X

โรคเกี่ยวกับหู มีอะไรบ้าง ? อย่ามองข้ามอาการปวดหู ก่อนที่จะเป็นเรื่องใหญ่ !

เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡

โรคเกี่ยวกับหู มีอะไรบ้าง ? อย่ามองข้ามอาการปวดหู ก่อนที่จะเป็นเรื่องใหญ่ !

หูเป็นอวัยวะในร่างกายที่ถูกใช้งานอย่างหนักหน่วงในแต่ละวัน โดยเฉพาะในผู้ที่ชอบใส่หูฟังเป็นประจำ ทั้งนี้ สิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมต่างๆ อาจทำให้หลายคนมีโรคที่เกี่ยวกับหูโดยไม่รู้ตัว ซึ่งโรคเกี่ยวกับหูนั้นก็มีหลายอย่างด้วยกัน หากใครพบว่าตนเองมีอาการผิดปกติทางการได้ยินจึงควรไปพบแพทย์ทันทีตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง และควรใส่ใจดูแลหูให้ดีเพื่อให้คงความสามารถทางการได้ยินตามปกติ เราจะพาไปทำความรู้จักกันเลยค่ะว่า โรคเกี่ยวกับหู มีอะไรบ้างที่ควรระวังไว้ เพื่อดูแลตนเองได้อย่างถูกวิธีค่ะ

โรคเกี่ยวกับหู ที่ต้องรู้ไว้ โรคใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม !

โรคเกี่ยวกับหู, อาการปวดหู
Image Credit : freepik.com

โรคเกี่ยวกับหูอาจจะดูเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรง แต่มีคนไทยกำลังป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวกับหูหรือโรคที่เกี่ยวกับการได้ยินอยู่ไม่น้อย ทั้งที่เกิดขึ้นโดยทราบสาเหตุและไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งสิ่งที่ทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวหูนั้นอาจจะมาจากพฤติกรรม อารมณ์ กรรมพันธุ์ สภาพแวดล้อมโดยรอบ รวมถึงความเครียดต่างๆ ที่อาจจะส่งผลต่อหูของเราได้เช่นกัน หากใครกำลังเป็นโรคเกี่ยวกับหูแล้วได้รับการรักษาช้าเกินไปก็อาจจะมีอาการร้ายแรงจนถึงขั้นหูหนวกเลยก็เป็นได้ ดังนั้นจึงไม่ควรละเลยเมื่อหูมีอาการผิดปกติหรือมีอาการปวดหู แต่ก่อนอื่นเรามาดูโครงสร้างของหูกันก่อนเลยค่ะ เพื่อที่จะได้เข้าใจโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับหูได้มากขึ้น

ส่วนประกอบของหูมีอะไรบ้าง

ก่อนที่จะไปพูดกันถึงโรคเกี่ยวกับหู อยากจะพาไปรู้จักกับส่วนประกอบของหูของเราก่อนเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง โดยหูนั้นจะแบ่งเป็น 3 ส่วนที่ทำงานร่วมกัน ได้แก่

  1. หูชั้นนอก ได้แก่ ใบหู รูหู และเยื้อแก้วหู
  2. หูชั้นกลาง ไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก มีลักษณะเป็นเหมือนห้องสี่เหลี่ยม มีกระดูก 3 ชิ้น คือกระดูกค้อน ทั่ง และโกลน ทำหน้าที่เกี่ยวกับการได้ยิน
  3. หูชั้นใน อยู่ด้านในสุดและไม่สามารถมองเห็นได้จากการส่องกล้อง เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการได้ยินและการทรงตัวของร่างกาย

เกร็ดสุขภาพ : โรคที่เกี่ยวกับหูนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ในคนทุกวัย โดยมีกลุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโรคคือ กลุ่มผู้สูงอายุที่เส้นประสาทเสื่อมตามวัย และกลุ่มที่ทำงานในโรงงาน รวมถึงกลุ่มคนที่ต้องทำงานในสถานที่ที่มีเสียงดัง เช่น ผับ บาร์ เป็นต้น การต้องอยู่ในสถานที่ที่มีความดังของเสียงในระดับ 100 -120 เดซิเบลนั้นเป็นความดังที่เกินค่ามาตรฐาน และถ้าต้องได้ยินเสียงความดังระดับนี้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานกว่า 7 ชั่วโมง/วัน ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น และกลุ่มผู้ที่ใช้หูฟังเป็นประจำก็ส่งผลให้ประสาทหูเสื่อมได้เช่นกัน

