“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ความรู้สึกว่างเปล่า ที่เกิดขึ้นในใจ คืออะไร ควรทำไงดี ? ชวนบริหารสุขภาพใจ เมื่อรู้สึกว่างเปล่าในชีวิต
เคยมั้ยคะที่จู่ๆ ก็รู้สึกโหวงๆ ในใจ รู้สึกว่าชีวิตว่างเปล่า ไม่มีความหมาย ทั้งๆ ที่ชีวิตก็ดูปกติ มีงาน มีเงิน บางคนก็มีคนรักที่ดีหรืออยู่กับคุณพ่อคุณแม่ ไม่ได้อยู่คนเดียว แต่ก็ยังรู้สึกเหงา โดดเดี่ยว รู้สึกว่าต้องการอะไรบางอย่างมาเติมเต็มในใจ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ทำให้เกิด ความรู้สึกว่างเปล่า (Emptiness) ขึ้นในใจ พาลทำให้รู้สึกเนือยๆ ไม่อยากทำอะไร ไม่มีกะจิตกะใจจะทำ ไร้จุดมุ่งหมาย ความรู้สึกนี้คืออะไรกันแน่ ? เกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วเราจะทำยังไงกับความรู้สึกนี้ดีเพื่อไม่ให้จิตใจห่อเหี่ยวจนเกินไป มาดูกันเลยค่ะ
ความรู้สึกว่างเปล่า คืออะไร ? เกิดขึ้นได้ยังไง ?
ถ้าถามคนที่เคยรู้สึกว่างเปล่าในชีวิต เชื่อว่าจะได้คำตอบที่แตกต่างกัน บางคนอาจเป็นความรู้สึกเหงา รู้สึกโดดเดี่ยว หรือรู้สึกโหวงๆ ในใจ หรือเป็นความรู้สึกสับสน ไม่แน่ใจในเส้นทางชีวิตและเป้าหมายของตัวเอง หรือไร้แรงจูงใจที่จะทำสิ่งต่างๆ ซึ่งความรู้สึกว่างเปล่านี้ อาจเกิดขึ้นได้เมื่อคนๆ นั้นกำลังตกอยู่ในสถานการณ์สำคัญของชีวิต เช่น อาจจะกำลังตกงาน เลิกรากับคนรัก หรือสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป หรือกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนเส้นทางชีวิต ทำให้เกิดความสับสนในใจ ไม่แน่ใจในเป้าหมายในชีวิต หรือทำในสิ่งที่ก่อให้เกิดคำถามว่า ทำไปทำไม เพื่ออะไร หรือทำไปเพื่อใคร และอาจทำให้เกิดความรู้สึกอื่นๆ ตามมา เช่น
- ไร้จุดมุ่งหมาย รู้สึกว่าชีวิตไม่มีความหมาย
- รู้สึกสับสน
- ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วตัวเองรู้สึกยังไงกันแน่
- อยากอยู่คนเดียว
- รู้สึกไม่มีความสุข รู้สึกเศร้า
- ขาดแรงจูงใจ
- รู้สึกเบื่อหน่าย ขาดความสนใจในสิ่งต่างๆ
- รู้สึกแปลกแยกจากคนอื่น
เกร็ดสุขภาพ : ความรู้สึกว่างเปล่าอาจเกิดขึ้นได้เมื่อระดับฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงผิดปกติ เช่น ในผู้หญิงที่มีอาการ PMDD ในช่วงก่อนมีประจำเดือน หรืออาจเกิดขึ้นเพราะเราเจอกับสถานการณ์ตึงเครียดมากเกินไปและยังหาทางออกไม่ได้ หรืออาจมีสาเหตุมาจากการที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง โฟกัสกับสิ่งอื่นๆ มากเกินไปจนทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า ไม่ได้ทำตามเป้าหมายของตัวเองหรือไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ทำให้รู้สึกว่าชีวิตไร้ความหมาย ไม่ได้เข้าสังคมหรือพูดคุยกับคนอื่นๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวและแปลกแยก ทั้งนี้ เมื่อคนๆ หนึ่งเริ่มรู้สึกว่างเปล่า อาจเป็นสัญญาณของโรคซึมเศร้าได้ด้วยเช่นกัน
จักการกับความรู้สึกว่างเปล่าที่เกิดขึ้นอย่างไรดี ?
