X

ฮีลใจคืออะไร ? เมื่อหัวใจไม่ไหว ลองกลับมาฟังเสียงข้างในให้ชัดขึ้นอีกครั้งกัน !

เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡

ฮีลใจคืออะไร ? เมื่อหัวใจไม่ไหว ลองกลับมาฟังเสียงข้างในให้ชัดขึ้นอีกครั้งกัน !

บางครั้งเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า “ใจล้า” มันหน้าตาเป็นยังไง รู้แค่ว่ารู้สึกเบื่อ เหนื่อย หรือไม่อยากทำอะไรเลย ทั้งที่ไม่ได้มีเรื่องใหญ่โตเกิดขึ้นในชีวิต การฮีลใจจึงไม่ใช่แค่ทางออกของคนที่เจอปัญหา แต่เป็นพื้นที่เล็กๆ ที่ช่วยให้เราได้กลับมาอยู่กับตัวเองอย่างอ่อนโยน ในบทความนี้ เพื่อสุขภาพจะพาไปรู้จักว่า “ฮีลใจ” คืออะไร ทำไมเราทุกคนถึงควรให้ใจได้พักบ้าง และเราจะเริ่มฮีลใจด้วยวิธีง่ายๆ ได้ยังไงบ้างในแต่ละวัน

เหนื่อยแบบไม่มีเหตุผล หรือแค่ใจยังไม่เคยได้พัก? ลองเข้าใจ ฮีลใจคืออะไร ? อย่างแท้จริงกัน !

ฮีลใจ คืออะไร, ฮีลใจ หมายถึง
Image Credit : freepik.com

เราอาจเคยได้ยินคำว่า “ฮีลใจ” บ่อยขึ้นในช่วงหลัง แต่การจะฮีลได้จริง อาจต้องเริ่มจากการเข้าใจให้ชัดก่อนว่า “ฮีลใจคืออะไรกันแน่?” เพราะถ้ามองผิด เราอาจพยายามรักษาหัวใจด้วยวิธีที่ไม่ตอบโจทย์ตัวเอง หรือยิ่งไปกดทับความรู้สึกโดยไม่รู้ตัว การเข้าใจความหมายที่แท้จริงของการฮีลใจ จึงเป็นเหมือนการวางรากฐานให้เราดูแลตัวเอง (Self Care) อย่างถูกทาง และค่อยๆ เดินออกจากความรู้สึกเหนื่อยล้าด้วยจังหวะที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติมากขึ้น มาทำความเข้าใจเรื่องนี้กันค่ะ

เน็ตตาข่ายแบดมินตัน แบบพกพา

ฮีลใจคืออะไร ?

“ฮีลใจ” หรือ “การเยียวยาหัวใจ” คือกระบวนการที่เราหันกลับมาใส่ใจและดูแลความรู้สึกของตัวเองอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่การพยายามทำให้ลืมเรื่องที่เจ็บปวด แต่คือการยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น เข้าใจว่าความรู้สึกเหล่านั้นมีอยู่จริง และค่อยๆ ปลดปล่อยมันออกไปอย่างปลอดภัย

การฮีลใจจึงไม่ใช่การแสร้งว่าเข้มแข็ง หรือการคิดบวกอย่างเดียว แต่เป็นการยอมรับว่าบางช่วงในชีวิต เราอาจรู้สึกเหนื่อย เศร้า ผิดหวัง หรือไม่มั่นคงได้ และนั่นไม่ใช่ความผิด มันคือ “มนุษย์” อย่างหนึ่ง

ซึ่งในมุมมองฐานะนักจิตบำบัดนั้นเชื่อว่า ทุกคนมีบาดแผลในใจแตกต่างกัน การฮีลจึงไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร และไม่จำเป็นต้องรอให้เจ็บจนสุดทางก่อนถึงจะเริ่มดูแลใจตัวเอง เพราะการฮีล คือการหันมาฟังหัวใจด้วยความเข้าใจ เห็นคุณค่าของตัวเองใหม่อีกครั้ง และให้ความรู้สึกได้มีที่อยู่โดยไม่ต้องปิดบังมันไว้ตลอดเวลา

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “การฮีลใจ”

ฮีลใจ คืออะไร, ฮีลใจ หมายถึง
Image Credit : freepik.com

แม้คำว่า “ฮีลใจ” จะฟังดูเรียบง่าย แต่ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังค่อนข้างคลาดเคลื่อนอยู่มากในสังคมปัจจุบัน ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เรา “รู้สึกผิด” ที่ยังไม่ดีขึ้น หรือกดดันตัวเองโดยไม่รู้ตัว ลองมาดูกันดีกว่าว่าคุณเองก็เคยเข้าใจผิดๆ ด้วยหรือเปล่า ?

