“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
บอดี้ ออย คืออะไร ? ใช้ดีหรือไม่ ชวนรู้จักผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย ให้ผิวโกลว์ สวยใส ดูสุขภาพดี
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายนั้นมีอยู่หลายแบบด้วยกัน ที่รู้จักกันดีก็จะเป็นพวกโลชั่น น้ำตบ มอยส์เจอไรเซอร์ หรือถ้าต้องการความชุ่มชื้นมากๆ ก็จะเป็น Body Cream หรือ Body Butter ทั้งนี้ ยังมีสิ่งที่เรียกว่า Boby Oil หรือ บอดี้ ออย ที่เป็นน้ำมันสำหรับบำรุงผิวกายโดยเฉพาะ เหมาะมากสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งกร้านและขาดความชุ่มชื้นอย่างหนัก Body Oil คืออะไร ทำมาจากอะไร ดีต่อผิวอย่างไร มาอ่านเพิ่มเติมกันเลยค่ะ
ชวนรู้จัก บอดี้ ออย ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยให้ผิวดูโกลว์ สวยใสสุขภาพดี
บอดี้ ออย คือสกินแคร์ชนิดหนึ่ง เป็นน้ำมันบำรุงผิวที่จะช่วยให้ผิวของเรามีความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน เปล่งปลั่ง และผิวดูสุขภาพดีมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีผิวแห้ง ซึ่งจะต้องบำรุงผิวอย่างหนัก รวมถึงคนที่อยู่ในห้องแอร์เป็นประจำก็อาจทำให้ผิวแห้งได้ และถ้าเราปล่อยให้ผิวแห้งแตกก็จะทำให้เกิดอาการคันหรือลอกเป็นขุย ดูไม่สวยงาม ออยบำรุงผิวนั้นสามารถใช้ได้กับทุกคนและทุกสภาพอากาศ แต่ถ้าหากใครไม่ชอบความเหนียวเหนอะหนะ อาจจะใช้เฉพาะในช่วงฤดูหนาวก็ได้ค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : บอดี้ ออย เหมาะกับคนที่มีผิวแห้งมาก มีผื่นคัน หรือมีริ้วรอยเหี่ยวย่น เพราะออยหรือน้ำมันจะทำหน้าที่ล็อกความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างล้ำลึก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ออยบำรุงผิวที่มาจากน้ำมันธรรมชาติแท้ 100% ซึ่งจะซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว เนื้อออยมีความเบา บำรุงให้ผิวดูโกลว์สวยใส อิ่มเอิบและดูเนียนนุ่มน่าสัมผัส
ข้อดีของบอดี้ ออย คืออะไร
บางคนอาจจะเกิดความสงสัยว่า Body Oil แตกต่างจากสกินแคร์ชนิดอื่นๆ อย่างไร มีข้อดีอย่างไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
- ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ยาวนานตลอดทั้งวัน
- ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวดูสุขภาพดีจากภายใน
- ช่วยลดเลือนรอยดำ รอยแผลเป็น ทำให้รอยแตกตามผิวหนังแลดูจางลง
- ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ป้องกันผิวแตกลายสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือคนที่มีน้ำหนักเกิน
- บรรเทาอาการคันจากผิวแห้ง ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น และช่วยป้องกันการเกิดรอยดำจากการเกาอีกด้วย
- มีความเป็นธรรมชาติสูง มีสารเติมแต่งน้อย เหมาะสำหรับผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย
ชวนรู้จักน้ำมันจากธรรมชาติ ส่วนผสมหลักในบอดี้ ออย
