X

ฝากไข่ คือ อะไร ? ชวนรู้จักการวางแผนมีบุตรสำหรับผู้หญิงยุคใหม่

เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡

ฝากไข่ คือ อะไร ? ชวนรู้จักการวางแผนมีบุตรสำหรับผู้หญิงยุคใหม่

เชื่อว่าในหลายๆ คู่แต่งงาน นิยามของการมีครอบครัวที่สมบูรณ์คือการมีลูกที่เป็นทายาทของเรา และสำหรับสาวๆ บางคน การเป็นแม่ อาจเป็นหนึ่งในความฝันสูงสุดของชีวิต และถ้าบางคนที่มีความพร้อมแล้ว ก็อาจวางแผนมีบุตรทันที แต่สำหรับบางคนนั้น ก็ยังไม่มีความพร้อมที่จะมีลูกในตอนนี้ เพราะยังคงสนุกกับงาน ยังไม่ได้คิดจะแต่งงาน หรือบางคนก็มีแฟนแล้ว แต่ยังไม่ได้วางแผนที่จะแต่งงานมีลูก และบางคนก็ยังเป็นโสดอยู่ แต่ก็มีความกังวลว่า เมื่อมีความพร้อมแล้ว มีครอบครัวที่มั่นคงแล้ว อาจจะเลยวัยที่จะตั้งครรภ์ได้ และการตั้งครรภ์เมื่อมีอายุเกิน 35 ปีขึ้นไป ก็มีความเสี่ยงที่ลูกจะมีความผิดปกติ ดังนั้น จึงมีทางเลือกหนึ่งสำหรับสาวๆ คือ การฝากไข่ แล้วการ ฝากไข่ คือ อะไร ? ทำไมปัจจุบันผู้หญิงรุ่นใหม่จึงมีความคิดที่จะไปฝากไข่กัน แล้วการฝากไข่ ราคาเท่าไหร่ ? มีค่าใช้จ่ายสูงหรือไม่ ? เรามีคำตอบมาให้แล้วค่ะ

ฝากไข่ คืออะไร ? ชวนรู้จักทางเลือกการวางแผนมีลูกของผู้หญิงยุคใหม่

    ฝากไข่ คือ, ฝากไข่ ราคา
    Image Credit : freepik.com

    สำหรับผู้หญิงแล้ว ช่วงอายุที่เหมาะสมสำหรับการตั้งครรภ์นั้น จะอยู่ระหว่าง 20 – 35 ปี เพราะเป็นช่วงอายุที่ร่างกายมีความแข็งแรง สามารถตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัย สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์หลังอายุ 35 ปีขึ้นไป อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ ทั้งภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ครรภ์เป็นพิษ เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด รวมไปถึง เด็กมีการเจริญเติบโตช้า หรือมีภาวะโครโมโซมผิดปกติได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับสาวๆ บางคนแล้ว ในวัย 30 ปีขึ้นไป อาจจะกำลังสนุกกับงาน และยังไม่ได้วางแผนที่จะแต่งงานสร้างครอบครัว หรือบางคนอาจจะยังไม่มีแฟนเลยก็ได้ แต่ก็มีความคิดที่ว่าในอนาคตอยากจะแต่งงานมีลูก แต่ในตอนนี้ยังไม่พร้อม ดังนั้น จึงมีทางเลือกคือ การไปฝากไข่ (Eggs Freezing or Oocyte cryopreservation) เอาไว้ก่อนนั่นเอง

    การฝากไข่ คือ การเก็บรักษาไข่ที่เป็นเซลล์สืบพันธุ์ของผู้หญิงเอาไว้ โดยการนำไข่ที่อยู่ในสภาพดีและยังอยู่ในวัยเจริญพันธ์ุออกมาจากรังไข่ และนำมาแช่แข็งโดยใช้ไนโตรเจนเหลวที่อุณหภูมิประมาณ – 195 ถึง – 197 องศาเซลเซียสในห้องปฏิบัติการ ซึ่งจะทำให้เซลล์ทุกเซลล์หยุดการทำงานอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงสภาพและประสิทธิภาพของเซลล์เอาไว้ได้ และการไปฝากไข่ในช่วงอายุที่ยังอยู่ในวัยเจริญพันธุ์นั้น จะช่วยลดความเสี่ยงที่บุตรจะมีความผิดปกติได้ และเมื่อถึงเวลาที่มีความพร้อมแล้วหรือต้องการมีบุตรแล้ว ก็สามารถนำไข่มาผสมกับอสุจิโดยการปฏิสนธิภายนอก จนเมื่อเติบโตเป็นตัวอ่อนแล้วจึงนำไปฝังตัวที่ผนังมดลูก และเจริญเติบโตเป็นเด็กทารกในครรภ์ต่อไป