1. ฮีลใจ คือการต้องให้อภัยเสมอ

หลายคนคิดว่าการฮีลใจคือการ “ให้อภัย” กับทุกอย่างที่ทำให้เจ็บปวด แต่จริงๆ แล้ว การฮีลใจคือการเข้าใจว่า เรารู้สึกอะไร และเลือกตอบสนองกับมันอย่างที่ใจเราพร้อม ไม่จำเป็นต้องให้อภัยทันที หรือกลับไปสัมพันธ์กับสิ่งที่ทำร้ายเรา การให้อภัยเป็น “ทางเลือก” ไม่ใช่ “ข้อบังคับ”

2. ฮีลใจ ต้องไม่ร้องไห้ ต้องเข้มแข็ง

บางคนพยายามฮีลใจด้วยการกลั้นน้ำตา หรือพยายาม “คิดบวก” อย่างเดียว ทั้งที่จริง การได้ร้องไห้หรือยอมรับว่าเรารู้สึกเปราะบาง คือหนึ่งในกระบวนการฮีลที่ลึกซึ้งที่สุด เพราะเรายอมรับตัวเองในแบบที่เป็น ไม่ฝืน ไม่ปิดบัง

3. ฮีลใจ ต้องหายเร็ว

การฮีลใจไม่ใช่เส้นตรง ไม่มีสูตรตายตัว และไม่มี “เวลาเฉลี่ย” ว่าคนเราควรหายจากความเจ็บปวดภายในกี่วัน บางวันอาจรู้สึกดีขึ้น แต่วันต่อมาอาจรู้สึกแย่อีกก็ได้ และนั่นไม่ได้แปลว่าเราล้มเหลว มันแปลว่าเรากำลังฮีลอยู่ในแบบของเราเอง

4.ฮีลใจจะเกิดขึ้นได้ต้องทำคนเดียวเท่านั้น

บางคนเชื่อว่าการฮีลใจที่แท้ต้องเกิดจาก “ตัวเราเท่านั้น” แต่จริงๆ แล้วการขอความช่วยเหลือ เช่น พูดคุยกับนักจิตวิทยา ปรึกษาคนที่ไว้ใจ หรือมีพื้นที่ปลอดภัยให้ระบายความรู้สึก ก็เป็น “ส่วนหนึ่งของการฮีล” ที่สำคัญมากๆ นะคะ

เพราะฉะนั้น แทนที่จะพยายามทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามภาพในหัว ลองถามตัวเองเบาๆ ว่า “ตอนนี้ใจเราต้องการอะไร?” แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะเริ่มฮีลในแบบของเราเองค่ะ

จะรู้ได้ยังไง ? ว่าเราควรเริ่มฮีลใจ !

ฮีลใจ คืออะไร, ฮีลใจ หมายถึง
Image Credit : freepik.com

ลองสังเกตสัญญาณเงียบๆ เหล่านี้ ที่มักบอกเราอย่างอ้อมๆ ว่าถึงเวลาแล้วหล่ะที่เราควรหันกลับมาเยียวยาหัวใจตัวเอง มาดูกันค่ะ

1.รู้สึกเหนื่อยง่าย ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรหนัก

บางคนรู้สึกหมดแรงตั้งแต่ตื่น ทั้งที่ร่างกายอาจจะไม่ได้ป่วยอะไร เหมือนพลังใจรั่วออกไปทุกวัน โดยไม่มีที่เติมเต็ม

2.อารมณ์เหวี่ยงง่าย ไม่เข้าใจตัวเอง

อยู่ๆ ก็รู้สึกเศร้า เบื่อ โกรธ หรือเกลียดตัวเองโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน เป็นเพราะความรู้สึกบางอย่างสะสมจนล้น โดยที่เราอาจไม่ทันรู้ตัว

3. เริ่มไม่อินกับสิ่งที่เคยชอบ

สิ่งที่เคยทำให้มีความสุข กลับรู้สึกเฉยชา ไม่มีแรงจะลุกขึ้นมาทำ แม้จะเป็นเรื่องง่ายๆ อย่างการดูหนัง ฟังเพลง หรือคุยกับเพื่อน

FULI เครื่องนวดคอ บ่า ไหล่ ไฟฟ้าอัจฉริยะ | FULI Neck and Shoulder Massager

4. คิดวนกับอดีต หรือรู้สึกผิดซ้ำๆ

ย้อนคิดเรื่องเดิมซ้ำไปมา รู้สึกผิดกับสิ่งที่ผ่านไปนานแล้ว หรือยังคงเจ็บปวดกับเหตุการณ์ที่คนอื่นอาจลืมไปแล้ว แต่เรายัง “อยู่กับมัน” อย่างเงียบๆ

5. รู้สึกว่าตัวเอง “ไม่มีค่า” หรือ “ไม่น่ารัก”