สำหรับคนที่สงสัยว่า บอดี้ ออย ทำมาจากอะไร ? โดยส่วนใหญ่แล้ว จะทำมาจากน้ำมันธรรมชาติแท้ 100% และมีการเติมกลิ่นอย่างน้ำมันหอมระเหยเข้าไป เพื่อให้ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์รู้สึกผ่อนคลายกับกลิ่นหอมๆ จากออยบำรุงผิว น้ำมันชนิดใดบ้างที่นิยมใช้เป็นส่วนผสมหลักของ Body Oil มาดูกันเลยค่ะ
1. น้ำมันมะกอก หรือ Olive Oil
เราคุ้นเคยกันดีว่าน้ำมันมะกอก ประโยชน์สามารถช่วยบำรุงผิวของเราได้ดี ในน้ำมันมะกอกมีวิตามินอี วิตามินเอ วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด น้ำมันมะกอกจะช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มอยู่เสมอ ไม่แตกแห้งกร้าน ที่สำคัญคือ น้ำมันมะกอกมีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังช่วยปลอบประโลมผิวจากการโกนขนด้วยนะคะ ช่วนเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหลังโกน ทำให้ผิวไม่แห้งและคันน้อยลง แล้วก็ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคืองขณะโกนขนด้วยค่ะ
2. น้ำมันโจโจ้บา หรือ JoJoba Oil
ส่วนผสมบอดี้ ออย ที่นิยมกันก็คือ โจโจ้บาออย เป็นหนึ่งในน้ำมันจากธรรมชาติที่ได้จากเมล็ดโจโจ้บา มีวิตามินอีสูง ช่วยรักษาความชุ่มชื้นได้ดี ทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอยอีกด้วย วิตามินอีมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ทำให้รอยแผลเป็นแลดูจางลง แล้วก็ช่วยปรับสมดุลผิวอีกด้วย น้ำมันโจโจ้บามีความอ่อนโยนสูง เหมาะกับผิวแพ้ง่าย ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองค่ะ
3. น้ำมันเมล็ดทานตะวัน หรือ Sunflower seed Oil
นอกจากจะเอามาทำอาหารแล้ว น้ำมันทานตะวัน ประโยชน์ก็ใช้เป็นส่วนผสมของบอดี้ ออยได้ด้วย แต่ใช้กรรมวิธีสกัดแตกต่างจากน้ำมันที่ใช้ทำอาหารนะคะ อย่าได้เอาน้ำมันสำหรับทำอาการมาทาตัวเด็ดขาดเชียว น้ำมันเมล็ดทานตะวันมีกรดไลโนเลอิกสูง ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ อันเกิดจากรังสียูวีได้ดี ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน และยังอุดมไปด้วยวิตามินอี ช่วยลดเลือนริ้วรอย ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว มีเนื้อสำผัสบางเบา ไม่ทำให้รูขุมขนอุดตัน จะผิวแบบไหนก็ใช้ได้ค่ะ
4. น้ำมันมะพร้าว หรือ Coconut Oil
กล่าวได้ว่า น้ำมันมะพร้าวนั้นเป็นน้ำมันสารพัดประโยชน์ โดยเฉพาะน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากมะพร้าว สามารถใช้บำรุงได้ทั่วกาย ทั้งบำรุงเส้นผม บำรุงผิว ใช้ทำ Oil Pulling ก็ได้ น้ำมันมะพร้าวโดดเด่นในเรื่องการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื่นน่าสัมผัส ช่วยฟื้นฟูผิวแห้งกร้านได้ดี มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยให้ผิวกระชับเต่งตึง และมีความเปล่งปลั่งสดใสมากขึ้น
5. น้ำมันอัลมอนด์ หรือ Almond Oil
