั้นช่วยในการฝึกและพัฒนากล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ให้มีความแข็งแรงขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็น แขน ขา ก้น โดยเฉพาะกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว อีกทั้งยังเป็นการออกกำลังกายที่เกิดแรงกระแทกต่ำจึงไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย ผู้สูงอายุก็สามารถทำได้อย่างปลอดภัย
2. ช่วยลดความเครียด
มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันว่า ประโยชน์ของโยคะมีส่วนช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล เพราะต้องโฟกัสอยู่ที่ตัวเองตลอดเวลา ทำให้มีสมาธิมากขึ้น จิตใจจึงรู้สึกสงบมากขึ้น ช่วยพัฒนาอารมณ์และทำให้มีความสุขมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ การเล่นโยคะยังส่งเสริมการทำงานของร่างกายและระบบประสาทต่างๆ รวมทั้งช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น จึงเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะที่สำคัญและทำให้ระดับฮอร์โมนอยู่ในภาวะปกติ
3. ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหรือภาวะเรื้อรัง
ใครกำลังเป็นโรคหืด โรคข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง ภาวะวิตกกังวล หรือมีอาการนอนไม่หลับ แนะนำว่าต้องลองฝึกโยคะเลยค่ะ เนื่องจากการฝึกโยคะนั้นมีส่วนช่วยลดความรุนแรงของโรคต่างๆ ลงได้ แถมยังช่วยป้องกันความเสี่ยงของการเกิดโรคได้ดีเลยทีเดียว
4. ช่วยลดอาการปวดหลัง
การฝึกโยคะมีส่วนช่วยในบรรเทาอาการปวดหลังเรื้อรังได้ โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องทำงานหน้าคอมเป็นประจำ หรือผู้ที่ต้องทำงานก้มๆ เงยๆ บ่อยๆ รวมถึงผู้ที่แบกของหนักเป็นประจำด้วยเช่นกัน เนื่องจากการเล่นโยคะ คือการยืดเหยียดร่างกายและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง จึงทำให้อาการปวดหลังทุเลาลงได้ โดยเพียงใช้เวลาแค่ 1 – 2 สัปดาห์เท่านั้น และยังสามารถป้องกันอาการปวดหลังเรื้อรังในระยะยาวได้ด้วย
5. ช่วยบรรเทาอาการเมาค้าง
การเล่นโยคะเปรียบเหมือนวิธีการขับสารพิษออกจากร่างกาย จึงช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย และช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ จึงมีส่วนช่วยบรรเทาอาการเม้าค้างได้อย่างรวดเร็ว
6. ทำให้ความจำดีขึ้น
นอกจากการฝึกโยคะจะเป็นการออกกำลังกายแล้ว ยังเป็นการฝึกสมาธิประเภทหนึ่งด้วย จึงทำให้จิตใจรู้สึกสงบขึ้น เมื่อมีสมาธิมากขึ้นก็ทำให้สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้เร็วขึ้นด้วย เป็นการเคลียร์พื้นที่สมองให้พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ สามารถโฟกัสสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น และช่วยทำให้เรามีความจำที่ดีขึ้นได้
7. ลดน้ำหนัก
ส่วนใหญ่ผู้ที่เริ่มเล่นโยคะมักจะคาดหวังผลในด้านลดน้ำหนักเป็นหลัก เนื่องจากการเล่นโยคะ คือการออกลังกายชนิดที่มีการใช้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆทั่วทั้งตัว และในการออกแรงแต่ละครั้งก็จะดึงไขมันและพลังงานที่สะสมไว้ออกมาใช้ จึงช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานที่มากขึ้นและทำให้ลดน้ำหนักได้ดีขึ้น อีกทั้งท่าทางของโยคะยังช่วยส่งเสริมให้มีรูปร่างสรีระที่สวยงามขึ้น ส่งผลให้มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้นด้วย
ท่าฝึกโยคะเบื้องต้น
ตอนนี้ก็ได้รู้แล้วว่า ประโยชน์ของโยคะมีอะไรบ้าง อยากลองฝึกเล่นโยคะกันแล้วใช่ไหมคะ ? เรามีท่าฝึกโยคะเบื้องต้นมาฝากกัน รับรองว่าเอาไปทำตามกันได้ง่ายๆ ว่าแล้วก็ไปฝึกกันเลยค่ะ
1. Downward Facing Dog