เริ่มไม่มั่นใจในตัวเอง รู้สึกว่าเราเป็นภาระ หรือเป็นคนที่ไม่น่าถูกรัก ความรู้สึกแบบนี้มักสะท้อนว่าใจเรากำลังบอบช้ำ และเรียกร้องการดูแลค่ะ

ถ้ามีข้อใดข้อหนึ่งที่ตรงกับคุณ ไม่ต้องตกใจหรือรีบร้อนเปลี่ยนแปลงตัวเองทันที แต่แค่การ “รับรู้” ว่าใจเรากำลังอ่อนล้า ก็ถือเป็นก้าวแรกของการฮีลแล้ว นอกจากนี้อยากให้ทุกคนรู้ว่า การฮีลใจไม่ใช่การรีบให้หายไวๆ แต่คือการอยู่กับความรู้สึกอย่างอ่อนโยน และให้ตัวเองค่อยๆ เดินออกจากพื้นที่เจ็บปวดอย่างที่ใจเราพร้อมเสมอค่ะ

แล้วเราจะเริ่มฮีลใจยังไงดี ?

ฮีลใจ คืออะไร, ฮีลใจ หมายถึง
Image Credit : freepik.com

การฮีลใจ ดูแลสุขภาพใจของเราไม่จำเป็นต้องเริ่มจากอะไรยิ่งใหญ่หรือซับซ้อน บางครั้งมันเริ่มจากแค่การยอมรับว่า “เรากำลังรู้สึกอะไรอยู่” โดยไม่ต้องรีบเปลี่ยนแปลงมันทันที เพราะใจเราไม่ต้องการคำสั่ง แต่มันต้องการพื้นที่ปลอดภัยที่จะได้ “รู้สึก” อย่างที่เป็นจริงๆ และนี่คือวิธีที่เราอยากแนะนำที่คุณสามารถใช้เริ่มฮีลใจได้ในชีวิตประจำวันค่ะ

1. ฟังความรู้สึกตัวเองอย่างไม่ตัดสิน

เริ่มจากสังเกตและเขียนความรู้สึกของตัวเองลงในกระดาษ เช่น วันนี้รู้สึกอะไรบ้าง ? มีเรื่องไหนทำให้ใจของเราสะเทือนใจหรือเปล่า ? และไม่ต้องแก้ไข แค่รับรู้ว่าความรู้สึกเหล่านั้นมีอยู่ และคุณก็ไม่ได้ผิดที่รู้สึกแบบนั้น

2. พาตัวเองออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย

ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นคนเดียว ทานข้าวกับคนที่คุยด้วยแล้วสบายใจ หรือแค่ได้อยู่เงียบๆ สักพักในมุมส่วนตัว บางครั้งสภาพแวดล้อมที่ไม่กดดันก็คือจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูหัวใจแล้ว

3. พูดกับตัวเองอย่างที่พูดกับคนที่คุณรัก

ลองถามตัวเองว่า “ถ้าเพื่อนเรารู้สึกแบบนี้ เราจะพูดกับเขาว่ายังไง ?” แล้วค่อยๆ ใช้คำพูดแบบเดียวกันนั้นกับตัวเอง เพราะความเมตตาที่เรามอบให้ตัวเอง เป็นพลังฮีลใจที่สำคัญที่สุด

4. ลดการเสพสิ่งที่ทำให้ใจยิ่งเจ็บ

บางครั้งเราก็เผลอเปิดใจให้สิ่งที่ตอกย้ำความรู้สึกแย่นั้นๆ เช่น การเปรียบเทียบตัวเองบนโซเชียล หรือการวนกลับไปอ่านข้อความจากคนที่ทำให้เราเจ็บ ลองตั้งเวลาให้ “ใจได้พักจากโลกภายนอก” อย่างตั้งใจวันละนิดก็ช่วยได้มากนะคะ

5. อยู่กับปัจจุบันแบบไม่เร่งรีบ

การหายใจลึกๆ ช้าๆ การอยู่กับกิจกรรมตรงหน้า เช่น ล้างจาน ฟังเสียงฝน หรือเดินโดยไม่มีจุดหมาย เป็นวิธีที่ช่วยให้จิตใจกลับมา “อยู่กับตัวเอง” แทนที่จะหลงอยู่กับอดีตหรือกังวลเรื่องอนาคต

การฮีลใจไม่ใช่เรื่องต้องรีบ และไม่มีใครวัดได้ว่าเราทำได้ดีแค่ไหน เพราะเป้าหมายไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบ แต่คือความอ่อนโยนที่เราค่อยๆ มอบให้ตัวเองในทุกๆ วันนั่นเองค่ะ