    ฝากไข่ จำเป็นไหม ? ใครบ้างที่ควรฝากไข่ ?

    ฝากไข่ คือ, ฝากไข่ ราคา
    Image Credit : freepik.com

    การฝากไข่ คืออีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการวางแผนมีบุตรในอนาคต เหมาะกับคนที่วางแผนจะมีลูก แต่ยังไม่พร้อมตั้งครรภ์ในตอนนี้ จึงควรทำการฝากไข่เอาไว้ก่อน เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่างๆ ในกรณีที่ตั้งครรภ์เลยช่วงอายุของไข่ที่เหมาะสมไปแล้ว ซึ่งการฝากไข่ เหมาะกับสาวๆ ที่

    • ต้องการเก็บไข่ไว้เพื่อนำไปปฏิสนธิกับอสุจิของคู่แต่งงานในอนาคต โดยเฉพาะผู้หญิงที่อายุใกล้ 35 ปี และยังไม่มีแผนที่จะตั้งครรภ์ในเร็วๆ นี้
    • กำลังรักษาโรคต่างๆ ในปัจจุบัน เช่น โรคมะเร็ง ซึ่งกระบวนการรักษาโรคมะเร็งอาจส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ที่ส่งผลกระทบต่อจำนวนของเซลล์ไข่และคุณภาพของไข่ และในบางคนอาจจะต้องตัดรังไข่ออก ดังนั้น หากวางแผนจะมีบุตรในอนาคต จึงต้องฝากไข่เอาไว้ก่อน 
    • ต้องได้รับการผ่าตัดรังไข่ เช่น เป็นซีสต์ หรือมีเนื้องอกที่รังไข่ ซึ่งจะทำให้ไข่มีจำนวนลดลงหลังจากการผ่าตัด อาจทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก จึงต้องทำการเก็บไข่เอาไว้
    • คนที่มีกรรมพันธ์ุประจำเดือนหมดเร็ว คือ ประจำเดือนหมดเร็วในช่วงก่อนอายุ 47 – 50 ปี ซึ่งทำให้ช่วงโอกาสในการตั้งครรภ์ลดลง การฝากไข่ คือวิธีที่จะทำให้สามารถเก็บไข่ในช่วงเจริญพันธ์ุเอาไว้ได้

    เกร็ดสุขภาพ :  ข้อดีของการฝากไข่ คือ ช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการที่ทารกจะมีความผิดปกติของโครโมโซม และลดโอกาสที่เด็กจะมีภาวะดาวน์ซินโดรมได้ และยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์เมื่ออายุมากขึ้น เนื่องจากเมื่อมีอายุมากขึ้น จำนวนและคุณภาพของไข่ก็จะลดลงเรื่อยๆ ทั้งนี้ การฝากไข่ สามารถแช่แข็งไว้ได้นานมากกว่า 10 ปี ทำให้สามารถวางแผนที่จะมีบุตรในช่วงที่มีความพร้อมได้

    ขั้นตอนการฝากไข่ ทำยังไง ?

    ฝากไข่ คือ, ฝากไข่ ราคา
    Image Credit : freepik.com

    สำหรับขั้นตอนในการฝากไข่ ค่อนข้างที่จะมีหลายตอนและมีความละเอียดอยู่บ้าง ซึ่งสามารถเข้าไปปรึกษาที่โรงพยาบาลชั้นนำต่างๆ เพื่อขอคำแนะนำก่อนได้ และถ้าใครตกลงที่จะฝากไข่ ก็จะมีขั้นตอนดังนี้

    1. ตรวจเลือดและตรวจฮอร์โมนต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อม