ความรู้สึกว่างเปล่าที่เกิดขึ้นนั้น หากเกิดเป็นครั้งคราว หรือเกิดเฉพาะในช่วงเวลาที่ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ จากนั้นก็กลับสู่สภาวะปกติ ถ้าเป็นแบบนี้ อาจไม่ก่อให้เกิดปัญหาทางใจใดๆ แต่ถ้าเรารู้สึกว่างเปล่าอยู่ตลอดเวลา หรือรู้สึกว่าชีวิตไร้ความหมาย โหวงๆ อยู่ในใจเป็นเดือน หากปล่อยไว้เป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดปัญหาทางสุขภาพจิตได้ เช่น รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า เหงา โดดเดี่ยว แปลกแยก อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าหรือเป็นโรควิตกกังวลได้ แล้วเราจะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงดี เพื่อไม่ให้เสียสุขภาพจิต มาดูกันเลยค่ะ
1. ตระหนักว่าตัวเองรู้สึกแบบนั้น
เริ่มแรกเราต้องยอมรับกับตัวเองให้ได้ก่อนว่า ตอนนี้เรากำลังรู้สึกแบบไหน เพื่อที่จะได้เข้าใจตัวเองมากขึ้น และหาทางออกได้ การรู้สึกว่างเปล่า เหงา โดดเดี่ยว สับสน ไม่ใช้สิ่งที่แย่แต่อย่างใด มนุษย์เราย่อมเกิดความรู้สึกลบๆ ขึ้นมาได้ และลองหาสาเหตุดูว่าเพราะเหตุใดเราถึงรู้สึกแบบนั้น เช่น รู้สึกว่างานที่ทำอยู่ไม่ตอบโจทย์ตัวเอง หรือหรือรู้สึกว่างเปล่าเพราะกำลังทำตามความต้องการของคนอื่นอยู่ และละเลยความต้องการของตัวเอง หรือกำลังรู้สึกแบบนี้เพราะเลิกรากับคนรัก ฯลฯ เมื่อเรารู้สาเหตุที่แท้จริงแล้ว เราก็จะสามารถแก้ไขที่ต้นตอได้นั่นเอง
2. ค่อยๆ สำรวจความรู้สึกของตัวเอง
เมื่อเรายอมรับหรือตระหนักรู้ได้แล้วว่าเรากำลังรู้สึกแบบไหน ขั้นตอนต่อมาคือการสำรวจความรู้สึกของตัวเอง ลองถามตัวเองด้วยคำถามต่อไปนี้ ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจตัวเองได้มากขึ้น
- ทำไมวันนี้เราถึงรู้สึกแบบนี้?
- เรากำลังผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากอยู่ใช่หรือไม่ ?
- อะไรที่ทำให้เราไม่มีความสุขในวันนี้?
- เรากำลังเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นอยู่หรือเปล่า ?
- ฉันกำลังโทษตัวเองหรือกำลังรู้สึกผิดกับอะไรบางอย่างอยู่หรือเปล่า ?