โรคเกี่ยวกับหูที่ควรรู้จัก

โรคเกี่ยวกับหู, อาการปวดหู
Image Credit : freepik.com

หูของเรานั้นนอกจากจะช่วยในเรื่องการได้ยินเสียงแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการทรงตัวของร่างกายอีกด้วย ดังนั้นหากพบว่ามีอาการปวดหู รู้สึกมีอาการคัน ระคายเคือง ปวดหู หูอื้อ ไม่ว่าจะเป็นปวดตื้อๆ เจ็บแปลบ รู้สึกแสบร้อน หรือมีของเหลวไหลออกจากหูก็ไม่ควรปล่อยไว้นาน เพราะอาจส่งผลทำให้รู้สึกเจ็บหูได้ทุกครั้งที่เคลื่อนไหวหรืออาจนำไปสู่การเป็นอัมพาตของเส้นประสาทสมองบางเส้นได้ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีอาการปวดหูร่วมกับอาการบวมแดงเฉพาะที่หรือเป็นหัวฝีได้ และในบางรายอาจมีหนองภายในหูร่วมด้วย ซึ่งควรไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ โรคที่เกี่ยวกับหูก็มีหลายโรคด้วยกัน เช่น ขี้หูอุดตันช่องหู การติดเชื้อในช่องหู แก้วหูทะลุ โรคของสมอง เนื้องอก การไหลเวียนกระแสโลหิตบกพร่อง แต่โรคเกี่ยวกับหูที่พบได้บ่อยจะมี 5 โรคหลักๆ คือ

1. ขี้หูอุดตัน

ขี้หูอุดตันก็เป็นภาวะที่พบได้บ่อย แล้วก็พบได้ทุกช่วงวัย และมักจะพบได้บ่อยขึ้นตามอายุที่มากขึ้น อาการจะเหมือนกับโรคหูทั่วไป คือ มีอาการหูอื้อ รู้สึกแน่นในหู มีเสียงในหู และหูได้ยินเสียงลดลง ซึ่งถ้ามีอาการดังกล่าวควรไปโรงพยาบาลหรือไปพบแพทย์ ไม่ควรแคะหูเพราะอาจทำให้หูติดเชื้อ หรือแก้วหูทะลุได้

2. น้ำในหูไม่เท่ากัน

หลายคนน่าจะเคยได้ยินโรคน้ำในหูไม่เท่ากันมาบ้างแล้ว ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของร่างกาย โดยจะมีน้ำคั่งในหูชั้นใน หรือมีความดันในหูเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นโรคที่ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด คาดว่าเกิดจากการที่ร่างกายสร้างน้ำในหูชั้นในมากขึ้น พบได้บ่อยในช่วงอายุ 40 – 60 ปี โดยผู้ที่เป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากันจะมีอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน ทรงตัวไม่ค่อยอยู่ เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 15 นาทีขึ้นไปแต่ไม่เกิน 12 ชั่วโมง ทั้งนี้ ในบางรายพบว่าได้ยินเสียงลมพัดในหู หรือรู้สึกหูอื้อ ทั้งยังมีการได้ยินลดลงด้วย

3. สูญเสียการได้ยินแบบประสาทหูเสื่อม

เป็นโรคที่ทำให้ระดับการได้ยินลดลง ซึ่งอาการอาจจะเกิดขึ้นจากความเสื่อมตามวัยและยากที่จะฟื้นฟูให้กลับมาได้ยินดังเดิม โดยสาเหตุที่ทำให้สูญเสียการได้ยินแบบประสาทหูเสื่อมคือ เกิดจากความเสื่อมสภาพของเซลล์ประสาทหูชั้นใน จึงทำให้การได้ยินลดลง และในบางรายอาจจะมีเสียงรบกวนในหูร่วมด้วย เช่น ได้ยินเสียงซ่า เสียงคล้ายจิ้งหรีด โดยอาการของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไป มักพบในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และมีโอกาสพบมากตามอายุที่เพิ่มขึ้น

4. ตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด

โรคเกี่ยวกับหูอีกโรคหนึ่งที่พบได้บ่อยก็คือ โรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด โดยจะมีอาการคือ รู้สึกเวียนศีรษะ บ้านหมุน รู้สึกโคลงเคลงหรือเสียการทรงตัวเมื่อมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนตามมาได้ ซึ่งการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วนั้น อาจทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของตะกอนหินปูนในหูได้ โดยปกติแล้วอาการเวียนศีรษะจะเกิดขึ้นไม่นาน และจะหายได้เอง ทั้งนี้ อาจกลับมาเป็นซ้ำได้อีกเช่นกัน

5. ประสาทหูดับฉับพลัน

หากหูอื้อข้างเดียว อาจเกิดจากประสาทหูดับฉับพลันซึ่งเป็นโรคที่มักจะเกิดขึ้นกับหูข้างใดข้างหนึ่ง ส่งผลให้ประสิทธิภาพการได้ยินลดลงในทันที ซึ่งอาจจะกินเวลานานถึง 72 ชั่วโมงเลยทีเดียว โดยส่วนใหญ่มักจะไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัด อาจจะเกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหูหรืออาจจะเกิดจากเชื้อไวรัสก็ได้ ผู้ที่มีอาการประสาทหูดับฉับพลันมีโอกาสหายได้หากรีบมาพบแพทย์ตั้งแต่เริ่มมีอาการ แต่ถ้าปล่อยไว้นานก็อาจส่งผลทำให้หูดับได้เลย