เกร็ดสุขภาพ : ถ้ารู้สึกว่าใจเริ่มล้า ลองหลับตาแล้วหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ นับ 1–4 แล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออก นับ 1–6 เพื่อให้ระบบประสาทสงบลง หรือเขียนจดหมายถึงตัวเองในวันที่เหนื่อย บอกความรู้สึกออกมาอย่างไม่ต้องเรียบเรียงให้สวยงาม และอีกวิธีง่ายๆ คือวางมือบนหน้าอกแล้วพูดเบาๆ ว่า “เราอยู่ตรงนี้นะ” แค่นี้ ใจก็อุ่นขึ้นได้เล็กๆ แล้วค่ะ นอกจากนี้การใช้ Pet therapy หรือการให้สัตว์เลี้ยงเยียวยาเราก็เป็นวิธีที่น่าสนใจ

การฮีลใจเชื่อมโยงกับสุขภาพกายยังไงบ้าง ?

ฮีลใจ คืออะไร, ฮีลใจ หมายถึง
Image Credit : freepik.com

หลายคนอาจคิดว่าการฮีลใจเป็นเรื่องของความรู้สึกล้วนๆ แต่จริงๆ แล้ว “ใจ” และ “กาย” ทำงานเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดมากกว่าที่คิด เมื่อใจไม่ไหว ร่างกายก็มักส่งสัญญาณให้เรารู้ว่ามันถึงเวลาต้องดูแลตัวเองทั้งภายในและภายนอกแล้ว มาดูกันค่ะว่าการฮีลใจส่งผลต่อสุขภาพกายยังไงบ้าง

1. ลดความเครียดเรื้อรัง (Chronic Stress)

เมื่อเราไม่กดทับอารมณ์ไว้ การฮีลใจจะช่วยลดการทำงานเกินของฮอร์โมน cortisol ซึ่งหากสะสมมากเกินไปอาจทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ความดันขึ้น หรือหลับไม่สนิท

2. ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น

การได้ปลดปล่อยความคิดที่วนซ้ำก่อนนอน หรือมีพื้นที่ปลอดภัยทางใจ จะช่วยให้สมองเข้าสู่โหมดผ่อนคลาย ทำให้หลับลึกและซ่อมแซมร่างกายได้ดีขึ้น

3. ลดอาการปวดเมื่อยที่มาจากความเครียดสะสม

อารมณ์ที่ยังไม่ถูกปลดปล่อยมักสะสมอยู่ในร่างกาย เช่น ไหล่ตึง ปวดคอ ปวดท้องโดยไม่มีสาเหตุ การฮีลใจจะช่วยคลายระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้ร่างกายคลายตัวตามไปด้วย

4. ฟื้นฟูระบบย่อยอาหาร

เมื่อใจเครียด ร่างกายจะไปกดระบบย่อยอาหารโดยอัตโนมัติ หลายคนจึงมีปัญหาท้องอืด ท้องเสีย หรือเบื่ออาหาร การฮีลใจช่วยให้ร่างกายกลับเข้าสู่ระบบ “พักผ่อนและย่อย” (rest & digest)

5. เพิ่มพลังงานชีวิตโดยไม่ต้องฝืน

ใจที่ได้รับการดูแลทำให้เรารู้สึกเบาสบายขึ้นโดยไม่ต้องฝืนใช้พลัง ความสดชื่นจะค่อยๆ กลับมา ทั้งในแววตา ท่าทาง และพลังในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน

เกร็ดสุขภาพ : อุปสรรคที่เจอบ่อยเวลาจะฮีลใจคือ “ความรู้สึกผิดที่ยังไม่หายดี” หลายคนคิดว่าต้องรีบดีขึ้นหรือเข้มแข็งให้เร็ว ซึ่งยิ่งทำให้กดดันตัวเองมากขึ้น วิธีรับมือคือยอมรับว่าการฟื้นฟูใจไม่ใช่เรื่องแข่งกับเวลา และทุกก้าวเล็กๆ ที่เราดูแลตัวเอง ก็คือความคืบหน้าแล้วในแบบของเราเองค่ะ

Bewell เบาะรองหลัง ทรงสูง + เบาะรองนั่ง เมมโมรี่โฟมแท้ 100%

การฮีลใจคือการกลับมาใส่ใจความรู้สึกของตัวเองอย่างอ่อนโยน โดยไม่เร่งให้ดีขึ้นหรือกดดันให้ลืมสิ่งที่เจ็บปวด มันคือกระบวนการที่ช่วยฟื้นฟูทั้งใจและกายไปพร้อมกัน แม้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็เริ่มได้จากสิ่งเล็กๆ ในทุกๆ วัน และยิ่งเข้าใจว่าการฮีลใจคืออะไร เราก็ยิ่งดูแลตัวเองได้ลึกและจริงมากขึ้นค่ะ

ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ

ติดต่อโฆษณา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้การวิเคราะห์

    เราขออนุญาติใช้คุกกี้นี้เก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดีขึ้นให้กับคุณ

Save