เมื่อได้คำตอบแล้ว จะทำให้เราหาสาเหตุที่แท้จริงได้ และทำการแก้ไขปัญหานั้นๆ ต่อไป เช่น รู้สึกว่างเปล่าเพราะงานที่ทำอยู่ไม่มีความหมายกับตัวเอง ทำให้ตัวเองรู้สึกว่าชีวิตไม่มีคุณค่าและรู้สึกโหวงๆ ว่างเปล่า การมองหางานใหม่ที่ตอบโจทย์ชีวิตมากกว่าอาจทำให้ความรู้สึกนี้หมดไป
3. อย่าลืมใส่ใจดูแลตัวเอง
การละเลยไม่ใส่ใจดูแลตัวเองก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกว่างเปล่าได้ ลองหันมาโฟกัสกับตัวเองให้มากขึ้น ดูแลตัวเองทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ หากทำได้ก็ควรมี Self – Care หรือมีการดูแลตัวเองแบบองค์รวม ทั้งในเรื่องของสุขภาพกาย อารมณ์ สังคม ความคิด และความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง การให้ความสำคัญกับตัวเองมากขึ้นจะช่วยให้เรารู้สึกว่างเปล่าน้อยลง และรู้สึกมีคุณค่ามากขึ้น อย่างน้อยก็กับตัวเอง และอย่าลืมใจดีกับตัวเอง ไม่ควรโทษตัวเองหรือกดดันตัวเองว่า ทำไมรู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกลบๆ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน หากเรายอมรับมันอย่างจริงใจและพร้อมที่จะหาวิธีแก้ไข สุดท้ายแล้วความรู้สึกแย่ๆ นั้นก็จะหายไป
เกร็ดสุขภาพ : เรากำลังรู้สึกว่างเปล่า หรือมีภาวะซึมเศร้ากันแน่ ? ในบางคนที่รู้สึกว่าชีวิตว่างเปล่า ซึมๆ เศร้าๆ และอาจสงสัยว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าด้วยหรือไม่ ในผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้านั้น อาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น รู้สึกห่อเหี่ยว ไม่มีพลัง ขาดกำลังใจ ไม่มีแรงจูงใจ รู้สึกเศร้าอย่างต่อเนื่อง ไม่มีความสุข หาความสุขในชีวิตได้ยาก รู้สึกสิ้นหวัง ไม่มีสมาธิ ทำงานมีประสิทธิภาพลดลง ปลีกตัวออกจากสังคม รู้สึกผิด รู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า และอาจมีอาการทางกายอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น นอนไม่หลับหรือนอนมากเกินไป มีพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ รวมถึงมีความคิดที่อยากทำร้ายตัวเองหรืออยากฆ่าตัวตายร่วมด้วย
4. ตั้งเป้าหมายเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต
เราอาจรู้สึกว่างเปล่าได้เมื่อชีวิตกำลังไร้ทิศทาง ซึ่งก่อให้เกิดความรู้สึกสับสน เคว้างคว้าง ไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตดี อาจอยู่ในช่วงที่กำลังว่างงาน หรืออยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของชีวิต เช่น ย้ายที่ทำงาน ย้ายที่อยู่ เปลี่ยนสถานะจากนักศึกษามาเป็นวัยทำงาน อยู่ในช่วงจบความสัมพันธ์ ฯลฯ การตั้งเป้าหมายเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต อาจช่วยให้เรารู้สึกว่าชีวิตมีทิศทางมากขึ้น และรู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่า มีความหมายมากขึ้น เช่น ตั้งเป้าหมายว่าจะเรียนภาษาอังกฤษให้เก่งขึ้น หรือวางแผนไปลงคอร์สเรียนทักษะอื่นๆ ที่สนใจเพิ่มเติม หรือไปทำกิจกรรมจิตอาสาต่างๆ ลองเริ่มจากสิ่งที่ตัวเองสนใจก่อน มันอาจยากที่จะเริ่มต้นในตอนแรก แต่นั่นจะช่วยให้เรารู้สึกไม่ว่างเปล่าอีกต่อไป
5. มองหาพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง
“ปัญหาจะเบาลงถ้ามีคนร่วมแชร์ด้วยกัน” ประโยคนี้ไม่ได้กล่าวเกินจริงแต่อย่างใด การพูดคุยแบ่งปันความทุกข์กับคนที่เราไว้ใจนั้น ช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นได้จริงๆ ลองสำรวจดูว่า มีใครบ้างที่เรารู้สึกสบายใจที่จะพูดคุยหรือระบายความทุกข์ให้ฟัง อาจจะเป็นพ่อแม่ พี่น้อง คนรัก หรือเพื่อนสนิท ฯลฯ ความรู้สึกเชื่อมโยงต่อกันหรือความรู้สึกผูกพันกับใครคนหนึ่งจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซินออกมา ซึ่งจะช่วยให้เรารู้สึกดีมากขึ้น รู้สึกสบายใจมากขึ้น และช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่อยู่ในใจได้