วิธีป้องกันและดูแลรักษาหู ทำได้อย่างไรบ้าง

โรคเกี่ยวกับหู, อาการปวดหู
Image Credit : freepik.com

1. หลีกเลี่ยงการแคะหู

ในรูหูของเรานั้นจะมีการสร้างขี้หูขึ้นมาตามธรรมชาติ มีหน้าที่เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและฝุ่นละอองที่จะเข้ามาภายในหู ซึ่งร่างกายจะดันขี้หูออกมาเองโดยที่เราไม่ต้องทำอะไร หากเราพยายามแคะขี้หูโดยวิธีการใช้ก้านสำลีหรือที่แคะหูก็อาจจะเกิดอันตรายต่อแก้วหูของเราได้ ถ้ารู้สึกว่าร่างกายมีขี้หูเยอะเกินไปหรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้าหู (สามารถอ่าน มดเข้าหู อาการเป็นอย่างไร เป็นข้อมูลเพิ่มเติมได้ค่ะ) แนะนำให้ไปพบแพทย์จะดีกว่า เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและทำความสะอาดหูได้อย่างถูกวิธีค่ะ

2. อย่าอยู่ในสถานที่ที่มีเสียงดังเกินไป

หากจำเป็นต้องอยู่ในสถานที่ที่มีเสียงดัง ควรใช้ที่อุดหูลดระดับเสียงหรือตัดเสียงเพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการปวดหู และยังเป็นการป้องกันไม่ให้ประสาทหูทำงานหนักเกินไป จนอาจจะทำให้ประสาทหูเสื่อมสภาพก่อนวัย และถ้าหากต้องการใส่หูฟังในการฟังเพลงก็ไม่ควรใส่นานเกิน 1 ชั่วโมงติดต่อกัน ควรมีช่วงเวลาถอดหูฟังออกมาพักหูบ้างสัก 5 นาที/ชั่วโมง

3. ทำให้หูแห้งให้เร็วที่สุด

หลังจากอาบน้ำเสร็จหรือหลังจากทำกิจกรรมทางน้ำที่ทำให้หูเปียกน้ำ ควรรีบเช็ดทำความสะอาดให้แห้งโดยเร็วที่สุด เพราะการที่หูเปียกเป็นเวลานานอาจมีโอกาสทำให้แบคทีเรียหรือเชื้อโรคเข้าสู่หูได้ และอาจส่งผลต่อการได้ยินในอนาคตด้วย

4. ตรวจเช็คหูกับแพทย์เป็นประจำ

หลายคนละเลยการไปตรวจสุขภาพหูและตรวจการได้ยิน เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น แต่การตรวจสุขภาพหูนั้นแพทย์จะทำการทดสอบประเมินสุขภาพของหูและการได้ยินอย่างละเอียด หากพบว่าหูมีความผิดปกติก็จะได้ทำการรักษาอย่างทันท่วงทีก่อนจะเป็นโรคที่เกี่ยวกับหูซึ่งมีอาการรุนแรงมากกว่าเดิม

เกร็ดสุขภาพ : การรักษาโรคที่เกี่ยวกับหูนั้นมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันไปตามอาการของแต่ละโรค โดยจะมีทั้งการกินยา ฉีดยา และทางเลือกเสริมคือการใช้ตู้อัดแรงดันออกซิเจน หากใครคิดว่าตัวเองมีปัญหาเกี่ยวกับการได้ยินจึงควรรีบมาพบแพทย์ทันที เพื่อฟื้นฟูหูก่อนที่จะมีปัญหาทางการได้ยินและเพื่อที่จะสามารถรักษาหูให้กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมได้

โรคของหูนั้นส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากกว่าที่คิด โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่มีเส้นประสาทหูปกติจะสามารถได้ยินเสียงที่ระดับ 25 เดซิเบล แต่ถ้าหูมีปัญหาก็อาจจะต้องใช้เสียงที่ดังกว่านี้หรืออาจจะต้องใช้เครื่องช่วยฟังเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าใครไม่อยากเป็นโรคที่เกี่ยวกับหู ควรหมั่นสังเกตอาการของตัวเองและดูแลหูอยู่เสมอ และเมื่อมีอาการแคะหูแล้วเจ็บ ปวดหู หรือรู้สึกผิดปกติ ควรรีบทำการรักษาทันที เพราะผลของการปล่อยละเลยอาจร้ายแรงจนถึงขั้นสูญเสียความสามารถทางการได้ยินเลยทีเดียว

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : princsuvarnabhumi.com, medparkhospital.com, phyathai.com, chula.ac.th, my.clevelandclinic.org, medlineplus.gov

Featured Image Credit : freepik.com/stefamerpik

ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ

ติดต่อโฆษณา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้การวิเคราะห์

    เราขออนุญาติใช้คุกกี้นี้เก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดีขึ้นให้กับคุณ

Save