นอกจากจะมีรสชาติอร่อยแล้ว เมล็ดอัลมอนด์ยังเอามาสกัดเป็นน้ำมันอัลมอนด์เพื่อใช้บำรุงผิวได้อีกด้วยนะคะ ในน้ำมันเมล็ดอัลมอนด์อุดมไปด้วยกรดไขมันที่มีประโยชน์ มีแร่ธาตุและวิตามินมากมาย มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยดูแลผิวของเราให้มีสุขภาพดี ช่วยให้รอยแผลเป็นแลดูจางลง ช่วยบรรเทาการอักเสบของผิวที่เกิดจากการโดนแสงแดดเผา ช่วยปรับสภาพผิวให้มีความเรียบเนียน มีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน ใช่ได้กับทุกสถาพผิวเลยค่ะ
6. น้ำมันโรสฮิป หรือ Rosehip Oil
บอดี้ ออยหลายๆ แบรนด์ก็มีการนำเอาน้ำมันโรสฮิปมาเป็นส่วนผสมเช่นกัน เป็นน้ำมันที่สกัดจากเมล็ดโรสฮิป อุดมไปด้วยวิตามินเอและวิตามินซีในปริมาณมาก ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังได้ดี ทำให้ผิวมีความเต่งตึง ไม่เหี่ยวย่น มีความยืดยุ่นมากขึ้น บำรุงให้ผิวมีความชุ่มชื่น ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย สามารถใช้บำรุงผิวหน้าได้ด้วย ช่วยให้รอยสิวจางลงไวขึ้น และผิวแลดูกระจ่างใสมากขึ้นกว่าเดิม
7. น้ำมันเมล็ดองุ่น หรือ Grapeseed Oil
น้ำมันเมล็ดองุ่นที่ประกอบด้วยวิตามินอีและกรดไขมันจำเป็น มีความบางเบาเมื่อเทียบกับน้ำมันธรรมชาติอื่นๆ ทำให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดี ไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยให้ผิวโกลว์สวยใสอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านจุลชีพ และต้านการอักเสบ สามารถบำรุงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหมาะกับผู้ที่ผิวแพ้ง่ายอีกด้วย
8. น้ำมันงาดิบ หรือ virgin sesame oil
น้ำมันงาดิบก็ใช้เป็นออยบำรุงผิวได้เช่นกัน เป็นน้ำมันธรรมชาติบริสุทธิ์ที่ได้จากการบีบอัดเมล็ดงาดิบ โดยกระบวนการบีบอัดเอาน้ำมันออกเป็นแบบอัดเย็น ทำให้ได้น้ำมันงาที่มีวิตามินอีอยู่ปริมาณมาก การนำน้ำมันงามาใช้ประโยชน์มีมานานตั้งแต่อดีต มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีสรรพคุณต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา ต้านไวรัส ช่วยชะลอการแก่ของเซลล์ ต้านอาการลุกลามของผื่นและแผล ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น และทำให้ผิวนวลเนียน มีสุขภาพดี
เกร็ดสุขภาพ : ควรใช้ Body Oil ตอนไหน ? แนะนำว่าควรใช้ออยทาผิวหลังอาบน้ำ ขณะที่ผิวยังเปียกหมาดๆ เพราะน้ำมันจะซึมลงผิวได้ดีกว่าตอนที่ผิวแห้งสนิท ใช้ในปริมาณที่พอดีไม่มากเกินไป ลูบไล้ให้ทั่วผิวกาย โดยเฉพาะบริเวณที่แห้งกร้าน น้ำมันจะค่อยๆ ซึมลงไปกับผิว ใครที่มีผิวแห้งมากก็อาจจะใช้บอดี้ออยหลังอาบน้ำทั้งเช้าและเย็น แต่ถ้าใครมีสภาพผิวปกติ อาจจะใช้แค่ช่วงเย็นก็ได้ค่ะ ทั้งนี้ ควรเก็บออยบำรุงผิวในอุณหภูมิห้อง ไม่ร้อนจนเกินไป เก็บในบริเวณที่ไม่ถูกแสงแดด เพื่อให้ออยยังคงประสิทธิภาพตามเดิม
แนะนำ Body Oil คุณภาพเริด บำรุงผิวได้อย่างดีเยี่ยม