6. ให้เวลากับตัวเองในแต่ละวัน
สำหรับบางคนที่พยายามหลีกหนีความรู้สึกว่างเปล่าด้วยการออกไปทำกิจกรรมข้างนอก ออกไปพบปะกับผู้คน หรือไปช็อปปิ้ง ไปดูหนัง ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนทั้งวัน แต่ถ้ากลับบ้านมาแล้วยังรู้สึกโหวงๆ หรือยังรู้สึกว่างเปล่าอยู่ละก็ อาจถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องสำรวจภายในจิตใจของตัวเอง พิจารณาว่าจริงๆ แล้วเราต้องการอะไรกันแน่ ? เราอยากทำอะไร เป้าหมายในชีวิตของเราคืออะไร เรามีความหวัง ความฝันที่หลงลืมไปหรือเปล่า ? หรือเราไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ไม่กล้าลงมือทำเพราะกำลังกลัวสิ่งใดอยู่หรือเปล่า ? อาจลองเขียนมันออกมาก่อน หรือพูดออกมาแล้วอัดเสียงไว้ และเปิดฟังอีกครั้ง แม้จะดูแปลกๆ แต่สิ่งนี้ทำให้เราเข้าใจตัวเองได้อย่างแท้จริง และโฟกัสกับความต้องการของตัวเองได้อย่างมุ่งมั่น อันจะนำไปสู่การลงมือทำ และทำให้ไม่รู้สึกว่าชีวิตว่างเปล่า ไร้ความหมายอีกต่อไป
7. ชมตัวเองบ้าง
ความรู้สึกว่างเปล่าอาจเกิดขึ้นเพราะเรารู้สึกว่าตัวเองไม่ประสบความสำเร็จ ยังไม่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรือรู้สึกว่าตัวเองไร้ศักยภาพ ไร้ความสามารถ ไม่มีคุณค่า บางคนอาจมีอาการของโรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง แต่แทนที่จะเอาแต่กล่าวโทษตัวเองหรือทำให้ตัวเองรู้สึกไม่ดีต่อไปเรื่อยๆ จนส่งผลต่อสุขภาพใจ ลองหันมาชมเชยตัวเองบ้าง กว่าเราจะมาอยู่ในจุดนี้ได้ เชื่อว่าแต่ละคนต้องผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากมาด้วยกันทั้งนั้น หรือลองนึกถึงเรื่องที่ตัวเองรู้สึกภูมิใจดู เช่น ทำผลงานที่ยอดเยี่ยมแล้วได้รับคำชมเชย เรียนได้เกียรตินิยม หรือก้าวข้ามปัญหาที่ยากลำบากมาได้ และชมตัวเองว่าเราเก่งแล้ว เราทำดีแล้ว เราเองก็มีความสามารถ มีศักยภาพ และเราจะต้องผ่านมันไปให้ได้เหมือนกับทุกๆ ครั้งการกล่าวชมเชยตัวเองจะช่วยให้เรารู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น รู้สึกว่าตัวเราเองก็มีคุณค่า มีความหมาย ซึ่งจะช่วยให้เราไม่รู้สึกว่างเปล่าแบบที่เคยเป็น
ความรู้สึกว่างเปล่าอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะในช่วงที่ชีวิตเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เช่น กำลังจะลาออกจากงาน เปลี่ยนงาน เลิกรากับคนรัก สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก หรือเกิดขึ้นเพราะใช้ชีวิตไม่สอดคล้องกับความต้องการของตนเอง ยังทำตามเป้าหมายไม่สำเร็จ ฯลฯ หรืออาจเกิดขึ้นเพราะฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวนก็ได้ สาเหตุที่เรารู้สึกว่างเปล่านั้นเป็นได้หลายอย่างด้วยกัน แต่สิ่งที่สำคัญคือ การตระหนักถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นและทำความเข้าใจกับตัวเองเยอะๆ เพื่อหาต้นตอที่แท้จริงและปรับปรุงแก้ไขมัน อาจพูดคุยกับคนที่เราไว้ใจเพื่อหาทางแก้ไข หรือจะพูดคุยกับนักจิตวิทยาก็ได้เหมือนกัน ทั้งนี้ ไม่ควรปล่อยให้ความรู้สึกว่างเปล่าเกิดขึ้นนานเกินไป เพราะอาจบั่นทอนจิตใจของเราและนำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพจิตได้นะคะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : trackinghappiness.com, verywellmind.com, psychcentral.com
Featured Image Credit : freepik.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