      โดยแพทย์จะทำการตรวจหลายรายการ เพื่อดูความสมบูรณ์และความพร้อมของสุขภาพร่างกาย ณ ขณะนั้น เช่น ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ตรวจกรุ๊ปเลือดตรวจหมู่เลือด Rh ต่างๆ ตรวจวัดระดับฮอร์โมนของรังไข่ รวมถึง ตรวจโรคอื่นด้วยๆ เช่น ตรวจหาเชื้อ HIV ไวรัสตับอักเสบ A B C ตรวจธาลัสซีเมีย เป็นต้น

      2. ทำการกระตุ้นรังไข่

        หลังจากตรวจร่างกายแล้ว และแพทย์ประเมินว่าสามารถเก็บไข่ได้ ก็จะเริ่มกระบวนการฉีดยากระตุ้นไข่ หลังจากนั้นประมาณ 3 – 5 วัน แพทย์จะนัดตรวจติดตามอาการเพื่อตรวจเช็กฮอร์โมนต่างๆ และตรวจอัลตราซาวด์ดูการเจริญเติบโตของไข่ หากได้ขนาดที่เหมาะสมตามที่แพทย์ต้องการแล้ว ก็จะทำการฉีดยาเพื่อให้ไข่ตก

        3. ฉีดยากระตุ้นให้ไข่ตก

        เมื่อได้ไข่ที่มีขนาดเหมาะสมตามที่แพทย์ต้องการแล้ว แพทย์จะทำการฉีดยาเพื่อทำให้ไข่มีความพร้อมสำหรับการเก็บไข่ และกระตุ้นให้ไข่ตก

        4. เก็บไข่

          หลังจากฉีดยาให้ไข่ตกแล้ว จะรอประมาณ 34 – 36 ชั่วโมง และทำการเก็บไข่ โดยแพทย์จะทำการอัลตราซาวด์เพื่อดูตำแหน่งไข่ให้ชัดเจน แล้วจะนำเข็มที่ใช้ในการเก็บไข่สอดเข้าไปที่รังไข่ และใช้เข็มดูดเซลล์ไข่ออกมา โดยทำได้สองวิธีคือ เก็บไข่ทางช่องคลอด และเก็บไข่ผ่านทางหน้าท้อง ซึ่งการเก็บไข่เป็นการทำหัตการขนาดเล็ก จึงมีการใช้ยาสลบ และใช้เวลาในการเก็บไข่ประมาณ 30 นาที

          5. แช่แข็งไข่

            เมื่อได้เซลล์ไข่ออกมาแล้ว จะถูกนำไปตรวจดูความสมบูรณ์ของไข่ในห้องปฏิบัติการ และจะถูกนำเอาไปแช่แข็งด้วยไนโตรเจนเหลว เพื่อเป็นการฝากไข่ไว้กับทางโรงพยาบาลนั่นเอง

            เกร็ดสุขภาพ : หลังจากทำการเก็บไข่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่ควรขับรถกลับบ้านเองตามลำพัง เพราะอาจมีอาการอ่อนเพลียได้ ทั้งนี้ หลังจากทำการฝากไข่เรียบร้อยแล้ว และพบว่ามีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้สูง ปวดท้องอย่างรุนแรง มีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ ปัสสาวะลำบาก ควรรีบเข้าไปพบแพทย์ทันที และควรงดการมีเพศสัมพันธ์ การออกกำลังกาย และยกของหนักในช่วง 1 สัปดาห์แรก เพราะอาจกระทบกระเทือนแผลได้

            ก่อนจะไปฝากไข่ ควรเตรียมตัวอย่างไร ?

            1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และดีต่อร่างกาย โดยเน้นโปรตีนเป็นหลัก ลดการรับประทานแป้ง น้ำตาล ลดขนมขบเคี้ยว 
            2. ไม่ควรรับประทานอาหารหลัง 6 โมงเย็น 
            3. รับประทานวิตามินและอาหารเสริมต่างๆ ร่วมด้วย เช่น Co – Q10, วิตามินดี, โฟเลต โดยสามารถปรึกษาแพทย์เรื่องการรับประทานอาหารเสริมเพื่อบำรุงร่างกายได้ 
            4. พักผ่อนให้เพียงพอ นอนให้ครบ 7 – 9 ชั่วโมง
            5. ฝึกบริหารอารมณ์ และมีวิธีการจัดการความเครียด เพราะมีผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย
            6. ในวันที่จะไปเก็บไข่ งดทาสีเล็บ งดแต่งหน้า ห้ามใส่เครื่องประดับและคอนแทคเลนส์ เนื่องจากแพทย์จะต้องทำการประเมินสภาวะการได้รับออกซิเจนทางปลายนิ้วมือ นิ้วเท้า และใบหน้า

            ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในการเก็บไข่

            • การใช้ยากระตุ้นสำหรับการสร้างไข่ และกระตุ้นให้ไข่ตก อาจทำให้รังไข่บวมได้ แต่พบได้น้อย และอาจทำให้ปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสียได้ 
            • อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนในช่วงทำการเก็บไข่ ซึ่งการใช้เข็มดูดเซลล์ออกมาอาจทำให้เลือดออกในช่องท้อง เกิดการติดเชื้อได้ 
            • ทำให้อารมณ์แปรปรวน เนื่องจากได้รับฮอร์โมนและยากระตุ้นการตกไข่ ทำให้ส่งผลต่อภาวะอารมณ์ได้

            การฝากไข่ และโอกาสในการตั้งครรภ์มีบุตร

            ฝากไข่ คือ, ฝากไข่ ราคา
            Image Credit : freepik.com

              การฝากไข่ คือวิธีการเก็บไข่ในช่วงอายุวัยเจริญพันธ์ุ ซึ่งไข่จะมีความสมบูรณ์มาก และอัตราความสมบูรณ์ของไข่หลังละลายความเย็นแล้วจะอยู่ 80% – 90% และจำนวนไข่ที่แนะนำให้แช่แข็งไว้นั้น จะขึ้นอยู่กับอายุของผู้ที่มาเก็บไข่ หากอายุมากขึ้น ก็จำเป็นจะต้องเก็บไข่มากขึ้นเพื่อหาไข่ที่สมบูรณ์มากที่สุด โดยส่วนใหญ่จะเก็บไข่ประมาณ 15 – 20 ใบ แต่สำหรับผู้หญิงที่มีจำนวนไข่มาก อาจเก็บได้ถึง 20 – 30 ใบ โดยขึ้นอยู่กับความแข็งแรงและสภาพร่างกายของแต่ละคนด้วย และควรนำไข่มาใช้ก่อนที่ผู้ตั้งครรภ์จะอายุถึง 45 ปี เพราะถ้าอายุเกินกว่านี้ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหลายประการในขณะตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อทั้งแม่และลูกค่ะ

              ฝากไข่ ราคาเท่าไหร่ ?

              โดยทั่วไปแล้ว ค่าใช้จ่ายสำรับการฝากไข่ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 100,000 – 200,000 บาท แล้วแต่สถานพยาบาลในแต่ละแห่ง และยังมีค่าฝากไข่รายปีอยู่ที่ประมาณ 1,500 – 5,000 บาท/ปี ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลที่ได้ทำการเก็บไข่เอาไว้ด้วย

              การฝากไข่ คืออีกหนึ่งทางเลือกสำหรับสาวๆ ที่อยากจะมีลูกในอนาคต และยังไม่พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ในตอนนี้ ไม่ว่าจะยังสนุกกับงาน ยังไม่ได้มีการวางแผนที่จะแต่งงาน สร้างครอบครัว หรือร่างกายยังไม่พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ในตอนนี้ ก็สามารถไปฝากไข่เอาไว้ก่อนได้ เพื่อที่จะได้นำไข่ไปปฏิสนธิกับอสุจิของคู่แต่งงานในอนาคต และมีบุตรตามที่ต้องการได้ หากใครที่กำลังสนใจจะทำการฝากไข่ ก็หวังว่าจะได้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจมากขึ้นนะคะ

              อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : mayoclinic.org, nakornthon.com, bnhhospital.com, medicalnewstoday.com

              Featured Image Credit : freepik.com

              ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ

              ติดต่อโฆษณา

              เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

              Privacy Preferences

              คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

              Allow All
              Manage Consent Preferences
              • คุกกี้ที่จำเป็น
                Always Active

                ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

              • คุกกี้การวิเคราะห์

                เราขออนุญาติใช้คุกกี้นี้เก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดีขึ้นให้กับคุณ

              Save