ในตอนนี้เราก็รู้จักบอดี้ออยกันมากขึ้นแล้ว สำหรับใครที่มีผิวแห้งกร้าน ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบไหนก็ยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้นได้ไม่เต็มที่ ต้องลองใช้บอดี้ออยเลยค่ะ โดยปกติแล้ว บอดี้ออยมักจะมีขายทั่วไปในแบรนด์สกินแคร์ต่างๆ มีทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์ต่างประเทศ จะมีตัวไหนที่น่าสนใจบ้าง เราคัดมาให้แล้วค่ะ
1. Journal Body Oil
ถ้าพูดถึงน้ำมันบำรุงผิวกาย แบรนด์ Journal จะต้องถูกพูดถึงอย่างแน่นอน เป็นแบรนด์ไทยที่ทำผลิตภัณฑ์ออกมาได้ดีมีคุณภาพสูงมาก ทั้งน้ำหอมและบอดี้ออย บอดี้ออยจากแบรนด์นี้ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น ซึมซาบไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ อุดมไปด้วยวิตามินและสารสกัดจากน้ำมันธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวคุณดูเปล่งปลั่งสุขภาพดี แนะนำเป็นกลิ่น Promise กลิ่นหอมที่ให้ความรู้สึกถึงความสดใส มีชีวิตชีวา จากความหวานอมเปรี้ยวของส้มโอและความสดชื่นซาบซ่าของว่านเสน่ห์จันทร์หอม เพียงหยดออยล์ลงบนฝ่ามือ แล้วนวดลูบไล้บนผิวกายหลังอาบน้ำขณะผิวเปียกหมาดๆ เพื่อให้ออยล์ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก สามารถใช้บำรุงผิวได้ทุกวัน หรือจะผสมในอ่างอาบน้ำช่วยให้ผ่อนคลายและทำให้ผิวไม่เสียความชุ่มชื้นจากการแช่น้ำอุ่นก็ได้ ช่วยป้องกันผิวแห้งได้เป็นอย่างดีค่ะ
ราคาโดยประมาณ : 1,080 บาท (180 ml.)
2. Erb Eastern treat Body Oil
น้ำมันทาผิวแบรนด์ไทย “เอิบ” บำรุงผิวได้อย่างรวดเร็วไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะ ช่วยคงความชุ่มชื้น ปกป้องการสูญเสียน้ำจากผิว เหมาะสำหรับผิวธรรมดาและผิวแห้ง ใช้ทาผิวกายหลังอาบน้ำใหม่ๆ ตอนตัวเปียกหมาดๆ เพื่อการเก็บกักความชุ่นชื้นที่มีประสิทธิภาพ มีส่วนผสมน้ำมันงาและน้ำมันรำข้าว มีวิตามินอีที่ช่วยบำรุงผิว ช่วยคงความชุ่มชื้น ปกป้องการสูญเสียน้ำจากผิว บำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื่นยาวนาน แนะนำเป็นกลิ่น Eastern treat ผสมผสานความหอมจากดอกมะลิและสะระแหน่ ช่วยให้รู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย ช่วยบรรเทาความเครียด ทาหลังอาบน้ำก่อนเข้านอนเหมาะมากๆ ค่ะ
ราคาโดยประมาณ : 890 บาท (230 ml.)
3. Neutrogena Body Oil Light Sesame
นูโทรจีนา บอดี้ ออยล์ ไลท์ เซซามี่ เป็นออยล์บำรุงผิวกายที่ผสานคุณค่าสารสกัดน้ำมันงา สูตรเนื้อบางเบา ฟื้นบำรุงผิวแห้งหยาบกร้านให้ดูสุขภาพดีเปล่งประกาย เนียนนุ่มชุ่มชื้นทันทีในทุกสัมผัส ด้วยเนื้อสัมผัสบางเบาหอมละมุน สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวรวดเร็ว ไม่ทิ้งคราบเหนียวเหนอะหนะ พร้อมช่วยฟื้นบำรุงผิวแห้งหยาบกร้านให้ดูสุขภาพดีเปล่งประกาย เนียนนุ่มชุ่มชื้นยาวนาน เพียงหยดออยล์ลงบนฝ่ามือและชโลมบนผิวกายขณะหมาด ลูบไล้เพื่อให้ซึมซาบเข้าสู่ผิว หรือหยดออยล์ลงในน้ำขณะแช่ในอ่างอาบน้ำ หรือชโลมบนผิวกายขณะอาบน้ำด้วยฝักบัวก็ได้เช่นกันค่ะ
ราคาโดยประมาณ : 470 – 490 บาท (250 ml.)