ท่าสุนัขก้มหน้า เป็นท่าโยคะยืดเส้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลังเป็นประจำ ท่านี้จะช่วยยืดหยุ่นกล้ามเนื้อบริเวณหลัง กระดูกสันหลัง เพิ่มความแข็งแรงให้แก่แขนและขา รวมทั้งช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้ด้วย
วิธีการฝึก :
- เริ่มจากท่าคลาน ว่างเข้าทั้ง 2 ข้างและมือบนพื้นโดยให้เข่ากว้างเท่าช่วงสะโพก และเข่าอยู่แนวเดียวกับสะโพก มือทั้งสองข้างวางกว้างเท่าช่วงไหล่กางนิ้วให้กว้าง หลังตรงไม่งอ ปล่อยไหล่สบายๆ
- หายใจออก ดันเข่ายกขึ้นทั้ง 2 ข้างทำให้ร่างกายอยู่ในรูปตัว V กลับหัว แขนกับขาเหยียดตรง กดส้นเท้าให้ติดพื้น หากใครทำไม่ได้ก็สามารถงอเข่าได้เล็กน้อย ไม่เกร็งไหล่ ทำค้างไว้ 3 กำหนดลมหายใจเข้าออก
2. Tree Pose
ท่าต้นไม้ เป็นท่าโยคะที่ค่อนข้างง่ายเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและเป็นท่าโยคะผู้สูงอายุ ช่วยในการสร้างความสมดุลและการทรงตัว ลดอาการปวดหลัง และช่วยยืดหลังให้เหยียดตรงมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น เป็นท่าทางที่ช่วยสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อส่วนต้นขา น่อง และบริเวณหลัง
วิธีการฝึก :
- เริ่มต้นด้วยการยืนตัวตรงขาชิดกัน แขนแนบข้างลำตัว
- ถ่ายน้ำหนักไปที่ขาข้างซ้ายแล้วยกขาขวาขึ้นโดยใช้มือจับที่ข้อเท้ามาวางไว้ที่ต้นขาด้านในของขาซ้าย
- หาจุดสมดุลของร่างกายให้ทรงตัวอยู่ได้
- เมื่อร่างกายสมดุลแล้วให้ประกบฝ่ามือเข้าหากัน หายใจเข้าและยืดแขนขึ้นด้านบน หรือถ้าทรงตัวยากก็สามารถพนมมือไว้กลางหน้าอกแทนได้ค่ะ
- ทำท่านี้ค้างไว้ประมาณ 30 – 60 วินาที แล้วค่อยลดมือลงเปลี่ยนมาทำแบบเดิมกับขาอีกข้าง
3. Cobra Pose
ท่างู เป็นท่าที่เพิ่มความแข็งแรงให้กระดูกสันหลัง กล้ามเนื้อหน้าท้อง ไหล่ และช่วยกระชับกล้ามเนื้อสะโพก รวมทั้งเป็นท่าโยคะ ลดพุง ช่วยกระตุ้นการทำงานของอวัยวะภายในช่องท้องอีกด้วยค่ะ
วิธีการฝึก :
- เริ่มต้นด้วยท่านอนคว่ำโดยที่ใบหน้าราบไปกับพื้น
- วางฝ่ามือมาข้างหน้าทั้งสองข้าง ขายืดตรงไปด้านหลังคว่ำหลังเท้าแนบลงกับพื้น
- หายใจเข้า ใช้แขนดันตัวขึ้นจนลำตัวไม่โดนพื้นโดยระวังอย่าให้ปวดหลัง เงยหน้าขึ้นบนเล็กน้อย ระหว่างทำไม่ควรยกไหล่ ให้กดไหล่ลงห่างจากใบหู
- ทำท่านี้ค้างไว้ 15 – 30 วินาที ระหว่างทำห้ามกลั้นหายใจต้องหายใจเข้าออกเป็นจังหวะ
เกร็ดสุขภาพ : การฝึกโยคะจริงๆ แล้วค่อนข้างปลอดภัยกับผู้ที่ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพ แต่ในบางท่าก็ควรฝึกภายใต้คำแนะนำของผู้สอนหรือผู้ที่ได้รับการอบรบอย่างถูกต้อง เพราะอาจจะเกิดอาการบาดเจ็บหรือทำท่าทางผิดได้ และผู้ที่มีปัญหาด้านสายตา โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน กระดูกพรุน มีปัญหาการทรงตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคเกี่ยวกับหัวใจและผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฝึกโยคะ
ประโยชน์ของการเล่นโยคะเป็นทั้งการฝึกทั้งกล้ามเนื้อและฝึกสมาธิไปพร้อมๆ กัน จึงเป็นการออกกำลังกายที่มีประโยชน์ทั้งต่อร่างกายและจิตใจ และยังสามารถทำตามได้ทุกวัยโดยที่ไม่ต้องกังวลในเรื่องอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ แต่ถ้าใครอยู่ในช่วงเริ่มต้นฝึกแนะนำว่าควรมีเสื่อโยคะเป็นอุปกรณ์เสริมด้วยนะคะเพื่อช่วยซัพพอร์ตร่างกายไม่ให้เป็นอันตราย และควรมีผู้ดูแลด้วยเพื่อให้ทำท่าทางได้อย่างถูกต้องและไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บในระหว่างฝึกค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : yogamyoldfriend.com, healthline.com, everydayhealth.com
Featured Image Credit : freepik.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