4. L’Occitane Almond Supple Skin Oil
ถ้าใครมีงบสูงหน่อย อยากให้ลองเป็นตัวนี้เลยค่ะ L’Occitane Almond Supple Skin Oil อัลมอนด์ออยล์และคาเมลลินาออยล์ ที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 และ 6 รวมถึงซิลิเซี่ยมที่ช่วยให้ผิวกระชับขึ้นเป็นพิเศษ ใช้ชโลมได้ทั่วผิวกาย ทำให้ผิวของเราได้รับการถนอม บำรุงให้ผิวนุ่มนวลน่าสัมผัส และกระชับเต่งตึงยิ่งขึ้น ช่วยป้องกันการเกิดรอยแตกลาย ด้วยส่วนผสมของอัลมอนด์ออยล์มากกว่า 50% ที่ช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวกระชับและนุ่มลื่นขึ้น เป็นออยล์ทาผิวสูตรเข้มข้น แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ที่สำคัญคือ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายขนม สายหวานต้องชอบค่ะ
ราคาโดยประมาณ : 2,390 บาท (100 ml.)
5. Tropicana น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ออร์แกนิค
บอดี้ออยบำรุงผิวตัวสุดท้ายที่นำมาแนะนำ เป็นน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นออร์แกนิคแบรนด์ไทย Tropicana สามารถใช้บำรุงได้ทั้งผิวและผม ใช้เช็ดเครื่องอาง ใช้นวดตัว นวดหน้า หรือจะบริโภคก็ได้เช่นกันค่ะ สารพัดประโยชน์มากๆ ผลิตจากมะพร้าวพันธุ์ดีในเขตภาคใต้ของประเทศไทย ด้วยกรรมวิธีสกัดเย็นเนื้อมะพร้าวและเยื่อหุ้มเนื้อมะพร้าว จึงให้น้ำมันมะพร้าวสีเหลืองทอง มีกลิ่นหอมของมะพร้าว อุดมด้วยไปด้วยแร่ธาตุวิตามินที่มีประโยชน์ทั้งต่อผิวแต่ต่อสุขภาพ ที่สำคัญคือ มีราคาย่อมเยามากๆ แต่ถ้าจะใช้บำรุงผิว แนะนำว่าควรทาตัวหลังอาบน้ำ เพราะน้ำมันค่อนข้างมีเนื้อหนัก มีความเข้มข้นสูง พร้อมนวดตัวเบาๆ เพื่อให้น้ำมันซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
ราคาโดยประมาณ : 200 บาท ( 250 ml.)
ตอนนี้ก็ได้รู้จักบอดี้ออยกันมากขึ้น และรู้ประโยชน์ของบอดี้ออยกันไปแล้ว สำหรับใครที่มีผิวแห้ง หรือมักจะมีปัญหาผิวแห้งแตกในช่วงฤดูหนาว ลองเปลี่ยนมาใช้บอดี้ออยแทนโลชั่นทั่วไปดูนะคะ อาจทำให้ผิวของเรามีความชุ่มชื้นมากขึ้น เพราะน้ำมันบำรุงผิวช่วยลดปัญหาผิวแห้งแตกได้ดี ทั้งยังทำให้ผิวของเรามีสุขภาพดีขึ้นด้วย และถ้าเลือกเป็นน้ำมันบำรุงผิวจากธรรมชาติ 100% ก็จะยิ่งดี เพราะไม่ต้องกังวลในเรื่องของสารเคมีเจือปน ใครที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ก็สามารถใช้ได้แน่นอนค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : evolvebeauty.co.uk, byrdie.com, everydayhealth.com
Featured Image Credit : freepik.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